เรื่องมีอยู่ว่า ดิฉันได้ไปกู้ยืมเงินจำนวน 10,000 บาทถ้วน โดยเจ้าหนี้ได้ให้ทำสัญญาเป็นเงิน 20,000 บาท ดอกเบี้ย 1.5 ต่อเดือน แต่ความเป็นจริงแล้ว เขาคิดดิฉันร้อยละ 10 ต่อเดือน โดยตกลงกันไว้นอกสัญญาว่าให้จ่ายเดือนละ 2,000 บาท ดิฉันต้องยอมเพราะตอนนั้นต้องการเงินไปจ่ายค่าห้องเช่า จึงตกลงและคิดว่าไม่มีอะไร ดิฉันให้ atm ไว้ พร้อมสมุด แต่ atm ดิฉันกดไม่ได้เพราะเงินเดือนไม่มี มีแต่เงินพิเศษที่ดิฉันได้ทำหลังเลิกงานเท่านั้น แต่ดิฉันก็นำเงินสดไปจ่ายให้เขาทุกเดือน เป็น เวลา 3 เดือน เป็นเงิน 6,000 บาทถ้วน แต่พอเข้าเดือนที่ 4 ดิฉันจ่ายช้า ก็เกิดเรื่องขึ้นโดยเขา พยามยามที่จะพูดลวนลามขอจับโน้นจับนี้เพื่อแลกกับค่าดอกที่ต้องจ่ายให้จ่ายแค่ 1,000 บาทแทน ค่าดอกไม่ต้อง แต่ดิฉันไม่ยอมและรับสภาพไม่ได้ เลยไปบอกคนค้ำว่าจะหาเงินมาจ่ายเขาแล้วนะ เพราะทนพฤติกรรมเขาไม่ได้ หลังจากนั้น 2 เดือน ดิฉันได้ไปกู้เงินอีกที่หนึ่งมาจ่ายเขา โดยยอมจ่ายให้เขา 10,000 บาทเต็มไม่หักจากที่จ่ายมา แต่เขาบอกว่าดิฉันต้องจ่าย 20,000 บาท พร้อมดอกร้อยละ 1.5 ต่อเดือนตามที่มีในสัญญา ดิฉันก็ว่ากล่าวเขาไป และหลังจากนั้นประมาณ 2 อาทิตย์เขาก็โทรมาและบอกดิฉันว่า ถ้ายอมนอมกับเขาเขาจะยกหนี้ให้ไม่งั้นเขาจะไปฟ้องศาล ดิฉันไม่ยอมบอกว่าไปฟ้องเลย ดีกว่ามาทำแบบนี้ แล้วเขาก็เงียบไป โดยเดินผ่านกันก็ไม่พูดไม่จา ไม่เคยพูดกันเลยหลังจากวันทั้ง เป็นเวลา 8 ปี อยู่ดิฉันก็ได้รับหมายศาลมา เรื่องคดีเงินกู้ โดยดิฉันต้องชำระให้เขา ประมาณ 40,000 กว่าบาท ได้ไปปรึกษาทนายอาสาที่ศาลแขวงนนทบุรี แล้ว เขาบอกว่า สู้เขาไม่ได้เพราะได้ทำสัญญาครบแล้ว และสืบพยานบุคคลไม่ได้ ต้องเป็นเอกสารเท่านั้น อยากขอความช่วยเหลือใครมีความรู้ด้านกฎหมายขอความกรุณาดิฉันด้วย ดิฉันต้องไปขึ้นศาลวันที่ 1 ต.ค. 56 นี้ อยากได้คำแนะนำ