วัตถุมงคล "เสือปืนแตก" วัดตะเคียน จ.นนทบุรี จัดสร้างขึ้นอีกครั้งในปี 2556 ด้วยบารมีของ "หลวงปู่แย้ม ปิยวัณโณ" หรือสมณศักดิ์เพระครูชั้นเอก ในราชทินนามพระครูปิยนนทคุณ สิริอายุ 97 ปี เกิด 11 พ.ค.2459 ที่บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ศึกษาร่ำเรียนวิชาไสยเวทวิทยาคมจากหลวงพ่อรุ่งวัดท่ากระบือ และหลวงพ่อสาย วัดทุ่งสองห้อง 2 พระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มน้ำท่าจีน
กระแสความนิยมของ เสือวัดตะเคียน รุ่น 1 ของ หลวงพ่อแย้ม ปิยวัณโณ เจ้าอาวาสวัดตะเคียน ถนนนครอินทร์ (พระราม ๕) ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ที่มีพุทธคุณมากหลาย ทั้งคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม ทำมาค้าขึ้น จึงเป็นที่ต้องการของผู้ที่นิยมวัตถุมงคลเป็นอย่างมาก แต่จากที่ราคาเล่นหาแพงขึ้นเรื่อยๆ และจำนวนของเสือรุ่น ๑ ก็มีไม่มาก จึงเกิดการเรียกร้องให้ทางวัดตะเคียนจัดทำรุ่น ๒ ขึ้น คณะกรรมการวัด จึงขออนุญาตจากหลวงพ่อแย้ม ขอจัดสร้างเสือรุ่น ๒ นี้ขึ้นเพื่อนำรายได้ไปใช้ในการทำนุบำรุงอุโบสถหลังใหม่ ซึ่งตอนปี ๔๙ นั้นได้ถูกน้ำท่วม มีดำริให้ยกอุโบสถขึ้นให้สูง เพื่อไม่ให้น้ำท่วมได้อีก
เสือหลวงพ่อแย้ม รุ่น 2 นี้ ถอดแบบออกมาจาก เสือปืนแตก รุ่น 1 แต่ว่าลำตัวจะผอมกว่าเสือรุ่น 1 เล็กน้อย ยังคงมีห่วงที่กลางหลังเหมือนเดิม แต่มีการเปลี่ยนแปลงวัสดุจากตะกั่วมาเป็นเนื้อทองเหลือง เพื่อลดการชำรุดของเสือ จำนวนที่จัดสร้างเสือ หลวงพ่อแย้มในครั้งนั้น ประมาณหนึ่งพันองค์เศษ ราคาที่เปิดให้เช่าบูชาที่วัดอยู่ที่องค์ละ ๕๐๐ บาท ส่วนที่มาของการเรียกขานเสือวัดตะเคียนว่า “เสือปืนแตก” นั้น ก็มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเสือรุ่น ๒ นี้เอง ก็จากที่ว่ามีลูกศิษย์ของหลวงพ่อแย้มอาราธนาเสือรุ่น ๒ ใส่ขึ้นคอ แล้วไปพบกับคู่อริเข้าในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง คู่อริได้ชักปืนคู่กายออกมาหมายจะปลิดชีวิตของชายผู้นั้น แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเขาลั่นไกปืนในมือของเขา กระบอกปืนก็ได้แตกกระจายออก เป็นที่น่าตื่นตะลึงแก่ผู้ที่ได้พบเห็นยิ่งนัก ประวัติหลวงปู่แย้ม วัดตะเคียน นนทบุรี
เรื่องราวในครั้งนั้นก็ได้ส่งให้ เสือหลวงพ่อแย้ม วัดตะเคียนได้รับการขนานนามว่า “เสือปืนแตก” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทำให้ราคาขยับสูงขึ้นหลายเท่าตัว จากความแรงแบบฉุดไม่อยู่ของเสือปืนแตกหลวงปู่แย้ม วัดตะเคียน ทั้งรุ่น ๑ และรุ่น ๒ ก็ทำให้เกิดกระแสเสือปืนแตก ฟีเวอร์ขึ้นทั้งที่ว่า เสือหลวงพ่อแย้มรุ่น ๒ ราคาสูงกว่าเสือรุ่นแรกมากถึงเกือบห้าเท่า แต่ก็ไม่ทันไร เสือหลวงพ่อแย้มรุ่น 2 ก็หมดไปจากวัดตะเคียนในเวลาอันรวดเร็ว คณะกรรมการวัด จึงขอนุญาตหลวงพ่อแย้มขอจัดสร้าง เสือหลวงพ่อวัดตะเคียนรุ่นที่ ๓ ขึ้นแต่จากรูปแบบที่ออกมาใน ๒ รุ่น ก่อนยังไม่ค่อยมีเอกลักษณ์ใดๆ ว่าเป็นเสือของหลวงพ่อแย้ม ดั่งเช่นเสือของคณาจารย์ท่านอื่นๆ คณะกรรมการจึงให้ช่างศิลป์มาออกแบบเสือให้ใหม่ ก็ได้มีการปั้นหุ่นเสือรุ่น ๓ นี้ออกมา แล้วก็มีการแก้ไขอีกหลายต่อหลายครั้ง กว่าจะได้ออกมาสวยสมใจคณะกรรมการ
เสือวัดตะเคียนรุ่น ๓ เนื้อทองเหลืองไม่แช่น้ำมนต์เป็น เสือหลวงพ่อแย้ม รุ่น3 ที่นำออกให้บูชาตั้งแต่เริ่มแรก หลวงปู่แย้มท่านได้อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว ราคาที่ให้เช่าบูชาครั้งแรก ๑๙๙ บาทส่วน เสือหลวงพ่อแย้ม วัดตะเคียนเนื้อทองเหลืองแบบแช่น้ำมนต์ เมื่อตอนหลังของใกล้จะหมดจากวัดไปนั้น ให้เช่าบูชาอยู่ที่ราคา ๓๐๐ บาท และเสือรุ่น ๓ เนื้อนวโลหะ เนื้อนวโลหะนี้ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อหารายได้ในการยกศาลาการเปรียญ จำนวนการสร้างในครั้งนั้น อยู่ที่ ๗๙๙ ตัว มีหมายเลขตอกที่ขาหลังข้างขวาของเสือทุกตัว ราคาจองตอนนั้น องค์ละ ๔๙๙ บาท อย่างไรก็ตามหลังจาก เสือปืนแตก รุ่น ๓ บางเนื้อได้หมดไปจากวัด โดยเฉพาะเนื้อทองเหลือง แบบแช่น้ำมนต์และไม่แช่น้ำมนต์ ราคาก็ขยับขึ้นไปถึง ๘๐๐-๑,๕๐๐ บาท
ด้วยเหตุนี้เองทำให้เครื่องรางของขลัง เสือหลวงพ่อแย้มของปลอม มีออกมาวางขายในตลาดพระใหม่ เช่น ที่ตลาดพระพญาไม้ พิมพ์ได้เหมือนมากพิมพ์ชัด โดยผู้เช่าเข้าใจว่าได้ตัวต้นแบบไปจากวัดราคาเล่นกันที่ ๑,๒๐๐ บาททีเดียว มีสองร้านอยู่ที่ตลาดแห่งนี้
นอกจากนี้ยังพบ เสือหลวงปู่แย้ม ของปลอมที่ตลาดน้ำไทรน้อย (วัดไทรใหญ่) อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี แผงพระใหม่ที่สวนจตุจักร กทม. และที่ไกลสุดต้องยกให้แผงพระใหม่ใน อ.เมือง จ.นครราชสีมา
เสือแท้ กับ เสือปลอม
พระครูสมุห์สงบ กิตฺติญาโณ หรือ หลวงพี่สงบ เลขานุการหลวงพ่อแย้ม บอกว่าการจะเอาผิดคนปลอม เสือหลวงปู่แย้มเป็นเรื่องยาก เช่นเดียวกับวัดอื่นๆ ที่ถูกปลอมมาแล้ว แน่นอนที่สุดว่า ด้วยเหตุนี้จึงอยากแนะนำให้ผู้เช่าพิจารณาให้ดี เพราะอย่างไรเสีย ฝีมือการทำปลอมยังห่างไกลของจริงมาก เช่าของแพงแต่ได้ของแท้ ดีกว่าเช่าของถูก แต่ได้ของปลอม เมื่อเช่าของปลอมวัตถุมงคลนั้นย่อมไม่มีพุทธคุณ ไม่ต่างจากการแขวนโลหะหรือดิน
"พระครูสมุห์สงบ กิตติญาโณ" รักษาการเจ้าอาวาสวัดตะเคียน กล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่หลวงปู่แย้มเจริญอายุวัฒนะมงคล 97 ปี เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2556 ทางวัดได้จัดงานบุญฉลอง และจัดสร้าง "เสือปืนแตกบารมี 97" เป็นที่ระลึก โดยนำเสือโลหะทุกรุ่น, ตะกรุดคอหมารุ่นเก่า, แผ่นจารยันต์ 108 ชนิดที่หลวงปู่มอบให้เก็บรักษาไว้นำมาหล่อหลอมเป็นชนวน และนิมนต์พระเกจิ อาจารย์ดังทุกภาคเกือบ 40 รูป นั่งปรกปลุกเสก 9 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 11-19 พ.ค.2556
สำหรับรายนามพระเกจิอาจารย์ที่มาปลุกเสก อาทิ พระธรรมรัตนดิลก วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ, พ่อท่านเอียด วัดโคกแย้ม จ.พัทลุง (สายเขาอ้อ) พ่อท่านหรีด วัดปาโมกข์ จ.พังงา (สายเขาอ้อ) พ่อท่านประสูติ วัดในเตา จ.ตรัง (สายเขาอ้อ) หลวงพ่อแช่ม วัดสำนักตะคร้อ จ.นครราชสีมา, หลวงพ่อแฉล้ม วัดพุทธประดิษฐ์ จ.มหาสารคาม
หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู จ.อุบลราชธานี, หลวงพ่อสุวรรณ วัดยาง จ.อ่างทอง, หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ จ.สมุทรปราการ, หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา, หลวงพ่อพิน วัดยางงาม จ.ระยอง, ครูบาเหนือชัย วัดถ้ำอาชาทอง จ.เชียงราย
ครูบาอริยชาติ วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย, หลวงพ่อแขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก, หลวงพ่อรวย วัดตะโก จ.พระนคร ศรีอยุธยา, หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง จ.ปทุมธานี, หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่ออึ่ง วัดเซิงหวาย กรุงเทพฯ, หลวงพ่อวงษ์ วัดประชาวงศาราม จ.สุราษฎร์ธานี
หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม, หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม, หลวงพ่อเพี้ยน วัดตุ๊กตา จ.นครปฐม, หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา, พระอาจารย์แดง วัดป้อมรามัญ จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อแป๊ะ วัดสว่างอารมณ์ จ.นครปฐม, หลวงปู่วาส วัดสะพานสูง จ.นนทบุรี, หลวงพ่ออ่าง วัดใหญ่สว่างอารมณ์ จ.นนทบุรี, หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง จ.นนทบุรี, หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี, พระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ จ.สมุทร สงคราม และหลวงพ่อพร วัดบางแก้ว จ.นครปฐม เป็นต้น
เสือปืนแตกบารมี 97 หลวงปู่แย้ม วัดตะเคียน
กระแสความนิยมของ เสือวัดตะเคียน รุ่น 1 ของ หลวงพ่อแย้ม ปิยวัณโณ เจ้าอาวาสวัดตะเคียน ถนนนครอินทร์ (พระราม ๕) ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ที่มีพุทธคุณมากหลาย ทั้งคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม ทำมาค้าขึ้น จึงเป็นที่ต้องการของผู้ที่นิยมวัตถุมงคลเป็นอย่างมาก แต่จากที่ราคาเล่นหาแพงขึ้นเรื่อยๆ และจำนวนของเสือรุ่น ๑ ก็มีไม่มาก จึงเกิดการเรียกร้องให้ทางวัดตะเคียนจัดทำรุ่น ๒ ขึ้น คณะกรรมการวัด จึงขออนุญาตจากหลวงพ่อแย้ม ขอจัดสร้างเสือรุ่น ๒ นี้ขึ้นเพื่อนำรายได้ไปใช้ในการทำนุบำรุงอุโบสถหลังใหม่ ซึ่งตอนปี ๔๙ นั้นได้ถูกน้ำท่วม มีดำริให้ยกอุโบสถขึ้นให้สูง เพื่อไม่ให้น้ำท่วมได้อีก
เสือหลวงพ่อแย้ม รุ่น 2 นี้ ถอดแบบออกมาจาก เสือปืนแตก รุ่น 1 แต่ว่าลำตัวจะผอมกว่าเสือรุ่น 1 เล็กน้อย ยังคงมีห่วงที่กลางหลังเหมือนเดิม แต่มีการเปลี่ยนแปลงวัสดุจากตะกั่วมาเป็นเนื้อทองเหลือง เพื่อลดการชำรุดของเสือ จำนวนที่จัดสร้างเสือ หลวงพ่อแย้มในครั้งนั้น ประมาณหนึ่งพันองค์เศษ ราคาที่เปิดให้เช่าบูชาที่วัดอยู่ที่องค์ละ ๕๐๐ บาท ส่วนที่มาของการเรียกขานเสือวัดตะเคียนว่า “เสือปืนแตก” นั้น ก็มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเสือรุ่น ๒ นี้เอง ก็จากที่ว่ามีลูกศิษย์ของหลวงพ่อแย้มอาราธนาเสือรุ่น ๒ ใส่ขึ้นคอ แล้วไปพบกับคู่อริเข้าในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง คู่อริได้ชักปืนคู่กายออกมาหมายจะปลิดชีวิตของชายผู้นั้น แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเขาลั่นไกปืนในมือของเขา กระบอกปืนก็ได้แตกกระจายออก เป็นที่น่าตื่นตะลึงแก่ผู้ที่ได้พบเห็นยิ่งนัก ประวัติหลวงปู่แย้ม วัดตะเคียน นนทบุรี
เรื่องราวในครั้งนั้นก็ได้ส่งให้ เสือหลวงพ่อแย้ม วัดตะเคียนได้รับการขนานนามว่า “เสือปืนแตก” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทำให้ราคาขยับสูงขึ้นหลายเท่าตัว จากความแรงแบบฉุดไม่อยู่ของเสือปืนแตกหลวงปู่แย้ม วัดตะเคียน ทั้งรุ่น ๑ และรุ่น ๒ ก็ทำให้เกิดกระแสเสือปืนแตก ฟีเวอร์ขึ้นทั้งที่ว่า เสือหลวงพ่อแย้มรุ่น ๒ ราคาสูงกว่าเสือรุ่นแรกมากถึงเกือบห้าเท่า แต่ก็ไม่ทันไร เสือหลวงพ่อแย้มรุ่น 2 ก็หมดไปจากวัดตะเคียนในเวลาอันรวดเร็ว คณะกรรมการวัด จึงขอนุญาตหลวงพ่อแย้มขอจัดสร้าง เสือหลวงพ่อวัดตะเคียนรุ่นที่ ๓ ขึ้นแต่จากรูปแบบที่ออกมาใน ๒ รุ่น ก่อนยังไม่ค่อยมีเอกลักษณ์ใดๆ ว่าเป็นเสือของหลวงพ่อแย้ม ดั่งเช่นเสือของคณาจารย์ท่านอื่นๆ คณะกรรมการจึงให้ช่างศิลป์มาออกแบบเสือให้ใหม่ ก็ได้มีการปั้นหุ่นเสือรุ่น ๓ นี้ออกมา แล้วก็มีการแก้ไขอีกหลายต่อหลายครั้ง กว่าจะได้ออกมาสวยสมใจคณะกรรมการ
เสือวัดตะเคียนรุ่น ๓ เนื้อทองเหลืองไม่แช่น้ำมนต์เป็น เสือหลวงพ่อแย้ม รุ่น3 ที่นำออกให้บูชาตั้งแต่เริ่มแรก หลวงปู่แย้มท่านได้อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว ราคาที่ให้เช่าบูชาครั้งแรก ๑๙๙ บาทส่วน เสือหลวงพ่อแย้ม วัดตะเคียนเนื้อทองเหลืองแบบแช่น้ำมนต์ เมื่อตอนหลังของใกล้จะหมดจากวัดไปนั้น ให้เช่าบูชาอยู่ที่ราคา ๓๐๐ บาท และเสือรุ่น ๓ เนื้อนวโลหะ เนื้อนวโลหะนี้ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อหารายได้ในการยกศาลาการเปรียญ จำนวนการสร้างในครั้งนั้น อยู่ที่ ๗๙๙ ตัว มีหมายเลขตอกที่ขาหลังข้างขวาของเสือทุกตัว ราคาจองตอนนั้น องค์ละ ๔๙๙ บาท อย่างไรก็ตามหลังจาก เสือปืนแตก รุ่น ๓ บางเนื้อได้หมดไปจากวัด โดยเฉพาะเนื้อทองเหลือง แบบแช่น้ำมนต์และไม่แช่น้ำมนต์ ราคาก็ขยับขึ้นไปถึง ๘๐๐-๑,๕๐๐ บาท
ด้วยเหตุนี้เองทำให้เครื่องรางของขลัง เสือหลวงพ่อแย้มของปลอม มีออกมาวางขายในตลาดพระใหม่ เช่น ที่ตลาดพระพญาไม้ พิมพ์ได้เหมือนมากพิมพ์ชัด โดยผู้เช่าเข้าใจว่าได้ตัวต้นแบบไปจากวัดราคาเล่นกันที่ ๑,๒๐๐ บาททีเดียว มีสองร้านอยู่ที่ตลาดแห่งนี้
นอกจากนี้ยังพบ เสือหลวงปู่แย้ม ของปลอมที่ตลาดน้ำไทรน้อย (วัดไทรใหญ่) อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี แผงพระใหม่ที่สวนจตุจักร กทม. และที่ไกลสุดต้องยกให้แผงพระใหม่ใน อ.เมือง จ.นครราชสีมา
เสือแท้ กับ เสือปลอม
พระครูสมุห์สงบ กิตฺติญาโณ หรือ หลวงพี่สงบ เลขานุการหลวงพ่อแย้ม บอกว่าการจะเอาผิดคนปลอม เสือหลวงปู่แย้มเป็นเรื่องยาก เช่นเดียวกับวัดอื่นๆ ที่ถูกปลอมมาแล้ว แน่นอนที่สุดว่า ด้วยเหตุนี้จึงอยากแนะนำให้ผู้เช่าพิจารณาให้ดี เพราะอย่างไรเสีย ฝีมือการทำปลอมยังห่างไกลของจริงมาก เช่าของแพงแต่ได้ของแท้ ดีกว่าเช่าของถูก แต่ได้ของปลอม เมื่อเช่าของปลอมวัตถุมงคลนั้นย่อมไม่มีพุทธคุณ ไม่ต่างจากการแขวนโลหะหรือดิน
"พระครูสมุห์สงบ กิตติญาโณ" รักษาการเจ้าอาวาสวัดตะเคียน กล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่หลวงปู่แย้มเจริญอายุวัฒนะมงคล 97 ปี เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2556 ทางวัดได้จัดงานบุญฉลอง และจัดสร้าง "เสือปืนแตกบารมี 97" เป็นที่ระลึก โดยนำเสือโลหะทุกรุ่น, ตะกรุดคอหมารุ่นเก่า, แผ่นจารยันต์ 108 ชนิดที่หลวงปู่มอบให้เก็บรักษาไว้นำมาหล่อหลอมเป็นชนวน และนิมนต์พระเกจิ อาจารย์ดังทุกภาคเกือบ 40 รูป นั่งปรกปลุกเสก 9 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 11-19 พ.ค.2556
สำหรับรายนามพระเกจิอาจารย์ที่มาปลุกเสก อาทิ พระธรรมรัตนดิลก วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ, พ่อท่านเอียด วัดโคกแย้ม จ.พัทลุง (สายเขาอ้อ) พ่อท่านหรีด วัดปาโมกข์ จ.พังงา (สายเขาอ้อ) พ่อท่านประสูติ วัดในเตา จ.ตรัง (สายเขาอ้อ) หลวงพ่อแช่ม วัดสำนักตะคร้อ จ.นครราชสีมา, หลวงพ่อแฉล้ม วัดพุทธประดิษฐ์ จ.มหาสารคาม
หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู จ.อุบลราชธานี, หลวงพ่อสุวรรณ วัดยาง จ.อ่างทอง, หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ จ.สมุทรปราการ, หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา, หลวงพ่อพิน วัดยางงาม จ.ระยอง, ครูบาเหนือชัย วัดถ้ำอาชาทอง จ.เชียงราย
ครูบาอริยชาติ วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย, หลวงพ่อแขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก, หลวงพ่อรวย วัดตะโก จ.พระนคร ศรีอยุธยา, หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง จ.ปทุมธานี, หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่ออึ่ง วัดเซิงหวาย กรุงเทพฯ, หลวงพ่อวงษ์ วัดประชาวงศาราม จ.สุราษฎร์ธานี
หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม, หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม, หลวงพ่อเพี้ยน วัดตุ๊กตา จ.นครปฐม, หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา, พระอาจารย์แดง วัดป้อมรามัญ จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อแป๊ะ วัดสว่างอารมณ์ จ.นครปฐม, หลวงปู่วาส วัดสะพานสูง จ.นนทบุรี, หลวงพ่ออ่าง วัดใหญ่สว่างอารมณ์ จ.นนทบุรี, หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง จ.นนทบุรี, หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี, พระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ จ.สมุทร สงคราม และหลวงพ่อพร วัดบางแก้ว จ.นครปฐม เป็นต้น