รองผู้ว่าฯ กทม.ตรวจอุโมงค์ยักษ์พระราม 9 วอนรัฐควบคุมน้ำเหนือ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 กันยายน ที่บึงพระราม 9 เขตห้วยขวาง นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมอุโมงค์ระบายน้ำพระรามเก้า ซึ่งเป็นอุโมงค์ที่ใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำจากคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าวไปสู่คลองพระโขนง และระบายออกแม่น้ำเจ้าพระยา
นายอมรกล่าวว่า
ขณะนี้อุโมงค์ยักษ์เดินเครื่องสูบน้ำเต็มกำลังทั้ง 4 เครื่อง และได้สั่งการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) ให้ร่วมกับสำนักงานเขตและหน่วยเบสท์ ทำหน้าที่เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังบนผิวจราจรและจุดอ่อนต่างๆ ลงสู่คลองให้เร็วที่สุด มีเพียงบางจุดที่ต้องใช้เวลาในการระบายน้ำ อาทิ หมู่บ้านกรุงเทพกรีฑา
นายอมรกล่าวต่อว่า กทม.กังวลมวลน้ำเหนือขนาดใหญ่ที่จะไหลผ่านมายังพื้นที่กรุงเทพฯอีก 500 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้ปริมาณน้ำเหนือที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยามีเกิน 3,000 ลบ.ม.ต่อวินาที อาจจะเกินขีดความสามารถของ กทม.ที่จะรับมือได้ กทม.พยายามอย่างเต็มที่ในการระบายน้ำเหนือ
แต่ก็ต้องขอให้รัฐบาลเห็นใจด้วย เนื่องจาก กทม.เป็นเมืองหลวง หากเกิดน้ำท่วมก็จะเกิดผลกระทบไม่เพียงแต่ความเดือดร้อนของประชาชนเท่านั้น แต่ยังส่งผลไปถึงภาคเศรษฐกิจโดยร่วมของประเทศด้วย
"ส่วนการคาดการณ์ปริมาณฝนตกในช่วงนี้มีแนวโน้มว่าจะมีปริมาณน้ำฝนเพิ่มมากขึ้น เพราะ กทม.ยังอยู่ในร่องความกดอากาศต่ำ ซึ่งจะส่งผลให้มีฝนตกจนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ อย่างไรก็ตาม กทม.ยังต้องการอุโมงค์ระบายน้ำขนาดใหญ่ให้ครบทั้ง 6 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ" นายอมรกล่าว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1380101735&grpid=&catid=01&subcatid=0100
หวังว่าพอน้ำท่วม อุโมงค์ไม่หายไปอีกนะครัชช
มาแล้วอุโมงค์ยักษ์พระราม 9 นึกว่าหายสาบสูญ
รองผู้ว่าฯ กทม.ตรวจอุโมงค์ยักษ์พระราม 9 วอนรัฐควบคุมน้ำเหนือ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 กันยายน ที่บึงพระราม 9 เขตห้วยขวาง นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมอุโมงค์ระบายน้ำพระรามเก้า ซึ่งเป็นอุโมงค์ที่ใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำจากคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าวไปสู่คลองพระโขนง และระบายออกแม่น้ำเจ้าพระยา
นายอมรกล่าวว่า ขณะนี้อุโมงค์ยักษ์เดินเครื่องสูบน้ำเต็มกำลังทั้ง 4 เครื่อง และได้สั่งการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) ให้ร่วมกับสำนักงานเขตและหน่วยเบสท์ ทำหน้าที่เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังบนผิวจราจรและจุดอ่อนต่างๆ ลงสู่คลองให้เร็วที่สุด มีเพียงบางจุดที่ต้องใช้เวลาในการระบายน้ำ อาทิ หมู่บ้านกรุงเทพกรีฑา
นายอมรกล่าวต่อว่า กทม.กังวลมวลน้ำเหนือขนาดใหญ่ที่จะไหลผ่านมายังพื้นที่กรุงเทพฯอีก 500 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้ปริมาณน้ำเหนือที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยามีเกิน 3,000 ลบ.ม.ต่อวินาที อาจจะเกินขีดความสามารถของ กทม.ที่จะรับมือได้ กทม.พยายามอย่างเต็มที่ในการระบายน้ำเหนือ แต่ก็ต้องขอให้รัฐบาลเห็นใจด้วย เนื่องจาก กทม.เป็นเมืองหลวง หากเกิดน้ำท่วมก็จะเกิดผลกระทบไม่เพียงแต่ความเดือดร้อนของประชาชนเท่านั้น แต่ยังส่งผลไปถึงภาคเศรษฐกิจโดยร่วมของประเทศด้วย
"ส่วนการคาดการณ์ปริมาณฝนตกในช่วงนี้มีแนวโน้มว่าจะมีปริมาณน้ำฝนเพิ่มมากขึ้น เพราะ กทม.ยังอยู่ในร่องความกดอากาศต่ำ ซึ่งจะส่งผลให้มีฝนตกจนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ อย่างไรก็ตาม กทม.ยังต้องการอุโมงค์ระบายน้ำขนาดใหญ่ให้ครบทั้ง 6 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ" นายอมรกล่าว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1380101735&grpid=&catid=01&subcatid=0100
หวังว่าพอน้ำท่วม อุโมงค์ไม่หายไปอีกนะครัชช