วันนี้ขอเริ่มต้นกระทู้ด้วยประโยคนี้…
[ บางคน..ยังมีความรู้สึกว่า สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย เวอร์ชั่นเก่าสนุกกว่า ดีกว่าอีก…
หรือบางคนพูดว่า... ถ้าสร้างไม่ดีเท่า…แล้วจะสร้างใหม่ทำไม..? ]
นั่นสิ!
สำหรับเรานะ… ความทรงจำดีๆ ความสนุก ความประทับใจ ที่มีกับเวอร์ชั่นเก่า มันก็จะยังคงอยู่ในใจเราอยู่เสมอ
เราอยากให้ดูที่
แก่น ของละครเรื่องนี้มากกว่า มองที่
ประเด็นสำคัญ ที่ละครหรือผู้สร้างต้องการจะนำเสนอให้กับคนดู
ประเด็นที่ว่านั้นก็คือ…
การเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้น ชักชวน ให้คนคิดดี ทำดี แบบนาย หรั่ง นาคำ
และเมื่อวาน ละครฉายไปตอนที่สอง… เราเริ่มเห็นแล้วว่า.. มันเริ่มจะเห็นผลอย่างที่ผู้สร้างละครต้องการแล้วล่ะ
สังเกตุได้จากหลายกระทู้พูดถึงการทำความดีของหรั่ง พร้อมกับคำชมเชย ยกย่อง
และที่สำคัญที่สุด…..
เค้าเริ่มฉุกคิด และอยากจะเป็นคนดี อย่างนายหรั่งขึ้นมาบ้าง
(แม้พันทิปจะเป็นเพียงคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้นในสังคม แม้คนดูละครเรื่องนี้จะไม่ได้มากซักเท่าไหร่..)
แต่เมื่อมันมีจุดเริ่มต้น ของการเห็นคุณค่าของการทำดี จุดเริ่มต้นของการที่อยากจะทำดี ขึ้นมาบ้าง
จุดเริ่มต้นเล่านี้แหล่ะ ที่จะต่อยอดแผ่กว้างออกไปได้สู่สังคมที่ใหญ่ขึ้น ได้อย่างแน่นอน
นี่แหล่ะ สิ่งนี้ต่างหาก ที่เราควรจะมอง… ว่าทำไม ละครเรื่องนี้ ถึงมีคุณค่า ควรแก่การนำกลับมาสร้างใหม่..
//////////////
จากละคร…. เมื่อหรั่งมีเรื่องกลับมาอันเนื่องจากไปยุ่งเรื่องคนอื่นๆ เรียกง่ายๆ ก็คือไป
เรื่องชาวบ้านนั่นเอง
เพื่อนของหรั่ง ชาวบ้านชมชนเดียวกับหรั่ง คนที่รู้จักหรั่งอย่างยามธนาคาร และรวมทั้ง ก้อย ด้วย มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นมากนักเลย… อย่าชอบทำตัวเป็น
พระเอก !
[พี่ยามพูดกับหรั่ง เมื่อหรั่งสงสัยว่ามีพนักงานธนาคารคนหนึ่งทุจริต]
“ถ้าเป็นฉัน ฉันจะอยู่เฉยๆ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น จะได้ไม่เดือดร้อน...เชื่อเถอะวะ ไอ้หรั่ง”
[ก้อยพูดกับหรั่ง หลังจากที่โดนพนักงานคนนั้นต่อยเอา เพราะไปยุ่งเรื่องของเค้าจนทำให้เค้าโดนไล่ออก]
“หรั่งเป็นคนดีเกินไป รู้มั้ย…แต่บางครั้งถ้าเรายึดถือความดีและความถูกต้องมากเกินไปมันก็จะเดือดร้อนอย่างนี้แหละ”
เวอร์ชั่นก่อน หลายคนบอกว่า เด็กๆ แถวบ้านย้อมผมทองเลียนแบบไอ้หรั่งกันเป็นแถว…
มาเวอร์ชั่นนี้ (ที่บางคนบ่นว่าไอ้หรั่งมันหัวทองไม่ได้ดั่งใจเลยว่ะ) แต่เราว่านะ… คุณก็ยังคงเลียนแบบไอ้หรั่งได้
นั่นคือ…
การทำตัวเป็นคนดีแบบ ไอ้หรั่ง ไง
คิดดูสิ ถ้าเป็นแบบนี้ได้ .. ว่ามันจะวิเศษสักแค่ไหน
//////////////
มาดูข้อคิดดีๆ อื่นๆ ที่เราได้ จาก สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ตอนที่ 2 (23 กันยายน 2556)
[ จาก Intro เริ่มตอนที่ 2 ]
“ในสังคมมีผู้คน ต่างเพศ ต่างวัย ต่างสถานะ ปะปนกัน สถิติบอกเราว่า 49% เป็นชาย 51% เป็นหญิง 40% เป็นคนมีโอกาส 60% เป็นคนด้อยโอกาส
โอกาสเดียวที่คนด้อยโอกาส จะพลิกฟื้นอนาคตของตนได้คือ การมีศรัทธา ความหวัง ความมุ่งมั่น
และที่สำคัญคือ คุณธรรม คุณธรรม จะนำเราไปสู่เป้าหมาย ที่ธรรมะ ได้จัดสรรไว้ให้แล้ว ผมเชื่ออย่างนั้น”
======
เมื่อชาวชุมชนจานเดี่ยว (ชุมชนที่หรั่งอาศัยอยู่) ถูกไล่ที่จากเจ้าของที่
และหรั่งเป็นผู้เจรจาไกล่เกลี่ยอย่างมีเหตุผล กับตัวแทนเจ้าของที่… เพื่อที่จะได้อาศัยในที่ผืนนั้นต่อไป
"……..พวกเราทุกคน ไม่ใช่ขโมย ไม่ใช่โจร เราเป็นคนทำมาหากิน เพียงแต่ไร้วาสนา ด้อยโอกาส...
ทุกวันนี้ก็อาศัยทำงานที่คนมีเงินเขาไม่ทำกัน เก็บขยะ เป็นบ๋อย เป็นยาม รับจ้างทำความสะอาดซักล้าง...
คุณลองคิดดู ถ้าไม่มีพวกเรา พวกคุณก็ต้องลำบากเหมือนกัน...ถ้าไม่เห็นแก่เราก็ลองนึกถึงพวกคุณเองบ้าง”
======
[คำสอนที่คุณเผ่าลาภสอนแพรวา กับกฤษฎา หลานอีกคน]
เป็นคำสอนที่ดีมาก แต่ขอยกประโยคที่โดนที่สุด..
“ข้าวนั้นงอกเงยมาจากดิน พลอยก็ฝังตัวอยู่ในดิน…พวกเราอยู่มาจนถึงคนรุ่นเธอได้เพราะ
บุญคุณของแผ่นดิน…ตระกูลของเราห่างจากดินไม่ได้”
“ตราบใดที่เราแหงนหน้าแล้วเห็นดาว ตราบนั้นเท้าเราจะติดดิน”
“มีใครบ้างที่แหงนหน้าแล้วไม่เห็นดาว” กฤษฎาท้วง
“คนที่คิดว่าตัวอยู่สูงเสมอดาว…คนเหลิง”
///////////
(อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวของเรานะคะ)
จากตอนเมื่อคืน หลายคนคงได้เห็นนักแสดงเก่าๆ กลับมาเล่นละครเรื่องนี้หลายคน และ ทุกคนก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมมาก
เราในฐานะคนที่ติดตามผลงานพี่ตั้วมาตลอด เราดีใจที่ได้เห็นคนเหล่านั้นกลับมาร่วมงานกับพี่ตั้วอีกครั้ง
เราไม่ได้ดูละคร(ปัจจุบัน) มาจะสิบปีได้แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ตั้งใจกลับมาดู และเมื่อได้เห็นนักแสดงกลุ่มนี้อีกครั้ง เราจึงรู้สึกดีจริงๆ
คนแรกนี่เลย คุณปริญญ์ วิกรานต์ (สามีของอรทัย / น้าเขยของแพรวา) คนนี้จำได้สุดก็เรื่องไฟโชนแสง (2535) และ หมู่น้อย จากเรื่องมนต์รักลูกทุ่ง (2538)
คุณริสา หงษ์หิรัญ (แม่ของตะวันฉาย) จากละครเรื่อง หลังคาแดง (2547)
คุณแวร์ โซว (อรทัย น้าของแพรวา) จากละครเรื่อง น้ำพุ (2545)
คุณแมน ศุภกิจ (ชาติชาย น้าของแพรวา) เล่นเรื่องเดียวกันจากภาพยนตร์ สุริโยไท (2544)
คุณขวัญฤดี กลมกล่อม ( น้าของแพรวา) จากละครเรื่อง ตะวันยอแสง (2540)
คุณตฤณ เศรษฐโชค (เผ่าลาภ พ่อของแพรวา) คนนี้จำแม่นจากเรื่อง รอยมาร (2533)
และเพิ่มเติม จากเมื่อคืนกับบท บารมี คุณบิ๊ก ศรุต เล่มได้เฉียบคมมาก
อีกคน คุณอั๋น สราวุธ คนนี้เราก็ไม่เห็นเค้านานแล้ว แถมมาในบทที่เราไม่เคยดูเค้าในบทบาทนี้ซะด้วย
และอีกสองคน คุณอุ๋ม อาภาศิริ และคุณพิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์
//////////
และขอชมอีกครั้ง ตัวประกอบเรื่องนี้ เล่นดีมากกกก
สำหรับบท ก้อย ก็ยังน่ารักเช่นเดิม โดยเฉพาะเมื่ออยู่กับหรั่ง รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเลย
และเพิ่มเติมในตอนนี้กับ หนุ่มๆ แก๊งลำใย รวมทั้งชาวบ้านชุมชนจานเดี่ยว ออกมาฉากไหน ก็สร้างรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะได้ทุกทีสิน่า
ปล.
ขอขอบคุณเว็บผู้จัดการ Online สำหรับบทโทรทัศน์ที่เราไปคัดลอกมาลงในกระทู้
และขอเครดิต คนเขียนบทโทรทัศน์ คุณตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
=== เชิญทุกคนร่วมแสดงความคิดเห็นได้ค่ะ ===
**แก้คำผิด**
คงจะวิเศษ หากสังคมไทยจะมี ..สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย.. อย่างนาย ..หรั่ง นาคำ.. เยอะๆ
[ บางคน..ยังมีความรู้สึกว่า สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย เวอร์ชั่นเก่าสนุกกว่า ดีกว่าอีก…
หรือบางคนพูดว่า... ถ้าสร้างไม่ดีเท่า…แล้วจะสร้างใหม่ทำไม..? ]
นั่นสิ!
สำหรับเรานะ… ความทรงจำดีๆ ความสนุก ความประทับใจ ที่มีกับเวอร์ชั่นเก่า มันก็จะยังคงอยู่ในใจเราอยู่เสมอ
เราอยากให้ดูที่ แก่น ของละครเรื่องนี้มากกว่า มองที่ ประเด็นสำคัญ ที่ละครหรือผู้สร้างต้องการจะนำเสนอให้กับคนดู
ประเด็นที่ว่านั้นก็คือ… การเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้น ชักชวน ให้คนคิดดี ทำดี แบบนาย หรั่ง นาคำ
และเมื่อวาน ละครฉายไปตอนที่สอง… เราเริ่มเห็นแล้วว่า.. มันเริ่มจะเห็นผลอย่างที่ผู้สร้างละครต้องการแล้วล่ะ
สังเกตุได้จากหลายกระทู้พูดถึงการทำความดีของหรั่ง พร้อมกับคำชมเชย ยกย่อง
และที่สำคัญที่สุด….. เค้าเริ่มฉุกคิด และอยากจะเป็นคนดี อย่างนายหรั่งขึ้นมาบ้าง
(แม้พันทิปจะเป็นเพียงคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้นในสังคม แม้คนดูละครเรื่องนี้จะไม่ได้มากซักเท่าไหร่..)
แต่เมื่อมันมีจุดเริ่มต้น ของการเห็นคุณค่าของการทำดี จุดเริ่มต้นของการที่อยากจะทำดี ขึ้นมาบ้าง
จุดเริ่มต้นเล่านี้แหล่ะ ที่จะต่อยอดแผ่กว้างออกไปได้สู่สังคมที่ใหญ่ขึ้น ได้อย่างแน่นอน
นี่แหล่ะ สิ่งนี้ต่างหาก ที่เราควรจะมอง… ว่าทำไม ละครเรื่องนี้ ถึงมีคุณค่า ควรแก่การนำกลับมาสร้างใหม่..
//////////////
จากละคร…. เมื่อหรั่งมีเรื่องกลับมาอันเนื่องจากไปยุ่งเรื่องคนอื่นๆ เรียกง่ายๆ ก็คือไป เรื่องชาวบ้านนั่นเอง
เพื่อนของหรั่ง ชาวบ้านชมชนเดียวกับหรั่ง คนที่รู้จักหรั่งอย่างยามธนาคาร และรวมทั้ง ก้อย ด้วย มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นมากนักเลย… อย่าชอบทำตัวเป็น พระเอก !
[พี่ยามพูดกับหรั่ง เมื่อหรั่งสงสัยว่ามีพนักงานธนาคารคนหนึ่งทุจริต]
“ถ้าเป็นฉัน ฉันจะอยู่เฉยๆ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น จะได้ไม่เดือดร้อน...เชื่อเถอะวะ ไอ้หรั่ง”
[ก้อยพูดกับหรั่ง หลังจากที่โดนพนักงานคนนั้นต่อยเอา เพราะไปยุ่งเรื่องของเค้าจนทำให้เค้าโดนไล่ออก]
“หรั่งเป็นคนดีเกินไป รู้มั้ย…แต่บางครั้งถ้าเรายึดถือความดีและความถูกต้องมากเกินไปมันก็จะเดือดร้อนอย่างนี้แหละ”
เวอร์ชั่นก่อน หลายคนบอกว่า เด็กๆ แถวบ้านย้อมผมทองเลียนแบบไอ้หรั่งกันเป็นแถว…
มาเวอร์ชั่นนี้ (ที่บางคนบ่นว่าไอ้หรั่งมันหัวทองไม่ได้ดั่งใจเลยว่ะ) แต่เราว่านะ… คุณก็ยังคงเลียนแบบไอ้หรั่งได้
นั่นคือ… การทำตัวเป็นคนดีแบบ ไอ้หรั่ง ไง
คิดดูสิ ถ้าเป็นแบบนี้ได้ .. ว่ามันจะวิเศษสักแค่ไหน
//////////////
มาดูข้อคิดดีๆ อื่นๆ ที่เราได้ จาก สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ตอนที่ 2 (23 กันยายน 2556)
[ จาก Intro เริ่มตอนที่ 2 ]
“ในสังคมมีผู้คน ต่างเพศ ต่างวัย ต่างสถานะ ปะปนกัน สถิติบอกเราว่า 49% เป็นชาย 51% เป็นหญิง 40% เป็นคนมีโอกาส 60% เป็นคนด้อยโอกาส
โอกาสเดียวที่คนด้อยโอกาส จะพลิกฟื้นอนาคตของตนได้คือ การมีศรัทธา ความหวัง ความมุ่งมั่น
และที่สำคัญคือ คุณธรรม คุณธรรม จะนำเราไปสู่เป้าหมาย ที่ธรรมะ ได้จัดสรรไว้ให้แล้ว ผมเชื่ออย่างนั้น”
======
เมื่อชาวชุมชนจานเดี่ยว (ชุมชนที่หรั่งอาศัยอยู่) ถูกไล่ที่จากเจ้าของที่
และหรั่งเป็นผู้เจรจาไกล่เกลี่ยอย่างมีเหตุผล กับตัวแทนเจ้าของที่… เพื่อที่จะได้อาศัยในที่ผืนนั้นต่อไป
"……..พวกเราทุกคน ไม่ใช่ขโมย ไม่ใช่โจร เราเป็นคนทำมาหากิน เพียงแต่ไร้วาสนา ด้อยโอกาส...
ทุกวันนี้ก็อาศัยทำงานที่คนมีเงินเขาไม่ทำกัน เก็บขยะ เป็นบ๋อย เป็นยาม รับจ้างทำความสะอาดซักล้าง...
คุณลองคิดดู ถ้าไม่มีพวกเรา พวกคุณก็ต้องลำบากเหมือนกัน...ถ้าไม่เห็นแก่เราก็ลองนึกถึงพวกคุณเองบ้าง”
======
[คำสอนที่คุณเผ่าลาภสอนแพรวา กับกฤษฎา หลานอีกคน]
เป็นคำสอนที่ดีมาก แต่ขอยกประโยคที่โดนที่สุด..
“ข้าวนั้นงอกเงยมาจากดิน พลอยก็ฝังตัวอยู่ในดิน…พวกเราอยู่มาจนถึงคนรุ่นเธอได้เพราะ
บุญคุณของแผ่นดิน…ตระกูลของเราห่างจากดินไม่ได้”
“ตราบใดที่เราแหงนหน้าแล้วเห็นดาว ตราบนั้นเท้าเราจะติดดิน”
“มีใครบ้างที่แหงนหน้าแล้วไม่เห็นดาว” กฤษฎาท้วง
“คนที่คิดว่าตัวอยู่สูงเสมอดาว…คนเหลิง”
///////////
(อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวของเรานะคะ)
จากตอนเมื่อคืน หลายคนคงได้เห็นนักแสดงเก่าๆ กลับมาเล่นละครเรื่องนี้หลายคน และ ทุกคนก็เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมมาก
เราในฐานะคนที่ติดตามผลงานพี่ตั้วมาตลอด เราดีใจที่ได้เห็นคนเหล่านั้นกลับมาร่วมงานกับพี่ตั้วอีกครั้ง
เราไม่ได้ดูละคร(ปัจจุบัน) มาจะสิบปีได้แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ตั้งใจกลับมาดู และเมื่อได้เห็นนักแสดงกลุ่มนี้อีกครั้ง เราจึงรู้สึกดีจริงๆ
คนแรกนี่เลย คุณปริญญ์ วิกรานต์ (สามีของอรทัย / น้าเขยของแพรวา) คนนี้จำได้สุดก็เรื่องไฟโชนแสง (2535) และ หมู่น้อย จากเรื่องมนต์รักลูกทุ่ง (2538)
คุณริสา หงษ์หิรัญ (แม่ของตะวันฉาย) จากละครเรื่อง หลังคาแดง (2547)
คุณแวร์ โซว (อรทัย น้าของแพรวา) จากละครเรื่อง น้ำพุ (2545)
คุณแมน ศุภกิจ (ชาติชาย น้าของแพรวา) เล่นเรื่องเดียวกันจากภาพยนตร์ สุริโยไท (2544)
คุณขวัญฤดี กลมกล่อม ( น้าของแพรวา) จากละครเรื่อง ตะวันยอแสง (2540)
คุณตฤณ เศรษฐโชค (เผ่าลาภ พ่อของแพรวา) คนนี้จำแม่นจากเรื่อง รอยมาร (2533)
และเพิ่มเติม จากเมื่อคืนกับบท บารมี คุณบิ๊ก ศรุต เล่มได้เฉียบคมมาก
อีกคน คุณอั๋น สราวุธ คนนี้เราก็ไม่เห็นเค้านานแล้ว แถมมาในบทที่เราไม่เคยดูเค้าในบทบาทนี้ซะด้วย
และอีกสองคน คุณอุ๋ม อาภาศิริ และคุณพิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์
//////////
และขอชมอีกครั้ง ตัวประกอบเรื่องนี้ เล่นดีมากกกก
สำหรับบท ก้อย ก็ยังน่ารักเช่นเดิม โดยเฉพาะเมื่ออยู่กับหรั่ง รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเลย
และเพิ่มเติมในตอนนี้กับ หนุ่มๆ แก๊งลำใย รวมทั้งชาวบ้านชุมชนจานเดี่ยว ออกมาฉากไหน ก็สร้างรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะได้ทุกทีสิน่า
ปล.
ขอขอบคุณเว็บผู้จัดการ Online สำหรับบทโทรทัศน์ที่เราไปคัดลอกมาลงในกระทู้
และขอเครดิต คนเขียนบทโทรทัศน์ คุณตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
=== เชิญทุกคนร่วมแสดงความคิดเห็นได้ค่ะ ===
**แก้คำผิด**