เชื่อถือได้มากแค่ไหนครับ Benchmark and the Beast
คุกกี้ ได้ เดินทางไปถึง ญี่ปุ่น และ รีวิวไว้ อย่างนี้ครับ ขอเอาบทความให้อ่านดู ครับ น่าสนใจดี สำหรับคนที่สนใจตัวนี้ อ่านดูครับ
"ถึงจะเขียนว่า Review แต่จริงๆ ก็เป็น Experience ในการลองเล่น iPhone 5C ที่ Apple Store Ginza, ส่วน iPhone 5S นี่ผมโชคดีมาก เพราะได้รู้จักกับสาวญี่ปุ่นชื่อ Shoko จังที่มาต่อคิวล่วงหน้า 10 วัน
และเค้าก็สนิทกับคิวแรกที่ชื่อ Tetsuya Tamura [44] ด้วย o_O!!! จาก Apple Store Ginza, เราก็เลยย้ายมาหม่ำข้าวร้านใต้สะพานชื่อ Manpuku [เปิด 24 hr ด้วยนะ :3]และก็ได้ลองเล่น ลอง Review, เพราะที่ญี่ปุ่นนี่คนต่างชาติไม่สามารถซื้อ iPhone 5S และ iPhone 5C ได้…
iPhone 5C นี่บอกตรงๆ เลยครับว่าเหมือน iPhone 5 ตัวเก่าทุกประการ, แต่ Material ไม่ดีเท่าไรจริงๆ – -
แน่นอนครับว่า Material ของ iPhone 5C ก็ไม่ได้แย่แบบพวก Samsung Galaxy S4, แต่ถ้าเทียบกับ iPhone 5S หรือแม้แต่ iPhone 5 ตัวเก่าก็ต้องบอกว่าให้สัมผัสของ Plastic ยิ่งสีเหลืองนี่ผมว่าดู Cheap ลงไปเยอะเลย [แต่ iPhone 5C สีเหลืองขายดีสุดที่ญี่ปุ่นนะครับ, ถ้าไม่นับ iPhone 5S - -*]
ไม่แปลกใจเท่าไรที่ในญี่ปุ่น ลูกค้าส่วนใหญ่มาเพื่อซื้อ “iPhone 5S” แบบ “64GB” o_O!!! น้ำหนักของ iPhone 5C จะมากกว่า iPhone 5 เดิมราวๆ 10 – 20 g, ซึ่งก็ไม่รู้สึก… แถมผมว่าถ้ารู้สึก, เหมือน iPhone 5C จะเบากว่า iPhone 5 / iPhone 5S ด้วยซ้ำ เพราะมันเป็น Plastic
ที่ Apple Store Ginza นี่มีขายพร้อมเลยครับ, ทั้ง iPhone 5S / iPhone 5C และ Case ~
เท่าที่จับและลองเขย่าๆ เคาะๆ กับมือ, ก็ถือว่า iPhone 5C ไม่ได้แย่ขนาดส่งเสียงกรอบๆ แกรบๆ หรือฝาจะหลุดแบบพวก Galaxy S4 แต่ถ้าใครที่ถือ iPhone 5 ตัวเดิมอยู่ละก็…
ผมว่ามองข้าม iPhone 5C ไปซื้อ iPhone 5S ตัวเดียวเลยดีกว่า ซึ่ง Material ของ iPhone 5S นี่ Heavenly มากครับ… iPhone 5S สีทองของจริงคือ “Champagne Gold” ออกทองเบาๆ พอให้สะดุดตาว่า “นี่คือ iPhone 5S นะ ไม่ใช่รุ่นเก่า” ~ ตัวเครื่องจริงทั้งเบาและบาง จับมือเดียวถนัดมาก และให้สัมผัสของ SmartPhone หรูอันดับ 1 เช่นเคย
ตรงปุ่ม Home ก็มีวงแหวนสีเงิน, มันคือ “Touch ID” หรือก็คือ Fingerprint Scanner นั่นเอง โดยตรงนี้เราสามารถเข้าไป Set ค่านิ้วมือเราหลายๆ นิ้วได้ เผื่อว่านิ้วหลักเราเจ็บหรืออยากจะให้คนอื่น Unlock ได้หลายๆ คน
ตัวปุ่ม Home ของ iPhone 5S ทำงานได้ 2 แบบคือ Touch [วางนิ้ว] และกดกริ๊กๆ เบาๆ เพื่อเข้าคำสั่ง ~ และ Touch ID ของมันก็แม่นมาก…
มันไม่เหมือนมือถือยุคโบราณที่ผมวางนิ้วมือไปแล้ว Failed ตลอด – -[ได้ยินว่าฝรั่งทดสอบด้วยการเอาแมวมาปั๊มเท้าแล้วก็ใช้งานได้ด้วยละ - -*] ในส่วนของความเร็ว, บอกตรงๆ เลยครับว่าลองเข้า CookieCoffee และเข้ากล้องแล้ว แต่ไม่รู้สึกต่างจาก iPhone 5 / iPhone 5C [แต่ 2 รุ่นนี้มันก็เร็วที่สุดในบรรดามือถืออยู่แล้ว ~]
ความต่างของ iPhone 5S VS iPhone 5C VS iPhone 5, ผมว่าคือเรื่อง Speed ในระดับสูง เช่นการรัน Graphic หรือ 3D Game, ซึ่งผมไม่ได้ใช้ บอกกันตรงๆ เลยครับว่าผมไม่ได้รู้สึก “Wow” กับ iPhone 5S นัก แม้จะได้จับเครื่องจริงแล้ว สีทองก็สวยดีหรอก, แต่ส่วนตัวผมเป็นคนชอบสีดำด้วยนี่นา – -* เหลือแค่ “กล้อง” ครับ ที่ยังไม่ได้ Review…
แต่ผมคุยกับเจ้าของ iPhone 5S ทั้งหลายแล้วว่า, ให้ใช้งานสักวันสองวันแล้วส่งตัวอย่างภาพถ่าย by The iPhone 5S มาให้หน่อย [ดีสุดๆ แน่นอนเพราะมันคือภาพถ่ายจากผู้ใช้งานจริงแบบ USer Experience ^^)] ก็ต้องรอดูกันละว่ากล้อง iPhone 5S จะเหนือกว่า iPhone 5 เดิมและ iPhone 5C แค่ไหน ?
และนี่คือบรรยากาศการต่อคิวหน้า Apple Store Ginza ณ วันที่ 20 Sep 2013 ~ ที่นี่ญี่ปุ่นนะครับ, ดังนั้นจึงมีคน Cosplay เป็น iPhone 5S หลายคน – -* วันนี้ที่ Tokyo ไม่ร้อนแต่แดดแรง, ทาง Apple Store Ginza ก็เลยเอาร่มคันใหญ่สีดำออกมาให้ลูกค้าที่ต่อคิวได้ยืมคนละคัน และการต่อแถวก็เป็นไปอย่างมีระเบียบตาม STyle ญี่ปุ่นครับ [แต่ Cosplay เยอะจริงๆ - -] ส่วนราคาก็ตามที่เห็น, iPhone 5S 16GB เริ่มที่ 68040 Yen หรือ 21500 บาท และ iPhone 5C 16GB ก็ราคาเปิดตัวที่ 52920 Yen [16700 บาท]
แต่ที่ญี่ปุ่นขาย iPhone 5S & iPhone 5C แบบติด Locked ONly… ถ้าใครอยากหิ้ว, ทั้ง iPhone 5S และ iPhone 5C ก็แนะนำที่จีน / Singapore และ Hong Kong จะดีกว่า
นี่ผมก็นั่งเขียน iPhone 5S / iPhone 5C Review อยู่ที่ Starbucks Ginza, สาขาแรกในญี่ปุ่น [ไม่รู้ด้วยครับว่ามันอยู่ตรงนี้ แต่บังเอิญเดินหลงมา ดันเป็นสาขาประวัติศาสตร์ซะงั้น
] ซึ่งอยู่ตรงข้าม Apple Store
ดังนั้น ใครมีคำถามอะไรสงสัยตอนนี้ก็มา Comment ได้, เดี๋ยวจะวิ่งข้ามถนนไปหาคำตอบให้ ~และโรงแรมที่ผมพักคือ The Mariott Ginza, ห่างจาก Apple Store แค่เดิน 3 นาที [ปรกติเวลา Backpack มาญี่ปุ่นจะนอน Hostel คืนละ 2800 Yen แต่ Mariott นี่คืนละ 70000 Yen o_O!!!]
รอดู Review ในส่วนของกล้องและภาพถ่ายต่อละกันน้า ~ ภาพนี้คือเจ้าของ iPhone 5S คนแรกแห่งญี่ปุ่นและ Asia, Tetsuya Tamura ~
ร้าน Manpuku ใต้สะพาน Yuraucho นี่อร่อยไม่เลวเลย บรรยากาศบ้านๆ อาหารก็ราคาไม่แพงด้วย ^^”
Update : แล้ว iPhone 5S เร็วแค่ไหนเมื่อเทียบกับ Quad Core Android Flagship ? นี่ผมเดินมาตึกข้างๆ, มี Sony Building ที่เพิ่งเปิดตัว Xperia Z1 กันน้ำไปเมื่อวันก่อน แม้ Xperia Z1 จะเป็นรุ่น Top สุด, ในขณะที่ iPhone 5S ยังใช้แค่ Dual Core CPU แต่เมื่อลองเล่นเทียบกันในคำสั่งพื้นฐาน / Social Network App และการสลับคำสั่ง Multitasking ก็พบว่า…
Xperia Z1 ยังกระตุกและชะงักเวลากลับมาจอ Home ครับ ในขณะที่ iPhone 5S + iOS7 ไม่มีอาการเหล่านั้นทั้งที่สลับ Mutitasking ไปๆ มาๆ ราว 15 Apps [มีคนบอกว่า ทดสอบจริงๆ ต้องแข่งกันรัน Graphic, แต่ผมว่าถ้าแค่ Basic ยังกระตุกแล้วจะรัน Graphic ไปทำไม - -] และจอ Retina Display ของ iPhone 5S ก็ยังคงสวยกว่า [แต่เรื่องเล็กกว่านี่ก็ต้องบอกว่าชัวร์
]
Update 2 : มีหลายท่านสงสัยว่าแล้ว iPhone 5C [ซึ่ง Spec เหมือน iPhone 5 เดิม] ที่วางอยู่ใน Apple Store มันมีปัญหาบ้างไหม เพราะมันรัน iOS7 ที่ตอนนี้คนกำลังบ่นๆ อยู่นี่ ?
คำตอบคือ Stable จนน่าตกใจ… ภาพข้างบนนี่คือ iPhone 5C ครับ, รัน iOS7 โดยกำเนิด ทุกจังหวะที่ Touch & Type มัน Flow มาก, ทั้งที่ไม่ได้กลับมาปิด App เดิมๆ เลยแม้แต่ตัวเดียว ผมคิดว่าถ้า iPhone 5C / iPhone 5S รัน iOS7 ได้ไม่ดี, Apple Inc ไม่กล้าเอามาวางใน Apple Store แน่
ยิ่งเป็น Brand ที่เน้นความ Perfection ขั้นสูงสุดของโลกมือถืออย่าง Apple ด้วยแล้ว, ตอนนี้ iPhone 5S Champagne Gold สีทองของหมดไปจาก Apple Store Ginza เรียบร้อย ~"
อ่านต่อได้ที่
http://www.cookiecoffee.com/mobile/58743/iphone-5s-5c-review-thailand-first-day-sale-store
ปล สำหรับคนที่ สนใจ อยู่ถือว่าเป็นข้อมูลที่ดี เหมือนกัน ครับ
คุ๊กกี้ บอกว่า iPhone 5S Dual Core มีความเร็วสูงเหนือ Android ทุกรุ่นในโลก จริงหรือไม่ ?????
คุกกี้ ได้ เดินทางไปถึง ญี่ปุ่น และ รีวิวไว้ อย่างนี้ครับ ขอเอาบทความให้อ่านดู ครับ น่าสนใจดี สำหรับคนที่สนใจตัวนี้ อ่านดูครับ
"ถึงจะเขียนว่า Review แต่จริงๆ ก็เป็น Experience ในการลองเล่น iPhone 5C ที่ Apple Store Ginza, ส่วน iPhone 5S นี่ผมโชคดีมาก เพราะได้รู้จักกับสาวญี่ปุ่นชื่อ Shoko จังที่มาต่อคิวล่วงหน้า 10 วัน
และเค้าก็สนิทกับคิวแรกที่ชื่อ Tetsuya Tamura [44] ด้วย o_O!!! จาก Apple Store Ginza, เราก็เลยย้ายมาหม่ำข้าวร้านใต้สะพานชื่อ Manpuku [เปิด 24 hr ด้วยนะ :3]และก็ได้ลองเล่น ลอง Review, เพราะที่ญี่ปุ่นนี่คนต่างชาติไม่สามารถซื้อ iPhone 5S และ iPhone 5C ได้…
iPhone 5C นี่บอกตรงๆ เลยครับว่าเหมือน iPhone 5 ตัวเก่าทุกประการ, แต่ Material ไม่ดีเท่าไรจริงๆ – -
แน่นอนครับว่า Material ของ iPhone 5C ก็ไม่ได้แย่แบบพวก Samsung Galaxy S4, แต่ถ้าเทียบกับ iPhone 5S หรือแม้แต่ iPhone 5 ตัวเก่าก็ต้องบอกว่าให้สัมผัสของ Plastic ยิ่งสีเหลืองนี่ผมว่าดู Cheap ลงไปเยอะเลย [แต่ iPhone 5C สีเหลืองขายดีสุดที่ญี่ปุ่นนะครับ, ถ้าไม่นับ iPhone 5S - -*]
ไม่แปลกใจเท่าไรที่ในญี่ปุ่น ลูกค้าส่วนใหญ่มาเพื่อซื้อ “iPhone 5S” แบบ “64GB” o_O!!! น้ำหนักของ iPhone 5C จะมากกว่า iPhone 5 เดิมราวๆ 10 – 20 g, ซึ่งก็ไม่รู้สึก… แถมผมว่าถ้ารู้สึก, เหมือน iPhone 5C จะเบากว่า iPhone 5 / iPhone 5S ด้วยซ้ำ เพราะมันเป็น Plastic
ที่ Apple Store Ginza นี่มีขายพร้อมเลยครับ, ทั้ง iPhone 5S / iPhone 5C และ Case ~
เท่าที่จับและลองเขย่าๆ เคาะๆ กับมือ, ก็ถือว่า iPhone 5C ไม่ได้แย่ขนาดส่งเสียงกรอบๆ แกรบๆ หรือฝาจะหลุดแบบพวก Galaxy S4 แต่ถ้าใครที่ถือ iPhone 5 ตัวเดิมอยู่ละก็…
ผมว่ามองข้าม iPhone 5C ไปซื้อ iPhone 5S ตัวเดียวเลยดีกว่า ซึ่ง Material ของ iPhone 5S นี่ Heavenly มากครับ… iPhone 5S สีทองของจริงคือ “Champagne Gold” ออกทองเบาๆ พอให้สะดุดตาว่า “นี่คือ iPhone 5S นะ ไม่ใช่รุ่นเก่า” ~ ตัวเครื่องจริงทั้งเบาและบาง จับมือเดียวถนัดมาก และให้สัมผัสของ SmartPhone หรูอันดับ 1 เช่นเคย
ตรงปุ่ม Home ก็มีวงแหวนสีเงิน, มันคือ “Touch ID” หรือก็คือ Fingerprint Scanner นั่นเอง โดยตรงนี้เราสามารถเข้าไป Set ค่านิ้วมือเราหลายๆ นิ้วได้ เผื่อว่านิ้วหลักเราเจ็บหรืออยากจะให้คนอื่น Unlock ได้หลายๆ คน
ตัวปุ่ม Home ของ iPhone 5S ทำงานได้ 2 แบบคือ Touch [วางนิ้ว] และกดกริ๊กๆ เบาๆ เพื่อเข้าคำสั่ง ~ และ Touch ID ของมันก็แม่นมาก…
มันไม่เหมือนมือถือยุคโบราณที่ผมวางนิ้วมือไปแล้ว Failed ตลอด – -[ได้ยินว่าฝรั่งทดสอบด้วยการเอาแมวมาปั๊มเท้าแล้วก็ใช้งานได้ด้วยละ - -*] ในส่วนของความเร็ว, บอกตรงๆ เลยครับว่าลองเข้า CookieCoffee และเข้ากล้องแล้ว แต่ไม่รู้สึกต่างจาก iPhone 5 / iPhone 5C [แต่ 2 รุ่นนี้มันก็เร็วที่สุดในบรรดามือถืออยู่แล้ว ~]
ความต่างของ iPhone 5S VS iPhone 5C VS iPhone 5, ผมว่าคือเรื่อง Speed ในระดับสูง เช่นการรัน Graphic หรือ 3D Game, ซึ่งผมไม่ได้ใช้ บอกกันตรงๆ เลยครับว่าผมไม่ได้รู้สึก “Wow” กับ iPhone 5S นัก แม้จะได้จับเครื่องจริงแล้ว สีทองก็สวยดีหรอก, แต่ส่วนตัวผมเป็นคนชอบสีดำด้วยนี่นา – -* เหลือแค่ “กล้อง” ครับ ที่ยังไม่ได้ Review…
แต่ผมคุยกับเจ้าของ iPhone 5S ทั้งหลายแล้วว่า, ให้ใช้งานสักวันสองวันแล้วส่งตัวอย่างภาพถ่าย by The iPhone 5S มาให้หน่อย [ดีสุดๆ แน่นอนเพราะมันคือภาพถ่ายจากผู้ใช้งานจริงแบบ USer Experience ^^)] ก็ต้องรอดูกันละว่ากล้อง iPhone 5S จะเหนือกว่า iPhone 5 เดิมและ iPhone 5C แค่ไหน ?
และนี่คือบรรยากาศการต่อคิวหน้า Apple Store Ginza ณ วันที่ 20 Sep 2013 ~ ที่นี่ญี่ปุ่นนะครับ, ดังนั้นจึงมีคน Cosplay เป็น iPhone 5S หลายคน – -* วันนี้ที่ Tokyo ไม่ร้อนแต่แดดแรง, ทาง Apple Store Ginza ก็เลยเอาร่มคันใหญ่สีดำออกมาให้ลูกค้าที่ต่อคิวได้ยืมคนละคัน และการต่อแถวก็เป็นไปอย่างมีระเบียบตาม STyle ญี่ปุ่นครับ [แต่ Cosplay เยอะจริงๆ - -] ส่วนราคาก็ตามที่เห็น, iPhone 5S 16GB เริ่มที่ 68040 Yen หรือ 21500 บาท และ iPhone 5C 16GB ก็ราคาเปิดตัวที่ 52920 Yen [16700 บาท]
แต่ที่ญี่ปุ่นขาย iPhone 5S & iPhone 5C แบบติด Locked ONly… ถ้าใครอยากหิ้ว, ทั้ง iPhone 5S และ iPhone 5C ก็แนะนำที่จีน / Singapore และ Hong Kong จะดีกว่า
นี่ผมก็นั่งเขียน iPhone 5S / iPhone 5C Review อยู่ที่ Starbucks Ginza, สาขาแรกในญี่ปุ่น [ไม่รู้ด้วยครับว่ามันอยู่ตรงนี้ แต่บังเอิญเดินหลงมา ดันเป็นสาขาประวัติศาสตร์ซะงั้น ] ซึ่งอยู่ตรงข้าม Apple Store
ดังนั้น ใครมีคำถามอะไรสงสัยตอนนี้ก็มา Comment ได้, เดี๋ยวจะวิ่งข้ามถนนไปหาคำตอบให้ ~และโรงแรมที่ผมพักคือ The Mariott Ginza, ห่างจาก Apple Store แค่เดิน 3 นาที [ปรกติเวลา Backpack มาญี่ปุ่นจะนอน Hostel คืนละ 2800 Yen แต่ Mariott นี่คืนละ 70000 Yen o_O!!!]
รอดู Review ในส่วนของกล้องและภาพถ่ายต่อละกันน้า ~ ภาพนี้คือเจ้าของ iPhone 5S คนแรกแห่งญี่ปุ่นและ Asia, Tetsuya Tamura ~
ร้าน Manpuku ใต้สะพาน Yuraucho นี่อร่อยไม่เลวเลย บรรยากาศบ้านๆ อาหารก็ราคาไม่แพงด้วย ^^”
Update : แล้ว iPhone 5S เร็วแค่ไหนเมื่อเทียบกับ Quad Core Android Flagship ? นี่ผมเดินมาตึกข้างๆ, มี Sony Building ที่เพิ่งเปิดตัว Xperia Z1 กันน้ำไปเมื่อวันก่อน แม้ Xperia Z1 จะเป็นรุ่น Top สุด, ในขณะที่ iPhone 5S ยังใช้แค่ Dual Core CPU แต่เมื่อลองเล่นเทียบกันในคำสั่งพื้นฐาน / Social Network App และการสลับคำสั่ง Multitasking ก็พบว่า…
Xperia Z1 ยังกระตุกและชะงักเวลากลับมาจอ Home ครับ ในขณะที่ iPhone 5S + iOS7 ไม่มีอาการเหล่านั้นทั้งที่สลับ Mutitasking ไปๆ มาๆ ราว 15 Apps [มีคนบอกว่า ทดสอบจริงๆ ต้องแข่งกันรัน Graphic, แต่ผมว่าถ้าแค่ Basic ยังกระตุกแล้วจะรัน Graphic ไปทำไม - -] และจอ Retina Display ของ iPhone 5S ก็ยังคงสวยกว่า [แต่เรื่องเล็กกว่านี่ก็ต้องบอกว่าชัวร์ ]
Update 2 : มีหลายท่านสงสัยว่าแล้ว iPhone 5C [ซึ่ง Spec เหมือน iPhone 5 เดิม] ที่วางอยู่ใน Apple Store มันมีปัญหาบ้างไหม เพราะมันรัน iOS7 ที่ตอนนี้คนกำลังบ่นๆ อยู่นี่ ?
คำตอบคือ Stable จนน่าตกใจ… ภาพข้างบนนี่คือ iPhone 5C ครับ, รัน iOS7 โดยกำเนิด ทุกจังหวะที่ Touch & Type มัน Flow มาก, ทั้งที่ไม่ได้กลับมาปิด App เดิมๆ เลยแม้แต่ตัวเดียว ผมคิดว่าถ้า iPhone 5C / iPhone 5S รัน iOS7 ได้ไม่ดี, Apple Inc ไม่กล้าเอามาวางใน Apple Store แน่
ยิ่งเป็น Brand ที่เน้นความ Perfection ขั้นสูงสุดของโลกมือถืออย่าง Apple ด้วยแล้ว, ตอนนี้ iPhone 5S Champagne Gold สีทองของหมดไปจาก Apple Store Ginza เรียบร้อย ~"
อ่านต่อได้ที่
http://www.cookiecoffee.com/mobile/58743/iphone-5s-5c-review-thailand-first-day-sale-store
ปล สำหรับคนที่ สนใจ อยู่ถือว่าเป็นข้อมูลที่ดี เหมือนกัน ครับ