ใครบอกว่าห้องราชดำเนิน น่ากลัว มีแต่การด่าทอ ก้าวร้าวรุนแรง จนทำให้สมาชิกห้องอื่นรังเกียจ อุ๊บส์ .....เกรงจายยย ...จนไม่กล้าเข้ามาแสดงความคิดเห็น ดิฉันขอเถียงค่ะ ห้องราชดำเนินนี่แหละ ... น่ารักที่ซู้ดดด ขอบ่อก

ดิฉันเคยได้ยินเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่ง เป็นใครนั้นต้องขออภัยจริงๆค่ะจำไม่ได้ บอกว่า “ออกจากห้องนอน  เข้าห้องน้ำ แล้วมาห้องนี้” เป็นกิจวัตรทู้กวัน และมีสมาชิกหลายๆท่านก็ติดห้องนี้เป็นตังเมชิมิ ... ยอมรับมาเถอะน่า

จะว่าไป ในความรู้สึกของดิฉันคิดว่า ห้องราชดำเนินเป็นห้องที่เข้ามาอ่านแล้วสนุก ไม่น่าเบื่อเพราะมีหลากหลายอารมณ์มาก ทั้งฮาทั้งขรรม (เอากะเขามั่งดิ) ทั้งเศร้า ทั้งสุข คละเคล้ากันไป แต่ลึกๆแล้ว ห้องราชดำเนินเป็นห้องที่มีความอบอุ่น มีความเอื้ออาทร  มีมิตรภาพแฝงอยู่ในทุกซอกทุกซอนต๊อกต๋อย (แขวะป้าต๊อกน่ะค่ะ)

ยกตัวอย่าง กลุ่มคนเสื้อแดงราชดำเนิน มีการจัดมีทติ้งพบปะพูดคุย รวมกลุ่มกันทำกิจกรรมดีๆ เพื่อช่วยเหลือสังคมอยู่บ่อยๆ  ที่เห็นชัดเจนก็อย่างล็อกอิน “ลุงจุก” ที่ได้ช่วยเหลือให้คนมีงานมีอาชีพทำ คุณลุง"คนอุบล” ผู้สนับสนุนนักกีฬาวอลเล่ย์ และแบดมินตัน คุณ “cnck"  สมทบทุนช่วยเหลือเด็กนักเรียนยากจนหรืองานการกุศลทุกครั้งที่มีการขอทุนมา  อย่างนี้เป็นต้น ไม่นับรวมล็อกอินที่ไม่เปิดเผยตัวตนที่อยู่เบื้องหลัง ที่คอยสนับสนุนกิจกรรมดีๆอย่างนี้อีกมากมาย .... ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้เอ่ยนาม

ทางฝั่งตรงข้ามเสื้อแดงเองก็คงจะมีกิจกรรมดีๆแบบนี้ด้วยเหมือนกันล่ะนะ เพราะเคยเห็นแว่บๆอยู่ว่า ได้มีการร่วมกันจัดซื้อเสื้อให้กับทหารอะไรนี้แหละ ... พอดีช่วงนั้นดิฉันยุ่งๆกับงานก็เลยไม่ได้ติดตามความเป็นไปต้องขออภัยมา ณ ที่นี้

แต่เชื่อมะ ว่าไอ้ที่ด่ากันได้ทุกวี่ทุกวันนั้น ในความเป็นจริงแล้วอาจไม่มีอะไรหรอก เผลอๆ อาจจะเคยเจอหน้ากันทุกวันด้วยซ้ำไป  เพราะอาจจะมีออฟฟิสอยู่อาคารเดียวกันที่ชื่อ “ดวงใจไสศีรษะไปให้ไกลโดยไว”  ก็เป็นได้ ....แหะๆ ชื่ออาคารแปลกๆเนาะ ..

อาทิตย์ก่อนดิฉันมีนัด Present งานกับลูกค้าในกรุงเทพฯ ตอนที่นั่งอยู่บนเครื่องก็คิดว่า เมื่อถึงสุวรรณภูมิแล้วเราจะกลับบ้านยังไงหว่า ? จะนั่งแท็กซี่ก็กลัวพี่แท็กซี่จะจีบเพราะเป็นคนหน้าตาดีแบบไม่บันยะบันยัง  อีกอย่างก็ดึกแล้วและไกล  กลับแอร์พอร์ตลิ้งค์น่าจะดีกว่าไหม ?
นั่งคิดไปคิดมา เลยเถิดไปคิดถึงมุกฮาๆของพี่ บางระจันวันเพ็ญ ที่พี่เค้าเขียนเรื่อง มีทติ้งสลิ่ม ตอนที่คนซวยนั่งเครื่องบินมามีทติ้ง พี่เค้าเขียนว่า พอลงเครื่องปุ๊บก็จับสามล้อมางานมีทติ้งปั๊บเลยทันที  แล้วก็มีคนแย้งว่า ไอ้ที่คุณคนซวยนั่งมาน่ะ มันเครื่องบินหรือรถแดงกันแน่ ? นั่งคิดไปก็ฮาไปอยู่คนเดียว ... เออเนอะ ... พี่เค้าก็คิดไปด๊ายย ...ไหนจะมุขคุณทีเฟคแตกกระทู้จากโต๊ะนี้ไปโต๊ะโน้นอีก เล่นเอาฮากันทั้งบอร์ด


ถ้าจะพูดถึงคู่โต้แย้งที่เป็นคู่ปรับ หรือ คู่รักคู่แค้น หรือคู่หู หรือ เจ้าภาพกฐิน หรืออะไรก็แล้วแต่ในบอร์ดราชดำเนินแห่งนี้   ก็มีอยู่หลายคู่ด้วยกัน ชนิดที่ว่าถ้าเป็นล็อกอินนี้จะต้องนึกถึงอีกล็อกอินหนึ่งขึ้นมาทันที

เช่น พี่ภูเขาทะเลฯ  กับเรื่อง 6 ศพวัดปทุม เป็นต้องนึกถึง คุณศรอรชุน ขึ้นมาเลยทันที ....เถียงกันมาตั้งแต่ลูกยังไม่เกิดจนตอนนี้หลานบวชแล้วมั๊ง ... แต่ก็ยังไม่ได้ผู้ประกาศชัยชนะซ๊ากกกกที ... สงสัยจะต้องเถียงกันต่อไปอีกจนเหลนแต่งงานนู่นแหละเนอะ ...

คู่ของพี่แว่น ji-ju กับลุงอ่วมสตาร์ (aumstar) คู่นี้ก็ โหด มัน ฮา กับเรื่องรูปหรือข้อมูลบิดเบือน เอาให้พอเลยลุงอ่วม พี่แว่นน่ะบอกข้อมูลไม่ละเอียดหรอก อย่างราคายางพาราสมัยนายจุลินทร์ เป็น รมช.พาณิชย์ กิโลละ 13 บาทน่ะมันบิดเบือน มันต้องกิโลละ 13.4 บาทต่างหากเนอะลุงอ่วมเนอะ ดูสิบิดเบือนตั้ง 40 สตางค์แน่ะ คราวหลังนู๋แนะนำให้   ลุงอ่วมซื้อแว่นขยาย เอาแบบขยายเป็นหลายๆล้านเท่าเลยนะคะ เอามาส่องหาข้อผิดพลาด เอาแบบส่องให้เห็นถึง นิวเคลียส โมเลกุล จุลินทรีย์ แบคทีเรีย ไวรัส อย่าให้เล็ดลอดออกไปได้เลย  นะนะ ... โอเค้...

คู่ปรับฮาๆอีกคู่คือ คุณนพนครพิงค์ กับ ดวงใจที่ใสกระจ่าง ตอนแรกก็ดุเดือดชนิดเอาเป็นเอาตาย ฝ่ายดวงใจฯก็กล่าวหาคุณนพฯ เป็นนั่น โน่น นี่ โดยอาศัยนั่งทางในถามลูกแก้ววิเศษเอา ...โอ้แม่เจ้า ... ช่างล้ำยุคไฮเทคอะไรปานละฉะนี้ (ตรูจะบร้า)   อ้าว  ! กล่าวหากันแบบนี้ คุณนพฯจะยอมง่ายๆได้ยังไง  แม่บ๊ะจ่าง เธอไปหาหลักฐานจากลูกแก้วเน่าๆของเธอมาประกอบการกล่าวหาซิ ถ้าหามาไม่ได้ชั้นจะตั้งกระทู้ประกาศชัยชนะล่ะนะ (ฮา) ช่วงหลังๆ ดูเหมือนต่างฝ่ายต่างเอือมระอาซึ่งกันและกัน ดูการโพสต์โต้ตอบแล้วออกแนวล้อกันเล่นมากกว่าโกรธกันจริงๆ จัง ๆ (รึป่าวหว่า...?)

ต่อมาก็เป็นคู่ของลุงจุกกับพี่ม้าลำปาง ... ด้วยเรื่อง "ช่องหมาลอด" คู่นี้เปรียบไปก็เหมือนกับละครเรื่อง “แต่ปางก่อน” คือเรื่องมันเริ่มมาจากห้องชายคาเมื่อปีก่อน เรื่องความกว้างของล้อโพลี่ยูรีเทน ที่พี่ม้าลำปาง ไปเสร่อรู้ดีกว่าเจ้าของล้อว่า ความกว้างของล้อนั้นมันไม่น่าจะถึง 10 นิ้ว ทั้งๆที่เจ้าของเขาก็ยืนยันแล้วยืนยันอีก โชว์ทั้งรูปที่ทาบกับไม้บรรทัดก็แล้ว พี่ม้าลำปางของเราก็ไม่ยอมเชื่อยังพยายามจะหาช่องแถ ไถ เถือก ไปให้ได้ ... แถจนสีข้างถลอกปอกเปิกไม่มีชิ้นดีจนได้ขึ้นเวปจ่า  จึงเป็นที่มาของ “ช่องหมาลอด” ด้วยประการฉะนี้ เห็นไหมฉายา “ช่องหมาลอด” ไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วยนะจ๊ะ  ได้มาด้วยความสามารถ(แถ)ล้วนๆ  งานนี้เล่นเอาพี่ม้าของเราเสียม้าไปหลายตัวเลยทีเดียว ..

ทีนี้มันมาเกี่ยวกับลุงจุกก็เพราะว่าลุงจุกแกเป็นคนประเภทปากร้ายแต่ใจดี (โพสต์ไปก็เสียวสันหลังวาบๆ กลัวแกด่าเหมือนกัน)  ทำให้ลุงจุกต้องถูกยึดอมยิ้มอยู่บ่อยๆ แต่ด้วยเลือดนักสู้แห่ง รดน. เมื่อถูกยึดอมยิ้ม ยึดได้ก็ยึดไป ลุงจุกก็สมัครเข้ามาใหม่ได้เหมือนกัน แต่ลุงแกก็ไม่เคยปิดปังว่าแกเป็นใคร ก็มีแต่พี่ม้าลำปางนี่แหละที่งมโข่งไม่รู้ .... แต่พอรู้ก็รีบหาช่อง(หมาลอด) มาตั้งกระทู้โวยวายถึง WM ว่าทำไมปล่อยให้ลุงจุกสมัครเข้ามาใหม่ได้หลายๆครั้ง.... ลุงจุกแกก็เลยยกเอาเรื่อง ช่องหมาลอด จากเวปจ่า มาตอบโต้ ... พี่ม้าของเราก็เลยมีเคือง เนื่องจากไปสะกิดรอยช้ำความแถแถดของแกเข้า (สร้างภาพมาดีไง ...นึกว่าจะเก็บเป็นความลับซะหน่อย ลุงจุกนะลุงจุกเอามาเปิดเผยในนี้ได้ไง)
ก็ในเมื่อมันเป็นสิทธิที่ลุงจุกสามารถทำได้ WM เขาถึงไม่ว่าอะไรไงคะ .... แล้วพี่ม้าจะเดือดร้อนไปทำไมล่ะเนี้ย ???....

อ้อ ! ที่บอกว่าเปรียบเหมือนละครเรื่อง แต่ปางก่อน ก็เพราะว่า เป็นคู่ปรับที่ต้นเหตุข้ามมาจากห้องอื่นตั้งแต่ปีกลาย ติดตามมาจนถึงห้องที่อยู่กันประจำในปัจจุบัน ก็เหมือนข้ามชาติมาพบกันเหมือนละครน่ะแหละ ....

วันนี้หยิกแกมหยอกแค่นี้ก่อน ... ถ้าเพชรน้ำนิล มีชีวิตรอดจากทุกท่านที่ได้พาดพิงไป ก็คงจะได้กลับมาอ่านและคอมเม้นท์กระทู้ของเพื่อนๆในนี้อีก .... แต่ถ้าหายไปนานๆ ก็แสดงว่า “ไม่รอด”  .... ก็ขอถือโอกาสขออภัยทุกท่านมา ณ ที่นี้..... เทอญ