เตือนแม่ๆ ผลเสียของ iPad ทีวี กับเด็กวัยกำลังพูด จากประสบการณ์ลูกตัวเอง

ต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่า สิ่งที่เขียนต่อไปนี้เป็นความรู้สึกของคุณแม่เองที่เกิดจากการสังเกตพฤติกรรมพัฒนาการของลูก เผื่อคุณแม่ท่านไหนที่มีปัญหาเดียวกัน หรือคุณแม่ที่ยังไม่มีปัญหา อาจจะเป็นข้อคิดให้แม่ๆ บางท่านได้นะคะ

ตอนนี้คุณหนูตัวแสบของเราอายุ 2 ขวบครึ่งแล้วค่ะ ยังพูดเป็นประโยคไม่ได้ คือ สังเกตจากการพูดก็รู้สึกว่าลูกจะมีพัฒนาการทางการพูดช้าไปหน่อย (แต่เค้าฟังเราเข้าใจที่เราพูดเกือบทุกอย่าง) ก็เริ่มสังเกตมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ประมาณช่วง 2 ขวบต้นๆ ก็คุยกับคุณหมอประจำมาเรื่อยๆ ทุกครั้งที่พาลูกไปรับวัคซีน ซึ่งคุณหมอก็บอกให้คุณแม่ลองสังเกตไปก่อน จนเมื่อน้องรับวัคซีนครั้งล่าสุดตอน 2 ขวบ 6 เดือน พอดีว่าคุณหมอประจำของน้องไม่อยู่ เลยได้เจอหมออีกท่าน ซึ่งหมอคนนี้จะเป็นหมอที่เชี่ยวชาญเรื่องพัฒนาการ ของเด็ก เลยถือโอกาสปรึกษาเรื่องที่กลุ้มใจ คุณหมอเลยทดสอบความสนใจ การตอบสนองของน้องเบื้องต้น (คุณหมอทดสอบโดยการเรียกชือ และให้น้องดูหนังสือ เพื่อทดสอบการตอบสนอง การสบตา) และบอกว่า ดูจากที่ทดสอบยังไม่ชัดเจนว่าน้องจะมีโอกาสเป็นออติสติก (ถ้าเป็นก็อาจจะในระดับที่ต่ำ) อาจจะมีความบกพร่องเล็กน้อยบางส่วน แล้วการดูทีวีหรือการเล่น iPad ช่วยส่งเสริมให้พัฒนาส่วนการพูดของน้องสะดุดลงไป สรุป คุณหมอให้คุณแม่กลับมา ปิดทีวี ปิด iPad แล้วให้หากิจกรรมทำกับลูก เล่นกับลูก ไม่ปล่อยให้ลูกเล่นคนเดียว แล้วอีก 2 เดือน (ประมาณช่วงปลายเดือน พ.ย. ที่จะถึงนี้) คุณหมอนัดให้ทำทดสอบดูว่าน้องมีความผิดปกติอะไรรึเปล่า ถ้ามีก็จะต้องส่งเข้าคอร์สปรับพฤติกรรมต่อไป ถ้าไม่มี แม่ก็จะได้สบายใจ  ซึ่งช่วงนี้คุณแม่ก็กำลังอยู่ในระหว่างการปฏิบัติตามที่คุณหมอบอกค่ะ ซึ่งจากวันที่พบหมอ จนถึงวันนี้ก็เกือบๆ เดือน น้องพูดได้เยอะขึ้นค่ะ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นพูดเองเป็นประโยคได้มากนัก

ย้อนกลับไปที่ต้นตอของปัญหา ตามที่คุณแม่คิดนะค่ะ จริงๆ น้องเริ่มพูดได้ตั้งแต่ก่อน 1 ขวบด้วยซ้ำ เริ่มเรียกแม่ แล้วก็ช่วง 1 ขวบกว่าๆ ช่วงที่น้องกำลังเริ่มหัดพูดหัดฟัง ปรากฏว่า ปู่ย่าเปิดทีวีให้ดูค่ะ (พ่อแม่ทำงานนอกบ้านทั้งคู่ค่ะ ช่วงกลางวันน้องอยู่บ้านปู่ย่ากับพี่เลี้ยงค่ะ) น้องชอบดูทีวีค่ะ โดยเฉพาะรายการเพลงลูกทุ่ง น้องชอบดูมาก เมื่อเห็นทีวีเปิดช่องเพลงลูกทุ่งปุ๊ป น้องนั่งดูเงียบเลยค่ะ ไม่กวนไม่งอแง ปู่ย่าก็ชอบใจ หลานไม่กวน เปิดให้ดูกันใหญ่ แม่ก็พยายามบอกให้เพลาๆ อย่าเปิดให้ดูมากนัก ก็ไม่ค่อยฟังกันค่ะ พ่อแม่ก็ควบคุมไม่ได้ เพราะกลางวันไม่ค่อยได้อยู่กับลูก สั่งพี่เลี้ยงไว้ไม่ให้ลูกดู ก็ไม่เป็นผล เพราะพี่เลี้ยงก็ไม่กล้าขัดปู่กับย่า หลานร้องจะดูก็ให้ดูกันอยู่เรื่อยๆ และในระยะนี้ก็มีให้เล่น iPad บ้างโดยจะให้เล่นกะพ่อแม่ในเวลากลางคืนก่อนนอนนิดหน่อย

จนลูกเข้าสู่วัย 2 ขวบ ก็ยังพูดไม้ได้ตามวัยของเค้าที่ควรจะเป็น คือ พูดได้บางคำ และพูดเป็นภาษาต่างดาวสะเป็นส่วนมาก แบบพูดรัวๆ ยาวๆ แต่ฟังไม่รู้เรื่อง เรียกก็ไม่ค่อยจะหัน วิ่งซนอย่างเดียว คือจะนั่งนิ่งได้ก็ตอนดูทีวีเท่านั้น คุณแม่เริ่มคุยกับหมอ หมอก็แนะนำให้ปิดทีวี ก็กลับมาคุยกับปู่ย่า ซึ่งท่านก็รับปากว่าจะไม่เปิดให้ดู ซึ่งก็ทำได้แค่ 2-3 วันแรก และหนักเข้าคุณแม่สืบรู้ว่า ต่อหน้าเราปู่ย่าจะไม่เปิดให้ดู แต่พอลับหลังเรามาทำงาน เปิดให้ดูกันเป็นปกติ จนตอนหลังลูกเริ่มมีอาการนอนดึก ร้องจะดูทีวีไม่ยอมหลับยอมนอน ต้องมานอนหลับหน้าทีวีกันทุกคืน ไม่งั้นไม่ยอมนอน เป็นแบบนี้อยู่ 3-4 คืน พ่อกับแม่เริ่มไม่ไหว

เลยตัดสินใจยกทีวีไปเก็บในห้องเก็บของเลย ไม่มีทีวีให้ลูกเห็นในบ้าน พอไม่เห็นก็ไม่ร้องจะดู ก็เปลี่ยนมาสอนอ่านหนังสือ สอนพูดกันแทน ที่บ้านเราเองไม่ดูทีวีกันเลย หลัง 1 สัปดาห์ผ่านไป เห็นความแตกต่างขึ้นมาอย่างชัดเจน สอนพูดอะไร ก็พูดได้มากขึ้น ส่วนที่บ้านปู่ย่าก็ยังเปิดให้ดูกันอยู่ สุดปัญญาจะพูดกับเค้า

ผ่านไป 1 เดือน รู้สึกว่าการพูด การตอบสนองกับสิ่งที่เราพูดกับลูก ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างนี้ก็เริ่มให้ลูกดูหนังการ์ตูนจาก iPad เพราะเรารู้สึกว่าเค้าได้พูดตามตัวละครบ้าง อีกอย่างด้วยความซนของลูก บางทีรับกลับมาจากบ้านปู่ย่า แม่ต้องมาทำกับข้าว แล้วไม่มีใครดูลูก เราก็ให้เค้าดู iPad ช่วงที่เราทำกับข้าว เสร็จแล้วก็เก็บไว้ เค้าก็ไม่งอแง เรารู้สึกว่า เราควบคุมได้มากกว่าทีวี ส่วนทีวีพ่อเค้าก็เริ่มเอากลับมาอยู่ในบ้าน แต่จะไม่ค่อยเปิด หรือแม้แต่เปิดมา ลูกก็ไม่ค่อยสนใจทีวีเท่าไหร่แล้ว แต่หลังๆ กลายเป็นว่าติด iPad แทนจากที่ดูวันละเรื่อง เริ่มงอแงจะดูมากกว่าเดิม บางทีถึงขนาดร้องงอแง ขอดูจนหลับคา iPad ก็มี

ก็เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนล่าสุดได้ปรึกษาคุณหมอ ตามที่เขียนด้านบนนะค่ะ ซึ่งจากการเลิกดูทีวี เลิกดู iPad อย่างเด็ดขาดเกือบๆ เดือนที่ผ่านมา (เด็ดขาดนี่เฉพาะที่บ้านตัวเองค่ะ ส่วนบ้านปู่ย่า ยังมีแอบๆ อยู่ แต่ก็น้อยลงมาก ส่วนหนึ่งเพราะน้องไม่ค่อยสนใจจะดูแล้วด้วยค่ะ) น้องมีพัฒนาการการพูดดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้วางหนังสือให้ ก็เอามาอ่านมานั่งดู จากที่เมื่อก่อนน้องไม่สนใจเลยค่ะ พูดกับแม่มากขึ้น สบตามากขึ้น รู้สึกว่าเค้ามีสมาธิในการสื่อสารกับเรามากขึ้น ซึ่งแม่ก็คงจะปฏิบัติแบบนี้ไปเรื่อยๆ ค่ะ และรอผลการทดสอบกับคุณหมออีกทีเดือน พ.ย. นี้

ก็หวังว่าเรื่องของเราพอจะเป็นประโยชน์ให้แม่ๆ บางท่านได้นะค่ะ เชื่อว่าคุณแม่ทุกท่านรู้ว่าการให้ลูกดูทีวี เล่น iPad มันไม่ดีต่อลูกอยู่แล้ว แต่บางทีในการปฏิบัติมันอาจจะยาก ยิ่งถ้าเราไม่ได้เลี้ยงลูกเอง 24 ชม ยิ่งยากไปใหญ่ ซึ่งเราเองก็หวังว่า สิ่งที่เราทำตอนนี้คงจะไม่สายไปสำหรับลกของเรานะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่