จากข่าวกราดยิงในห้างกลางกรุงไนโรบี เคนยา
_________________________________________________________________
เอเจนซีส์ - สื่ออังกฤษ อาทิ เมลออนไลน์ และอัลจาซีราห์ รายงานว่า หัวหน้าระดับสูงของกลุ่ม “อัล-เชบับ” ผู้ก่อการร้ายชาวอังกฤษเจ้าของฉายา “แม่หม้ายขาว” ซาแมนตา ลูทต์เวตท์ วัย 29 ปี ภรรยาของเจอร์เมน ลินด์ซีย์ มือระเบิดฆ่าตัวตายที่สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอนเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2005 ถูกสงสัยว่าเป็นผู้บงการ “กลุ่มนักรบมูจาฮีดิน” ลงมือกราดยิงในห้างเวสต์เกท ในกรุงไคโรบี เคนยา เมื่อวันเสาร์ (21)ที่ผ่านมา ในขณะที่เหตุการณ์ล่าสุดในวันจันทร์(23) เจ้าหน้าที่เคนยาสามารถช่วยเหลือตัวประกันมาได้ “เกือบทั้งหมด” แล้ว และตัวประกันที่รอดชีวิตเปิดเผยว่าจะถูกยิงทิ้งหากหากพวกเขาไม่สามารถอ้างในคำภีร์อัลกุรอานหรือเอ่ยชื่อมารดาของศาสดาโมฮัมหมัดได้
จากเหตุการณ์ก่อการร้ายกราดยิงกลางห้างเวสต์เกทในกรุงไคโรบี เคนยา ในบ่ายวันเสาร์(21)ที่ผ่านมานั้น มีรายงานพบว่ามีหญิงผิวขาวคลุมหน้าเป็นผู้สั่งการเป็นภาษาอาราบิกให้กลุ่มนักรบลงมือกราดยิง โดยทางเจ้าหน้าที่เคนยาได้เผยว่า ผู้ก่อการร้ายชาวอังกฤษเจ้าของฉายา “แม่หม้ายขาว” ซาแมนตา ลูทต์เวตท์ วัย 29 ปี ภรรยาของเจอร์เมน ลินซีย์ มือระเบิดฆ่าตัวตายที่สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอนเมื่อวันที่ 7 เดือนกรกฎาคม 2005 นั้นเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นตัวบงการเหตุการณ์เขย่าขวัญครั้งนี้ โดยพบว่าจากกลุ่มติดอาวุธ “อัล-เชบับ” ของที่ก่อนหน้านั้นอ้างความรับผิดชอบในการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ กล่าวผ่านทวิตเตอร์ล่าสุดว่า “ ซาแมนตา ลูทต์เวตท์ “แม่หม้ายขาว” อดีตภรรยาของเจอร์เมน ลินด์ซีย์ มือระเบิดฆ่าตัวตายที่สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอน7/7 (วันที่ 7 กรกฎาคม) เป็นหนึ่งในหัวหน้าระดับสูงของขบวนการของกลุ่ม และทางกลุ่มถือว่าเธอเป็นสตรีที่ กล้าหาญ ” นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังอ้างผ่านทวิตเตอร์ต่อไปว่า “มีชายชาวอังกฤษอีก 2 คนจากกรุงลอนดอนและไชร์ดูนได้ร่วมลงมือในครั้งนี้ด้วย ลิบาน อดัม วัย 23 ปี และอาเหม็ด นาเซอร์ วัย 24 ปี ซึ่งทางกลุ่มถือบุคคลทั้งคู่เป็น “นักรบศักดิสิทธิ์” ร่วมลงมือในครั้งนี้ด้วย” และยังอ้างต่อไปว่า กลุ่มที่ลงมือปฎิบัติการในห้างนั้นมีคลังอาวุธที่มากมาย มีอุปกรณ์สำหรับการดูในเวลากลางคืนและได้ทำลายกล้องวงจรปิดในห้างหมดแล้ว และอัลขจาซีราห์รายงานว่า อัล-เชบับนั้นมีเป้าหมายไปที่กลุ่มที่ไม่ใช่มุสลิมเป็นหลัก ที่รวมถึงชาวต่างชาติ ชาวเคนยา ซึ่งจากการรายงานที่ได้รับการยืนยันพบว่า ชาวต่างชาติที่เสียชีวิตจากการกราดยิงนั้นมี ฝรั่งเศส อังกฤษ อินเดีย แคนาเดียน จีน และกวีที่มีชื่อเสียงของกาน่า โดยทางกลุ่มก่อการร้ายอัล-เชบับได้ประกาศข้อเรียกร้อง ให้เคนยาถอนทหารออกจากโซมาเลียที่ทางการเคนยาได้ร่วมกับโซมาเลียในการกวาดล้างกลุ่มก่อการร้าย
จากประวัติของแม่หม้านขาวพบว่า ลูทต์เวตท์นั้นถือสัญชาติอังกฤษ เธอเป็นลูกสาวของอดีตนายทหารอังกฤษ ที่ปัจจุบันเป็นคุณแม่ลูกสามในบักกิงแฮมเชอร์ เธอหันมานับถือศาสนาอิสลามในภายหลัง และที่สำคัญ เธอเป็นอดีตภรรยาของ เจอร์เมน ลินด์ซีย์ มือระเบิดฆ่าตัวตายที่สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอนเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2005 โดยเธอตั้งครรภ์ได้ 7 เดือนในขณะที่สามีของเธอเสียชีวิต และได้ไปอยู่ในเคนยาหลังจากเหตุการณ์ระเบิดสถานีรถไฟเกิดขึ้น จากสื่อในอังกฤษพบว่า ลูทต์เวตท์ หรือ เชราฟาฟิยาห์ ลูทต์เวตท์ ในภาษาอาราบิกนั้นเป็นหนึ่งในหัวหน้าระดับสูงของกลุ่ม “อัล-เชบับ” โดยกลุ่มผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้เผยผ่านทวิตเตอร์สงสัยว่า ลูทต์เวตท์นั้นจะอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ หรือจริงๆ แล้วอาจจะอยุ่ในที่เกิดเหตุ “หัวหน้าผู้บงการเป็นผุ้หญิงผิวขาวที่มีสำเนียงอังกฤษ อาจจะเป็น “แม่หม้ายขาว” ที่อื้อฉาว” โรเบิร์ต เอไล บล็อกเกอร์ชาวเคนยา อดีตตัวประกันในห้างเคนยา กล่าวผ่านทวิตเตอร์
นอกจากนี้ จากสถานการณ์ล่าสุดของการจับกุมตัวประกันราว 15 คนนั้น ทางเจ้าหน้าที่เคนยากล่าวว่า สามารถช่วยเหลือออกมาได้เกือบจะทั้งหมดแล้ว โดยพบว่าตัวประกันที่ถูกช่วยมานั้นอยู่ในสภาพขาดน้ำและเสียขวัญในสิ่งที่เกิดขึ้น และมีเจ้าหน้าที่เคนยา 4 รายบาดเจ็บในการปฏิบัติการครั้งนี้ โดยผู้ที่รอดชีวิตออกมาได้นั้นเปิดเผยว่า ทางกลุ่มนักรบมูจาฮีดีนจะสังหารตัวประกันที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายไม่ว่าจะเป็น ชาวเคนยา หรือชาวต่างชาติ ที่ไม่ใช่ชาวมุสลิม ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ทิ้งหากพวกเขาไม่สามารถอ้างในคำภีร์อัลกุรอานหรือเอ่ยชื่อมารดาของศาสดาโมฮัมหมัดได้อย่างถูกต้อง โดยตัวประกันทั้งหมดยืนเรียงกันเข้าแถวเพื่อตอบคำถาม หากพลาดจะถูกสังหารด้วยปืน AK-47s
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000119839
_______________________________________________________________________
บิดาของศาสดามุฮัมมัด (ศ.) คือท่านอับดุลลอฮ์ เป็นบุตรคนสุดท้องของท่านอับดุลมุฏฏอลิบ แห่งเผ่ากุเรช ผู้ได้รับเกิยรติให้คุ้มครองบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซัมซัม ริมอัลกะอ์บะฮ์ ท่านอับดุลลอฮ์ได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ตอนที่ศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ยังอยู่ในครรภ์ของมารดา ท่านหญิงอามีนะฮ์ สตรีแห่งเผ่าศุหฮ์เราะฮ์
ท่านอับดุลมุฏฏอลิบผู้เป็นปู่ได้ขนานนามท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ว่า "มุฮัมมัด" แปลว่าผู้ที่ได้รับการสรรเสริญ เป็นนามที่ยังไม่มีผู้ใดใช้มาก่อนเลย เมื่อถือกำเนิดได้เพียงไม่นาน ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ก็จำต้องไปอยู่กับแม่นมรับจ้างซึ่งมีนามว่า ฮะลีมะฮ์ แห่งเผ่าซะอัด ตั้งถิ่นฐานอยู่นอกนครมักะฮ์ ทั้งนี้เป็นเพราะประเพณีดั้งเดิมของชาวอาหรับ เมื่อต้องการให้บุตรของตนเติบโตขึ้นในชนบท เพื่อสัมผัสกับวัฒนธรรมของชาวอาหรับพื้นเมืองที่แท้จริง
http://www.ahlulbait.org/main/content.php?page=sub&category=6&id=10
ท่องกันไว้ครับ เผื่อวันหนึ่งถูกถาม
*** ปิดโหวต วันที่ 25 กันยายน พ.ศ.2556 เวลา 15:06:10 น.
จำชื่อได้ ชีวิตรอด
_________________________________________________________________
เอเจนซีส์ - สื่ออังกฤษ อาทิ เมลออนไลน์ และอัลจาซีราห์ รายงานว่า หัวหน้าระดับสูงของกลุ่ม “อัล-เชบับ” ผู้ก่อการร้ายชาวอังกฤษเจ้าของฉายา “แม่หม้ายขาว” ซาแมนตา ลูทต์เวตท์ วัย 29 ปี ภรรยาของเจอร์เมน ลินด์ซีย์ มือระเบิดฆ่าตัวตายที่สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอนเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2005 ถูกสงสัยว่าเป็นผู้บงการ “กลุ่มนักรบมูจาฮีดิน” ลงมือกราดยิงในห้างเวสต์เกท ในกรุงไคโรบี เคนยา เมื่อวันเสาร์ (21)ที่ผ่านมา ในขณะที่เหตุการณ์ล่าสุดในวันจันทร์(23) เจ้าหน้าที่เคนยาสามารถช่วยเหลือตัวประกันมาได้ “เกือบทั้งหมด” แล้ว และตัวประกันที่รอดชีวิตเปิดเผยว่าจะถูกยิงทิ้งหากหากพวกเขาไม่สามารถอ้างในคำภีร์อัลกุรอานหรือเอ่ยชื่อมารดาของศาสดาโมฮัมหมัดได้
จากเหตุการณ์ก่อการร้ายกราดยิงกลางห้างเวสต์เกทในกรุงไคโรบี เคนยา ในบ่ายวันเสาร์(21)ที่ผ่านมานั้น มีรายงานพบว่ามีหญิงผิวขาวคลุมหน้าเป็นผู้สั่งการเป็นภาษาอาราบิกให้กลุ่มนักรบลงมือกราดยิง โดยทางเจ้าหน้าที่เคนยาได้เผยว่า ผู้ก่อการร้ายชาวอังกฤษเจ้าของฉายา “แม่หม้ายขาว” ซาแมนตา ลูทต์เวตท์ วัย 29 ปี ภรรยาของเจอร์เมน ลินซีย์ มือระเบิดฆ่าตัวตายที่สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอนเมื่อวันที่ 7 เดือนกรกฎาคม 2005 นั้นเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นตัวบงการเหตุการณ์เขย่าขวัญครั้งนี้ โดยพบว่าจากกลุ่มติดอาวุธ “อัล-เชบับ” ของที่ก่อนหน้านั้นอ้างความรับผิดชอบในการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ กล่าวผ่านทวิตเตอร์ล่าสุดว่า “ ซาแมนตา ลูทต์เวตท์ “แม่หม้ายขาว” อดีตภรรยาของเจอร์เมน ลินด์ซีย์ มือระเบิดฆ่าตัวตายที่สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอน7/7 (วันที่ 7 กรกฎาคม) เป็นหนึ่งในหัวหน้าระดับสูงของขบวนการของกลุ่ม และทางกลุ่มถือว่าเธอเป็นสตรีที่ กล้าหาญ ” นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังอ้างผ่านทวิตเตอร์ต่อไปว่า “มีชายชาวอังกฤษอีก 2 คนจากกรุงลอนดอนและไชร์ดูนได้ร่วมลงมือในครั้งนี้ด้วย ลิบาน อดัม วัย 23 ปี และอาเหม็ด นาเซอร์ วัย 24 ปี ซึ่งทางกลุ่มถือบุคคลทั้งคู่เป็น “นักรบศักดิสิทธิ์” ร่วมลงมือในครั้งนี้ด้วย” และยังอ้างต่อไปว่า กลุ่มที่ลงมือปฎิบัติการในห้างนั้นมีคลังอาวุธที่มากมาย มีอุปกรณ์สำหรับการดูในเวลากลางคืนและได้ทำลายกล้องวงจรปิดในห้างหมดแล้ว และอัลขจาซีราห์รายงานว่า อัล-เชบับนั้นมีเป้าหมายไปที่กลุ่มที่ไม่ใช่มุสลิมเป็นหลัก ที่รวมถึงชาวต่างชาติ ชาวเคนยา ซึ่งจากการรายงานที่ได้รับการยืนยันพบว่า ชาวต่างชาติที่เสียชีวิตจากการกราดยิงนั้นมี ฝรั่งเศส อังกฤษ อินเดีย แคนาเดียน จีน และกวีที่มีชื่อเสียงของกาน่า โดยทางกลุ่มก่อการร้ายอัล-เชบับได้ประกาศข้อเรียกร้อง ให้เคนยาถอนทหารออกจากโซมาเลียที่ทางการเคนยาได้ร่วมกับโซมาเลียในการกวาดล้างกลุ่มก่อการร้าย
จากประวัติของแม่หม้านขาวพบว่า ลูทต์เวตท์นั้นถือสัญชาติอังกฤษ เธอเป็นลูกสาวของอดีตนายทหารอังกฤษ ที่ปัจจุบันเป็นคุณแม่ลูกสามในบักกิงแฮมเชอร์ เธอหันมานับถือศาสนาอิสลามในภายหลัง และที่สำคัญ เธอเป็นอดีตภรรยาของ เจอร์เมน ลินด์ซีย์ มือระเบิดฆ่าตัวตายที่สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงลอนดอนเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2005 โดยเธอตั้งครรภ์ได้ 7 เดือนในขณะที่สามีของเธอเสียชีวิต และได้ไปอยู่ในเคนยาหลังจากเหตุการณ์ระเบิดสถานีรถไฟเกิดขึ้น จากสื่อในอังกฤษพบว่า ลูทต์เวตท์ หรือ เชราฟาฟิยาห์ ลูทต์เวตท์ ในภาษาอาราบิกนั้นเป็นหนึ่งในหัวหน้าระดับสูงของกลุ่ม “อัล-เชบับ” โดยกลุ่มผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้เผยผ่านทวิตเตอร์สงสัยว่า ลูทต์เวตท์นั้นจะอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ หรือจริงๆ แล้วอาจจะอยุ่ในที่เกิดเหตุ “หัวหน้าผู้บงการเป็นผุ้หญิงผิวขาวที่มีสำเนียงอังกฤษ อาจจะเป็น “แม่หม้ายขาว” ที่อื้อฉาว” โรเบิร์ต เอไล บล็อกเกอร์ชาวเคนยา อดีตตัวประกันในห้างเคนยา กล่าวผ่านทวิตเตอร์
นอกจากนี้ จากสถานการณ์ล่าสุดของการจับกุมตัวประกันราว 15 คนนั้น ทางเจ้าหน้าที่เคนยากล่าวว่า สามารถช่วยเหลือออกมาได้เกือบจะทั้งหมดแล้ว โดยพบว่าตัวประกันที่ถูกช่วยมานั้นอยู่ในสภาพขาดน้ำและเสียขวัญในสิ่งที่เกิดขึ้น และมีเจ้าหน้าที่เคนยา 4 รายบาดเจ็บในการปฏิบัติการครั้งนี้ โดยผู้ที่รอดชีวิตออกมาได้นั้นเปิดเผยว่า ทางกลุ่มนักรบมูจาฮีดีนจะสังหารตัวประกันที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายไม่ว่าจะเป็น ชาวเคนยา หรือชาวต่างชาติ ที่ไม่ใช่ชาวมุสลิม ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ทิ้งหากพวกเขาไม่สามารถอ้างในคำภีร์อัลกุรอานหรือเอ่ยชื่อมารดาของศาสดาโมฮัมหมัดได้อย่างถูกต้อง โดยตัวประกันทั้งหมดยืนเรียงกันเข้าแถวเพื่อตอบคำถาม หากพลาดจะถูกสังหารด้วยปืน AK-47s
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000119839
_______________________________________________________________________
บิดาของศาสดามุฮัมมัด (ศ.) คือท่านอับดุลลอฮ์ เป็นบุตรคนสุดท้องของท่านอับดุลมุฏฏอลิบ แห่งเผ่ากุเรช ผู้ได้รับเกิยรติให้คุ้มครองบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซัมซัม ริมอัลกะอ์บะฮ์ ท่านอับดุลลอฮ์ได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ตอนที่ศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ยังอยู่ในครรภ์ของมารดา ท่านหญิงอามีนะฮ์ สตรีแห่งเผ่าศุหฮ์เราะฮ์
ท่านอับดุลมุฏฏอลิบผู้เป็นปู่ได้ขนานนามท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ว่า "มุฮัมมัด" แปลว่าผู้ที่ได้รับการสรรเสริญ เป็นนามที่ยังไม่มีผู้ใดใช้มาก่อนเลย เมื่อถือกำเนิดได้เพียงไม่นาน ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ก็จำต้องไปอยู่กับแม่นมรับจ้างซึ่งมีนามว่า ฮะลีมะฮ์ แห่งเผ่าซะอัด ตั้งถิ่นฐานอยู่นอกนครมักะฮ์ ทั้งนี้เป็นเพราะประเพณีดั้งเดิมของชาวอาหรับ เมื่อต้องการให้บุตรของตนเติบโตขึ้นในชนบท เพื่อสัมผัสกับวัฒนธรรมของชาวอาหรับพื้นเมืองที่แท้จริง
http://www.ahlulbait.org/main/content.php?page=sub&category=6&id=10
ท่องกันไว้ครับ เผื่อวันหนึ่งถูกถาม