ขอออกตัวไว้ก่อนว่ามันเป็นการ รวบรวม ข้อมูล + ใส่สีตีไข่จากประสบการณ์ของป้าทวิตตี้เอง
เรื่องนี้ ขอเรียกมันว่า ฤดูรับปริญญา
นาฬิกาและวันเวลาหมุนมาให้ฤดูกาลรับปริญญาวนกลับมาอีกครั้ง ..
อาจจะเป็นครั้งแรกของน้องว่าที่บัณฑิตมือใหม่
หรืออาจจะเป็นครั้งที่สองของคนเคยๆ ผ่านมา
แต่มันเป็นเหตุการณ์ที่ชวนน่าตื่นเต้นไม่น้อย ไม่ว่าจะมือเก่า หรือมือใหม่
อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอๆ จึงควรเตรียมตัวให้พร้อม
แบบไหนที่เราชอบ
หากน้องๆต้องการที่จะถ่ายภาพประทับใจในวันพิเศษนี้เก็บไว้
น้องๆควรที่จะศึกษาและเลือกดูจากผลงานของช่างภาพหลายๆคน
เพราะช่างภาพแต่ละคนย่อมมีสไตล์เป็นของตัวเอง ซึ่งก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล
เลือกที่น้องชอบ และอีกอย่างศึกษาดูว่า ช่างภาพที่น้องชอบเคยถ่ายที่มหาวิทยาลัยของเรารึเปล่า
ดูสิว่า เขาถ่ายมหาวิทยาลัยเราได้สวย ถูกใจน้องรึเปล่า
ที่สำคัญ อย่าเลือกมองแต่รูปคนสวยๆอยู่แล้ว
โปรดมองว่า ช่างภาพคนนั้นสามารถทำให้ลูกค้าทุกคนออกมาดูดีได้รึเปล่า
นี่สิ ถึงจะเจ๋งจริง !!!!
กำหนดวันที่จะถ่าย
โดยปกติก็จะมี วันซ้อมย่อย ซ้อมใหญ่ วันจริง จนถึงนอกรอบ
น้องๆตัดสินใจดูว่าเราจะเลือกถ่ายในวันใดบ้าง
ทั้งนี้ก็ขึ้นกับตามกำลังทรัพย์ (งบที่น้องๆประมาณการไว้ ด้วยระดับที่รับได้) และความพอใจของตัวคุณเอง
โดยที่ส่วนใหญ่ ในพวกตระกูลวันซ้อม เหมาะสำหรับการ ถ่ายฉายเดี่ยว
เพราะวันนี้จะมีเวลามากพอที่จะเก็บรายละเอียดต่างๆ ของสถานที่ต่างๆ
เก็บความทรงจำทุกพื้นที่ในมหาวิทยาลัยอันเป็นที่รักที่ได้ผูกพันกันมา 2-3-4-5-6 ปี แล้วแต่คน
จัดมาทั่วมหาวิทยาลัยได้หมด ขึ้นอยู่กับว่า (( ไหวอ๊ะ เปล่า Baby ))
คนก็ไม่มาก ไม่ต้องรีบร้อน แก่งแย่ง ตบตี ฟาดงวงงากับใครให้หงุดหงิดเล่น
ชิวๆ สามารถจัดท่าทางได้เต็มที่ ไม่ว่า จะถ่ายเดี่ยว ตีลังกา ราวดอฟกี่ตบก็ยังได้ หรือถ่ายกับเพื่อนๆ แอนด์ เดอะแกงค์
ส่วนวันจริง มักจะเป็นการถ่ายรูปกับวงศาคณาญาติ ยิ่งโดยเฉพาะคน "นามสกุล"ญาติเยอะ
ปกติคนก็เยอะพอแรง พ่วงญาติบัณฑิตแต่ละคนอีกเข้าไปอีก นึกว่างานเอ็กซ์โปอะไรสักอย่าง คนเต็มยิ่งกว่า
เพราะฉะนั้นต้องตื่นแต่เช้า คนจะไม่เยอะ แดดจะไม่ร้อน ไม่ต้องรอคิวถ่ายตามซุ้มต่างๆ บรรยากาศยามเช้านี่ช่างน่าภิรมย์เสียนี่กะไร
แต่พอสายแล้วก็จะได้อีกบรรยากาศนึง จะได้ภาพกว้างๆ มีแบบมุมคนวุ่นวาย
ถ้าคนผ่านหน้ากล้อง ก็ถือซะว่าเป็นสีสันของงาน
สีสันของดอกไม้ก็แจ่มช่วยให้ภาพดูมีอะไรมากขึ้น
พร๊อพ อย่าง ดอกไม้ ตุ๊กตาหรือของขวัญที่ได้จากญาติพี่น้อง สายรหัส คนรู้ใจ กิ๊กหรือแฟนคลับ มันเยอะแยะเต็มไปหมด
เวลาจะถ่ายรูปไม่จำเป็นต้องถือของทั้งหมดที่ได้มา ถือๆสลับหมุนเวียนไป
ไม่ใช่ว่าถ่ายรูปออกมาไม่เห็นหน้าคน เห็นแต่ผม เห็นแต่ของ คนไม่เห็น มันก็ไม่ใช่ ใช่ป่ะ
ไม่ต้องกลัวว่าคนให้จะน้อยใจ สลับกันไปเรื่อยๆ ใครให้อะไรมา ก็ถ่ายรูปกับเค้าซะ พอคนใหม่มาก็เปลี่ยน...
ส่วนนอกรอบก็ ฟรีสไตล์กันไป.....
จะท่ายาก ไม่ยากก็ว่ากันไป ยิปปี้!!!
และ
เมื่อคิดออกทั้งช่างภาพและวัน น้องๆควรรีบติดต่อไว้เสียแต่เนิ่นๆ
เพราะว่า ช่างภาพที่น้องๆชอบผลงานอาจจะโดนคนอื่นซิวไปก่อน
น้องๆจึงควรมีเผื่อสำรองไว้สักคนสองคน เผื่อคนแรกที่เราสนใจเกิดไม่ว่างขึ้นมา จะได้มีช่างภาพลำดับที่สองช่วยชีวิต
เมื่อใกล้วันรับปริญญา น้องๆควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ไม่นอนดึก ไม่งั้นหน้ามัน ทารองพื้นไม่ติดด้วยนะเอ้าาาา
แถมหน้าโทรม ตาบวมอีกต่างหากกก
เมื่อถึงวันที่ต้องถ่ายรูป
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง คือ แนะนำว่าให้บอกช่างภาพ ไปเลยว่าเราอยากได้ภาพ รับปริญญา แบบไหน
สวยงาม หรือเฮฮา หรือชอบเบลอๆ ว่ารักแถบ (แบบว่ารักเธอ ฮิ๊วว) รึป่าว
เรียกว่าชอบแบบไหนก็บอกไปเลย เพราะคนร้อยคนก็ชอบร้อยอย่าง เขาไม่มานั่งตรัสรู้ และเขาก็คงคิดว่าน้องคงเอาแบบไหนก็ได้
ช่างภาพอาจจะไม่รู้หรอกว่าเราชอบแบบไหน หรือว่าน้องคิดไม่ออกก็บอกให้พี่ช่างภาพจัดให้ได้โลดดดด
ช่างภาพทุกคนยินดีช่วยลูกค้าคิดท่าทางอยู่แล้วว
เรื่องสำคัญ
ครุย ก็อย่ามัวแต่ถ่ายสนุกสนานเพลินจนลืม ครุย อุปกรณ์เสริมของครุย หมวก พู่ ฮู๊ด บลาๆๆ จนวันรับจริงต้องสะอื้น
รองเท้า ควรใส่ก่อนหน้านี้ให้ชิน โดยเฉพาะผู้หญิง
ยิ่งร้อน รองเท้าหนังยิ่งทำร้ายเท้า มันจะกัดๆๆๆ เจ็บจนแทบจะเควี้ยงทิ้งได้ ป้าเคยมาแล้ว 55
การแต่งหน้า หากน้องแต่งหน้าเอง อย่าลืมลองถ่ายรูปดูก่อน แล้วให้เพื่อนๆช่วยดูว่า โอ หรือ ไม่โอ
ถ้าส่วนมากว่าไม่โอ .. อย่าเสี่ยงดีกว่าาา จ้างเถอะ ครั้งหนึ่งในชีวิต กับ บรรยากาศแบบนี้
ส่วนการจ้างช่างควรตกลงเรื่องเวลาให้ดี เราคิวที่เท่าไหร่ อะไรยังไง เด๋วมันจะเลทไป จำไว้ว่า เวลาเป็นของสำคัญ ณ โอกาสนี้
ปล. ลงกันแดดแบบดีดี ก็ดี ชีวีจะเป็นสุข
ระหว่างวัน
น้องๆอาจจะมี เอ๊ะ ไม่สิ ควรมีผู้ติดตามไว้ดูแลข้างๆตลอดเวลาเลยก็ดี ช่วยคุยโทรศัพท์แทน บอกตำแหน่ง หาน้ำหาท่า เก็บสมบัติพัศสถาน เป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ ถือดอกไม้ ตุ๊กตา ของขวัญ ถ้าจะให้ดี เอาถุงกระสอบมาใส่เลย ฮ่าาาาา ^^
วันรับปริญญา ขึ้นชื่อเรื่องอากาศร้อน ไม่ว่าจะวันซ้อม หรือ วันจริง แดดแรงไม่แพ้กัน
ควรพก
กระดาษทิชชู่ - ซับบบมัน ห้ามใช้กระดาษซับมันเด็ดขาด เพราะจะทำให้หน้าลอกเป็นคราบ เป็นด่าง ควรซับกับทิชชู่เท่านั้น
พัด(พัดลมมือถือ ถ้าได้จะดีมาก) - แก้ร้อน
เข็มกลัด - อุปกรณ์ช่วยฉุกเฉิน อะไรขาด อะไรปริ
กระจก - ส่องแก้ไข ตกแต่งเพิ่มเติม เล็กๆน้อยๆ ย้ำ!! เล็กน้อย
กาวติดขนตา - เผื่อขนตาร่วง
แป้งผสม/ไม่ผสมรองพื้น - แป้งย่อมหลุดระหว่างวันแน่นอนน ใช้พัฟกดแป้งมาแค่เล็กน้อย ย้ำ!เล็กน้อย เบาๆมือ อย่าเยอะ เด๋วจะลอยยยย
ลิปกลอส - เผื่อปากซีด ปล, ลิปกลอสจะเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดแล้ว ทำให้สวยสดชื่น
กิ๊บดำ - กระโดดมาก โพสท่ายาก หัวอาจจะยุ่ง ปอยผมหลุดลุ่ย
เวลาออกจากหอประชุม
ควรจะนัดกับช่างภาพ ญาติพี่น้อง หรือบรรดาเพื่อนๆ ทั้งหลายไว้ให้แม่นยำ ไม่งั้นจะเกิดการชุลมุน
เพราะช่วงนี้คนจะเยอะมาก และช่องสัญญาณโทรศัพท์จะเต็ม จนเราไม่สามารถโทรออกมาหาคนแถวๆนั้นได้เลย
เตรียมตัวให้พร้อม ทุกอย่างก็ เป็นเรื่อง จิ๊บๆ!!
การเตรียมรบสู้วันรับปริญญา เย่!
เรื่องนี้ ขอเรียกมันว่า ฤดูรับปริญญา
นาฬิกาและวันเวลาหมุนมาให้ฤดูกาลรับปริญญาวนกลับมาอีกครั้ง ..
อาจจะเป็นครั้งแรกของน้องว่าที่บัณฑิตมือใหม่
หรืออาจจะเป็นครั้งที่สองของคนเคยๆ ผ่านมา
แต่มันเป็นเหตุการณ์ที่ชวนน่าตื่นเต้นไม่น้อย ไม่ว่าจะมือเก่า หรือมือใหม่
อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอๆ จึงควรเตรียมตัวให้พร้อม
แบบไหนที่เราชอบ
หากน้องๆต้องการที่จะถ่ายภาพประทับใจในวันพิเศษนี้เก็บไว้
น้องๆควรที่จะศึกษาและเลือกดูจากผลงานของช่างภาพหลายๆคน
เพราะช่างภาพแต่ละคนย่อมมีสไตล์เป็นของตัวเอง ซึ่งก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล
เลือกที่น้องชอบ และอีกอย่างศึกษาดูว่า ช่างภาพที่น้องชอบเคยถ่ายที่มหาวิทยาลัยของเรารึเปล่า
ดูสิว่า เขาถ่ายมหาวิทยาลัยเราได้สวย ถูกใจน้องรึเปล่า
ที่สำคัญ อย่าเลือกมองแต่รูปคนสวยๆอยู่แล้ว
โปรดมองว่า ช่างภาพคนนั้นสามารถทำให้ลูกค้าทุกคนออกมาดูดีได้รึเปล่า
นี่สิ ถึงจะเจ๋งจริง !!!!
กำหนดวันที่จะถ่าย
โดยปกติก็จะมี วันซ้อมย่อย ซ้อมใหญ่ วันจริง จนถึงนอกรอบ
น้องๆตัดสินใจดูว่าเราจะเลือกถ่ายในวันใดบ้าง
ทั้งนี้ก็ขึ้นกับตามกำลังทรัพย์ (งบที่น้องๆประมาณการไว้ ด้วยระดับที่รับได้) และความพอใจของตัวคุณเอง
โดยที่ส่วนใหญ่ ในพวกตระกูลวันซ้อม เหมาะสำหรับการ ถ่ายฉายเดี่ยว
เพราะวันนี้จะมีเวลามากพอที่จะเก็บรายละเอียดต่างๆ ของสถานที่ต่างๆ
เก็บความทรงจำทุกพื้นที่ในมหาวิทยาลัยอันเป็นที่รักที่ได้ผูกพันกันมา 2-3-4-5-6 ปี แล้วแต่คน
จัดมาทั่วมหาวิทยาลัยได้หมด ขึ้นอยู่กับว่า (( ไหวอ๊ะ เปล่า Baby ))
คนก็ไม่มาก ไม่ต้องรีบร้อน แก่งแย่ง ตบตี ฟาดงวงงากับใครให้หงุดหงิดเล่น
ชิวๆ สามารถจัดท่าทางได้เต็มที่ ไม่ว่า จะถ่ายเดี่ยว ตีลังกา ราวดอฟกี่ตบก็ยังได้ หรือถ่ายกับเพื่อนๆ แอนด์ เดอะแกงค์
ส่วนวันจริง มักจะเป็นการถ่ายรูปกับวงศาคณาญาติ ยิ่งโดยเฉพาะคน "นามสกุล"ญาติเยอะ
ปกติคนก็เยอะพอแรง พ่วงญาติบัณฑิตแต่ละคนอีกเข้าไปอีก นึกว่างานเอ็กซ์โปอะไรสักอย่าง คนเต็มยิ่งกว่า
เพราะฉะนั้นต้องตื่นแต่เช้า คนจะไม่เยอะ แดดจะไม่ร้อน ไม่ต้องรอคิวถ่ายตามซุ้มต่างๆ บรรยากาศยามเช้านี่ช่างน่าภิรมย์เสียนี่กะไร
แต่พอสายแล้วก็จะได้อีกบรรยากาศนึง จะได้ภาพกว้างๆ มีแบบมุมคนวุ่นวาย
ถ้าคนผ่านหน้ากล้อง ก็ถือซะว่าเป็นสีสันของงาน
สีสันของดอกไม้ก็แจ่มช่วยให้ภาพดูมีอะไรมากขึ้น
พร๊อพ อย่าง ดอกไม้ ตุ๊กตาหรือของขวัญที่ได้จากญาติพี่น้อง สายรหัส คนรู้ใจ กิ๊กหรือแฟนคลับ มันเยอะแยะเต็มไปหมด
เวลาจะถ่ายรูปไม่จำเป็นต้องถือของทั้งหมดที่ได้มา ถือๆสลับหมุนเวียนไป
ไม่ใช่ว่าถ่ายรูปออกมาไม่เห็นหน้าคน เห็นแต่ผม เห็นแต่ของ คนไม่เห็น มันก็ไม่ใช่ ใช่ป่ะ
ไม่ต้องกลัวว่าคนให้จะน้อยใจ สลับกันไปเรื่อยๆ ใครให้อะไรมา ก็ถ่ายรูปกับเค้าซะ พอคนใหม่มาก็เปลี่ยน...
ส่วนนอกรอบก็ ฟรีสไตล์กันไป.....
จะท่ายาก ไม่ยากก็ว่ากันไป ยิปปี้!!!
และ
เมื่อคิดออกทั้งช่างภาพและวัน น้องๆควรรีบติดต่อไว้เสียแต่เนิ่นๆ
เพราะว่า ช่างภาพที่น้องๆชอบผลงานอาจจะโดนคนอื่นซิวไปก่อน
น้องๆจึงควรมีเผื่อสำรองไว้สักคนสองคน เผื่อคนแรกที่เราสนใจเกิดไม่ว่างขึ้นมา จะได้มีช่างภาพลำดับที่สองช่วยชีวิต
เมื่อใกล้วันรับปริญญา น้องๆควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ไม่นอนดึก ไม่งั้นหน้ามัน ทารองพื้นไม่ติดด้วยนะเอ้าาาา
แถมหน้าโทรม ตาบวมอีกต่างหากกก
เมื่อถึงวันที่ต้องถ่ายรูป
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง คือ แนะนำว่าให้บอกช่างภาพ ไปเลยว่าเราอยากได้ภาพ รับปริญญา แบบไหน
สวยงาม หรือเฮฮา หรือชอบเบลอๆ ว่ารักแถบ (แบบว่ารักเธอ ฮิ๊วว) รึป่าว
เรียกว่าชอบแบบไหนก็บอกไปเลย เพราะคนร้อยคนก็ชอบร้อยอย่าง เขาไม่มานั่งตรัสรู้ และเขาก็คงคิดว่าน้องคงเอาแบบไหนก็ได้
ช่างภาพอาจจะไม่รู้หรอกว่าเราชอบแบบไหน หรือว่าน้องคิดไม่ออกก็บอกให้พี่ช่างภาพจัดให้ได้โลดดดด
ช่างภาพทุกคนยินดีช่วยลูกค้าคิดท่าทางอยู่แล้วว
เรื่องสำคัญ
ครุย ก็อย่ามัวแต่ถ่ายสนุกสนานเพลินจนลืม ครุย อุปกรณ์เสริมของครุย หมวก พู่ ฮู๊ด บลาๆๆ จนวันรับจริงต้องสะอื้น
รองเท้า ควรใส่ก่อนหน้านี้ให้ชิน โดยเฉพาะผู้หญิง
ยิ่งร้อน รองเท้าหนังยิ่งทำร้ายเท้า มันจะกัดๆๆๆ เจ็บจนแทบจะเควี้ยงทิ้งได้ ป้าเคยมาแล้ว 55
การแต่งหน้า หากน้องแต่งหน้าเอง อย่าลืมลองถ่ายรูปดูก่อน แล้วให้เพื่อนๆช่วยดูว่า โอ หรือ ไม่โอ
ถ้าส่วนมากว่าไม่โอ .. อย่าเสี่ยงดีกว่าาา จ้างเถอะ ครั้งหนึ่งในชีวิต กับ บรรยากาศแบบนี้
ส่วนการจ้างช่างควรตกลงเรื่องเวลาให้ดี เราคิวที่เท่าไหร่ อะไรยังไง เด๋วมันจะเลทไป จำไว้ว่า เวลาเป็นของสำคัญ ณ โอกาสนี้
ปล. ลงกันแดดแบบดีดี ก็ดี ชีวีจะเป็นสุข
ระหว่างวัน
น้องๆอาจจะมี เอ๊ะ ไม่สิ ควรมีผู้ติดตามไว้ดูแลข้างๆตลอดเวลาเลยก็ดี ช่วยคุยโทรศัพท์แทน บอกตำแหน่ง หาน้ำหาท่า เก็บสมบัติพัศสถาน เป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ ถือดอกไม้ ตุ๊กตา ของขวัญ ถ้าจะให้ดี เอาถุงกระสอบมาใส่เลย ฮ่าาาาา ^^
วันรับปริญญา ขึ้นชื่อเรื่องอากาศร้อน ไม่ว่าจะวันซ้อม หรือ วันจริง แดดแรงไม่แพ้กัน
ควรพก
กระดาษทิชชู่ - ซับบบมัน ห้ามใช้กระดาษซับมันเด็ดขาด เพราะจะทำให้หน้าลอกเป็นคราบ เป็นด่าง ควรซับกับทิชชู่เท่านั้น
พัด(พัดลมมือถือ ถ้าได้จะดีมาก) - แก้ร้อน
เข็มกลัด - อุปกรณ์ช่วยฉุกเฉิน อะไรขาด อะไรปริ
กระจก - ส่องแก้ไข ตกแต่งเพิ่มเติม เล็กๆน้อยๆ ย้ำ!! เล็กน้อย
กาวติดขนตา - เผื่อขนตาร่วง
แป้งผสม/ไม่ผสมรองพื้น - แป้งย่อมหลุดระหว่างวันแน่นอนน ใช้พัฟกดแป้งมาแค่เล็กน้อย ย้ำ!เล็กน้อย เบาๆมือ อย่าเยอะ เด๋วจะลอยยยย
ลิปกลอส - เผื่อปากซีด ปล, ลิปกลอสจะเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดแล้ว ทำให้สวยสดชื่น
กิ๊บดำ - กระโดดมาก โพสท่ายาก หัวอาจจะยุ่ง ปอยผมหลุดลุ่ย
เวลาออกจากหอประชุม
ควรจะนัดกับช่างภาพ ญาติพี่น้อง หรือบรรดาเพื่อนๆ ทั้งหลายไว้ให้แม่นยำ ไม่งั้นจะเกิดการชุลมุน
เพราะช่วงนี้คนจะเยอะมาก และช่องสัญญาณโทรศัพท์จะเต็ม จนเราไม่สามารถโทรออกมาหาคนแถวๆนั้นได้เลย
เตรียมตัวให้พร้อม ทุกอย่างก็ เป็นเรื่อง จิ๊บๆ!!