เมื่อผมได้อ่านบทความเรื่อง อิทธิพลของอิสลามต่อความคิดของ Malcolm X จากเวบ
http://www.jihadforjannah.com/bp5/node/3047
ผมมีความรู้สึกว่า ผู้ที่นำ ความคิดของ Malcolm X มาเกี่ยวโยง กับ ศาสนาอิสลาม ตามเรื่องราว ในบทความนั้น ขาดความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับ นิกาย Nation of Islam ในสหรัฐอเมริกา,
อิทธพลที่มีต่อความคิดของ Malcolm X ได้รับมาจาก นิกาย Nation of Islam ในสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่จาก หลักการของศาสนาอิสลาม ที่มาจากอัลกุรอานและซุนนะห์ของท่านศาสดามูฮัมมัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสอนให้เป็นผู้ที่เหยียดหยามผิว
ตลอดเวลา กว่า 40 ปี ที่ผมศึกษาและทำงานอยู่ในสหรัฐอเมริกา ได้เห็นการเลือกตั้งประธานาธิปดี อเมริกา 5-6 คนด้วยกัน, ตลอดเวลา ผมศึกษา นิกาย Nation of Islam มาอย่างมากทีเดียว,ประสพการณ์ที่ ผ่านมา ในสังคมอเมริกัน จากการเห็นด้วยตา และการสัมผ้ส กับ สังคมและวัฒนธรรมอเมริกัน สังคมอเมริกันเป็นสังคมที่ให้ สิทธิเสรีภาพ ต่อประชาชนอย่างเหลือเฟือ และเท่าเทียมกัน ไม่จำกัด เชื้อชาติและ ผิวพรรณ ตามกฏหมายและ ตามรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา ทั้งทางทฤษฏีและทางปฏิบัติ ถึงแม้จะไม่ 100% ก็ตามแต่ยังมากว่า ทุกๆประเทศเท่าที่ทราบมา
มีคนไทยอาศัยอยู่ในอเมริกาเป็นจำนวนมาก และอาจจะอยู่นานและมีการศึกษาสูงกว่าผม และผมเชื่อว่า เขาเหล่านั้น อาจจะบรรยายสภาพสังคมอเมริกัน ได้อย่างยุติธรรม ดีกว่าผม
เรื่องการเอาคนดำอาฟริกัน มาเป็นทาสนั้นจะ โทษคนผิวขาว อย่าง 100% ก็ไม่ได้ เนื่องจาก การค้าขายทาส นั้น ขาวอาฟริกันผิวดำ นั้น ล่อหลอกชาวบ้านอาฟริกันด้วยกัน และขายให้กับ ชาวตะวันตกผิวขาว ไปเป็นทาส ใช้แรงงาน, ซึ่งไม่ต่างจาก การซื้อขายแรงงานในปัจจุบัน ไปเป็นคนรับใช้ มุสลิมอรับในภาคตะวันออกกลาง ซึ่งคนใช้ที่ถูกนำไปจากเอเซียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ถูกมุสลิมอรับ บังคับ เฆี่ยนตี และข่มขืน เยี่ยงทาสอย่างในสมัยโบราณเช่นกัน
คนผิวขาวในอเมริกา, ประธานาธิปดี Abraham Lincoln ซึ่งเชื่อกันว่ามีเชื้อสายยิว ผิวขาว เป็นผู้เลิกระบบทาสในอเมริกาและเป็นตัวอย่างให้ทุกๆประชาชาติ ปฏิบัติตามกันต่อๆมา ด้วยเหตุนี้ คนผิวดำในอเมริกาจึงมีสิทธิเท่าเทียมกับประชาชนอเมริกันทุกๆเชื้อชาติ และมีสิทธิสูงส่งจนถึงขั้นได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี อเมริกาในปัจจุบัน
ซึ่งสิทธินี้ไม่ได้เริ่มต้นจาก มาตินลูเธอร์คิง หรือ จาก Nation of Islam หรือ Malcolm X แต่เนื่องจาก คนผิวชาว ชาวคริสเตียน ร่วมมือร่วมใจกัน ในการล้มเลิกระบบทาสในอเมริกา ด้วยชิวิตเลือดเนื้อของเขา
ในทางตรงกันข้าม the Nation of Islam และ Malcolm X เป็นคนดำที่ เหยียดคนผิวขาว อย่างรุนแรง โดยสอนกันว่า, "
They believe that the white man is a devil, and was created by the Black people in a genetic experiment 6,000 years ago." คนผิวขาวนั้นเป็นชัยตอนที่ชั่วช้า และถูกสร้างขึ้นโดยคนผิวดำจากการทดลองทางพันธุกรรม เมื่อ 6000 ปีมาแล้ว" ซึ่งการสอนนี้ Louis Farrakhan อีมาม ของ the Nation of Islam ยังคงสอนอยู่ในปัจจุบันนี้
การสอนเช่นนี้ขัดกับหลักการของศาสนาอิสลาม,
อาฟริกันอเมริกันมุสลิม ในอเมริกา ส่วนมากไม่ได้เป็นสมาชิกของ the Nation of Islam และหรือ ยกย่อง Malcolm X เป็น บุคคลสำคัญ ทั้งนี้เพราะว่า อาฟริกันอเมริกันมุสลิม(ผิวดำ) ส่วนมากเป็น ซุนนีย์มุสลิม ซึ่ง หลักการของซุนนีย์มุสลิม แตกต่างกับ ความเชื่อ ศรัทธาต่อ ของ the Nation of Islam
โปรดอ่านเรื่อง "The Nation of Islam as Viewed by Sunni Muslims" จาก
http://godlas.myweb.uga.edu/NOIvsIslam.html
สำหรับ the Nation of Islam และ Malcolm X นี้ มุสลิมโดยเฉพาะ ซุนนีย์มุสลิมที่มีความรู้และการศึกษาที่ดีในเรื่องนี้ จะไม่ยอมรับหลักการของ The Nation of Islam และไม่ยกย่อง Malcolm X เนื่องจาก ทั้งสองนี้ มีอุดมการณ์ ที่ขัดกับศาสนาอิสลาม ในเรื่องการเหยียดหยามและแบ่งผิว หรือ Very Racist
บทความเรื่อง Islam Vs. Nation of Islam ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจ The Nation of Islam และ Malcolm X ดีขึ้น
http://voices.yahoo.com/islam-vs-nation-islam-260577.html?cat=49
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากจะอธิบายให้ทุกๆท่านทราบก็คือ ในสังคมอเมริกา ชาวยิว และมุสลิม รู้สึกจะมีสิทธิมากกว่า คริสเตียนอเมริกัน ซึ่งเป็นประชาชนส่วนใหญ่เสียอีก รัฐบาลอเมริกัน ให้ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างแก่ อเมริกันมุสลิม แม้แต่กฏหมายชาเรีย ก็กำลังพิจารณา อยู่ อเมริกันมุสลิม ใน Dearborn , Michigan มีมุสลิมอยู่มากที่สุด มีสิทธิเสรีภาพ การค้าขาย ธุระกิจ ที่ใหญ่โต มีฐานะดีกว่า ชาวอเมริกัน โดยเฉลี่ย ซึ่งการที่จะกล่าวว่า มุสลิมหรือยิว ถูกเหยียบย่ำ นั้นไม่ถูกต้อง คนผิวขาวในอเมริกา เป็น ชนกลุ่มน้อยไปเสียแล้ว
เรื่องความไม่ยุติธรรมในสังคมอเมริกัน ,เป็นความรู้สึกของมุสลิมผิวดำบางกลุ่มนำ โดย นาย อีมาม Louis Farrakhan ผู้นี้ พยายามที่จะเอาปมด้อยในเรื่องผิวเป็นเครืองมือทางการเมือง จะแบ่งแยกเรื่องผิวอย่างแรง Malcolm X อดีตอาชญากร ผู้นี้ ก็ใช้ ความรู้สึกมีปมด้อยของ Black American บางกลุ่ม เป็นเครื่องมือในการสร้างชื่อเสียงให้แก่ตนเอง เป็นผู้ที่ถูก เรียกว่า Racist ต่อคนผิวขาวอย่างแรง
ถ้าสังเกตุในสังคมมุสลิมในปัจจุบันในหลายๆประเทศ เยาวชนมุสลิมในปัจจุบันจะมีความรุนแรง และมีความรู้สึกมีปมด้อยในสังคมเนื่องจากถูกนักการเมืองมุสลิมที่มาในนามของผู้สอนศาสนา สอนให้มีทัศนะคติไปในทางไม่ดีต่อ รัฐบาลของตนเอง และต่อ สังคมตะวันตก เพื่อที่จะชักชวน และต่อต้านรัฐบาล เมื่อไม่ได้ยังใจ ไม่ต่างจาหคนผิวดำในสังคมอเมริกันในปัจจุบันนี้ ที่จะคร่ำครวญเรียกร้องสิ่งต่างๆจากรัฐบาลโดยไม่ต้องทำมาหากินด้วยตนเอง และรัฐบาลก็พยายามที่จะเสนอตามความต้องการ ดังนั้นการที่จะกล่าวว่า ยิว มุสลิม และคนผิวดำในอเมริกา ยังไม่มีสิทธิเท่าเทียมกันในทางปฏิบัตินั้น จึงไม่ถูกต้องทีเดียว อเมริกันคริสเตียนผิวขาว ต่างหากที่เป็นฝ่ายให้ และเสียสละมากที่สุดในอเมริกา
ความจริงแล้วผมเองไม่อยากจะเรียกนามหรือ Name Calling หรือเรียกบุคคล ตาม ผิว ซึ่งขัดต่อหลักการของศาสนาอิสลาม, แต่ที่จำเป็นต้องใช้คำว่า ผิวดำ หรือ ผิวชาว ในที่นี้ ก็เนื่องจากว่า เพื่อความเข้าใจ เนื่องจากเรื่องนี้ เกี่ยวกับ คนอเมริกันผิวดำ racist ที่ มีต่อคน อเมริกันผิวขาว
ความเข้าใจผิดในเรื่อง "อิทธิพลของอิสลามต่อความคิดของ Malcolm X"
ผมมีความรู้สึกว่า ผู้ที่นำ ความคิดของ Malcolm X มาเกี่ยวโยง กับ ศาสนาอิสลาม ตามเรื่องราว ในบทความนั้น ขาดความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับ นิกาย Nation of Islam ในสหรัฐอเมริกา, อิทธพลที่มีต่อความคิดของ Malcolm X ได้รับมาจาก นิกาย Nation of Islam ในสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่จาก หลักการของศาสนาอิสลาม ที่มาจากอัลกุรอานและซุนนะห์ของท่านศาสดามูฮัมมัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสอนให้เป็นผู้ที่เหยียดหยามผิว
ตลอดเวลา กว่า 40 ปี ที่ผมศึกษาและทำงานอยู่ในสหรัฐอเมริกา ได้เห็นการเลือกตั้งประธานาธิปดี อเมริกา 5-6 คนด้วยกัน, ตลอดเวลา ผมศึกษา นิกาย Nation of Islam มาอย่างมากทีเดียว,ประสพการณ์ที่ ผ่านมา ในสังคมอเมริกัน จากการเห็นด้วยตา และการสัมผ้ส กับ สังคมและวัฒนธรรมอเมริกัน สังคมอเมริกันเป็นสังคมที่ให้ สิทธิเสรีภาพ ต่อประชาชนอย่างเหลือเฟือ และเท่าเทียมกัน ไม่จำกัด เชื้อชาติและ ผิวพรรณ ตามกฏหมายและ ตามรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา ทั้งทางทฤษฏีและทางปฏิบัติ ถึงแม้จะไม่ 100% ก็ตามแต่ยังมากว่า ทุกๆประเทศเท่าที่ทราบมา
มีคนไทยอาศัยอยู่ในอเมริกาเป็นจำนวนมาก และอาจจะอยู่นานและมีการศึกษาสูงกว่าผม และผมเชื่อว่า เขาเหล่านั้น อาจจะบรรยายสภาพสังคมอเมริกัน ได้อย่างยุติธรรม ดีกว่าผม
เรื่องการเอาคนดำอาฟริกัน มาเป็นทาสนั้นจะ โทษคนผิวขาว อย่าง 100% ก็ไม่ได้ เนื่องจาก การค้าขายทาส นั้น ขาวอาฟริกันผิวดำ นั้น ล่อหลอกชาวบ้านอาฟริกันด้วยกัน และขายให้กับ ชาวตะวันตกผิวขาว ไปเป็นทาส ใช้แรงงาน, ซึ่งไม่ต่างจาก การซื้อขายแรงงานในปัจจุบัน ไปเป็นคนรับใช้ มุสลิมอรับในภาคตะวันออกกลาง ซึ่งคนใช้ที่ถูกนำไปจากเอเซียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ถูกมุสลิมอรับ บังคับ เฆี่ยนตี และข่มขืน เยี่ยงทาสอย่างในสมัยโบราณเช่นกัน
คนผิวขาวในอเมริกา, ประธานาธิปดี Abraham Lincoln ซึ่งเชื่อกันว่ามีเชื้อสายยิว ผิวขาว เป็นผู้เลิกระบบทาสในอเมริกาและเป็นตัวอย่างให้ทุกๆประชาชาติ ปฏิบัติตามกันต่อๆมา ด้วยเหตุนี้ คนผิวดำในอเมริกาจึงมีสิทธิเท่าเทียมกับประชาชนอเมริกันทุกๆเชื้อชาติ และมีสิทธิสูงส่งจนถึงขั้นได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี อเมริกาในปัจจุบัน ซึ่งสิทธินี้ไม่ได้เริ่มต้นจาก มาตินลูเธอร์คิง หรือ จาก Nation of Islam หรือ Malcolm X แต่เนื่องจาก คนผิวชาว ชาวคริสเตียน ร่วมมือร่วมใจกัน ในการล้มเลิกระบบทาสในอเมริกา ด้วยชิวิตเลือดเนื้อของเขา
ในทางตรงกันข้าม the Nation of Islam และ Malcolm X เป็นคนดำที่ เหยียดคนผิวขาว อย่างรุนแรง โดยสอนกันว่า, "They believe that the white man is a devil, and was created by the Black people in a genetic experiment 6,000 years ago." คนผิวขาวนั้นเป็นชัยตอนที่ชั่วช้า และถูกสร้างขึ้นโดยคนผิวดำจากการทดลองทางพันธุกรรม เมื่อ 6000 ปีมาแล้ว" ซึ่งการสอนนี้ Louis Farrakhan อีมาม ของ the Nation of Islam ยังคงสอนอยู่ในปัจจุบันนี้ การสอนเช่นนี้ขัดกับหลักการของศาสนาอิสลาม,
อาฟริกันอเมริกันมุสลิม ในอเมริกา ส่วนมากไม่ได้เป็นสมาชิกของ the Nation of Islam และหรือ ยกย่อง Malcolm X เป็น บุคคลสำคัญ ทั้งนี้เพราะว่า อาฟริกันอเมริกันมุสลิม(ผิวดำ) ส่วนมากเป็น ซุนนีย์มุสลิม ซึ่ง หลักการของซุนนีย์มุสลิม แตกต่างกับ ความเชื่อ ศรัทธาต่อ ของ the Nation of Islam
โปรดอ่านเรื่อง "The Nation of Islam as Viewed by Sunni Muslims" จาก http://godlas.myweb.uga.edu/NOIvsIslam.html
สำหรับ the Nation of Islam และ Malcolm X นี้ มุสลิมโดยเฉพาะ ซุนนีย์มุสลิมที่มีความรู้และการศึกษาที่ดีในเรื่องนี้ จะไม่ยอมรับหลักการของ The Nation of Islam และไม่ยกย่อง Malcolm X เนื่องจาก ทั้งสองนี้ มีอุดมการณ์ ที่ขัดกับศาสนาอิสลาม ในเรื่องการเหยียดหยามและแบ่งผิว หรือ Very Racist
บทความเรื่อง Islam Vs. Nation of Islam ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจ The Nation of Islam และ Malcolm X ดีขึ้น
http://voices.yahoo.com/islam-vs-nation-islam-260577.html?cat=49
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากจะอธิบายให้ทุกๆท่านทราบก็คือ ในสังคมอเมริกา ชาวยิว และมุสลิม รู้สึกจะมีสิทธิมากกว่า คริสเตียนอเมริกัน ซึ่งเป็นประชาชนส่วนใหญ่เสียอีก รัฐบาลอเมริกัน ให้ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างแก่ อเมริกันมุสลิม แม้แต่กฏหมายชาเรีย ก็กำลังพิจารณา อยู่ อเมริกันมุสลิม ใน Dearborn , Michigan มีมุสลิมอยู่มากที่สุด มีสิทธิเสรีภาพ การค้าขาย ธุระกิจ ที่ใหญ่โต มีฐานะดีกว่า ชาวอเมริกัน โดยเฉลี่ย ซึ่งการที่จะกล่าวว่า มุสลิมหรือยิว ถูกเหยียบย่ำ นั้นไม่ถูกต้อง คนผิวขาวในอเมริกา เป็น ชนกลุ่มน้อยไปเสียแล้ว
เรื่องความไม่ยุติธรรมในสังคมอเมริกัน ,เป็นความรู้สึกของมุสลิมผิวดำบางกลุ่มนำ โดย นาย อีมาม Louis Farrakhan ผู้นี้ พยายามที่จะเอาปมด้อยในเรื่องผิวเป็นเครืองมือทางการเมือง จะแบ่งแยกเรื่องผิวอย่างแรง Malcolm X อดีตอาชญากร ผู้นี้ ก็ใช้ ความรู้สึกมีปมด้อยของ Black American บางกลุ่ม เป็นเครื่องมือในการสร้างชื่อเสียงให้แก่ตนเอง เป็นผู้ที่ถูก เรียกว่า Racist ต่อคนผิวขาวอย่างแรง
ถ้าสังเกตุในสังคมมุสลิมในปัจจุบันในหลายๆประเทศ เยาวชนมุสลิมในปัจจุบันจะมีความรุนแรง และมีความรู้สึกมีปมด้อยในสังคมเนื่องจากถูกนักการเมืองมุสลิมที่มาในนามของผู้สอนศาสนา สอนให้มีทัศนะคติไปในทางไม่ดีต่อ รัฐบาลของตนเอง และต่อ สังคมตะวันตก เพื่อที่จะชักชวน และต่อต้านรัฐบาล เมื่อไม่ได้ยังใจ ไม่ต่างจาหคนผิวดำในสังคมอเมริกันในปัจจุบันนี้ ที่จะคร่ำครวญเรียกร้องสิ่งต่างๆจากรัฐบาลโดยไม่ต้องทำมาหากินด้วยตนเอง และรัฐบาลก็พยายามที่จะเสนอตามความต้องการ ดังนั้นการที่จะกล่าวว่า ยิว มุสลิม และคนผิวดำในอเมริกา ยังไม่มีสิทธิเท่าเทียมกันในทางปฏิบัตินั้น จึงไม่ถูกต้องทีเดียว อเมริกันคริสเตียนผิวขาว ต่างหากที่เป็นฝ่ายให้ และเสียสละมากที่สุดในอเมริกา
ความจริงแล้วผมเองไม่อยากจะเรียกนามหรือ Name Calling หรือเรียกบุคคล ตาม ผิว ซึ่งขัดต่อหลักการของศาสนาอิสลาม, แต่ที่จำเป็นต้องใช้คำว่า ผิวดำ หรือ ผิวชาว ในที่นี้ ก็เนื่องจากว่า เพื่อความเข้าใจ เนื่องจากเรื่องนี้ เกี่ยวกับ คนอเมริกันผิวดำ racist ที่ มีต่อคน อเมริกันผิวขาว