หลังจากที่เมื่อวานเรารีวิวงานหนังสือที่แฟรงก์เฟิร์ตไปแล้ว เราเลยขออีกหนึ่งบุ๊คแฟร์เลยแล้วกัน (ฟิตมาก)
เข้าไปดูได้ที่ลิงก์นี้เลยจ้า >>>
http://ppantip.com/topic/31010511
เราจะพาไปที่ประเทศไต้หวันค่ะ ที่เมืองหลวงกรุงไทเป กับชื่องาน "Taipei International Book Fair 2013"
มีขึ้นทุกปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งปี 2013 นี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม ถึง 4 กุมภาพันธ์ 2556
ว่ากันว่าเป็นบุ๊คแฟร์ใหญ่ที่สุดระดับเอเชียเลยนะเออ บางคนเปรียบว่าเป็นแฟรงก์เฟิร์ตของเอเชียเชียวละ
เราใช้เวลา 3 ชั่วโมงนิดๆ จากประเทศไทย เราก็ถึงสนามบินนานาชาติเถาหยวน กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน
จากสนามบินไม่ลำบากในการเดินทางเข้าเมือง เพราะระบบคมนาคมบ้านเขาเลิศ
จากสนามบินเรานั่งรถไฟความเร็วเวอร์ Taiwan High-Speed Rail หรือย่อๆ คือ HSR
อารมณ์คล้ายชินคันเซ็น ต้องนั่งรถชัตเติ้ลบัสของ U-bus จากอาคารผู้โดยสารเพื่อไปขึ้นรถไฟนี้ (ราคาประมาณ 30 หยวน)
หลังจากนั้นจึงค่อยซื้อตั๋ว HSR (ประมาณ 160 หยวน) สถานีปลายทางคือ ไทเปเมนสเตชั่น (Taipei Main Station)
ซึ่งเป็นฮับใหญ่ของระบบรถไฟใต้ดินของเมืองไทเป แล้วค่อยเปลี่ยนไปขึ้นสายสีน้ำเงิน ลงสถานี Taipei City Hall ออกประตู 3
แล้วต่อรถชัตเติลบัสของตึกไทเป 101 ไปถึงงานเลยค่ะ
สถานที่จัดงานชื่อ Taipei World Trade Center
ข้างๆ กับฮอลล์แสดงงานจะเป็นตึกไทเป 101
ป้ายประชาสัมพันธ์งาน
งานบุ๊คแฟร์จะมีทั้งหมด 3 Hall ค่ะ แต่ว่า แต่ละฮอลล์นั้นกว้างใหญ่มาก
มาเริ่มกันที่ฮอลล์แรก >> Hall 1 เป็นอาคารแสดงหนังสือทั่วไป รวมทั้งสำนักพิมพ์จากต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย
บูทของประเทศไทยค่ะ
บรรยากาศการเจรจาธุรกิจ
ทีนี้ไปเดินดูรอบๆ Hall 1 กันบ้าง
เวลาเข้ามาจากทางประตูหลักแล้ว เราจะเจอกับเวทีกลาง
จากภาพเหตุการณ์ คือวันเปิดงานหนังสือวันแรก ก็จะเป็นพิธีเปิดามธรรมเนียม
และเวทีนี้ก็จะใช้เป็นเวทีเปิดตัวหนังสือจากสำนักพิมพ์ต่างๆ ด้วย
เดินเข้าไปก็จะเป็นบูทต่างๆ
สำนักพิมพ์ของไต้หวัน
บูทนี้จากฮ่องกงค่ะ
บูทนี้เป็นสำนักพิมพ์ที่พิมพ์งานของศิลปินชื่อดังของบ้านเขา "จิมมี่ เลี่ยว"
กำลังจะมีการแจกลายเซ็นล่ะ
วันหลังๆ ที่เปิดให้คนทั่วไปเขามาซื้อหนังสือได้ คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เดินสบายๆ โล่งๆ
เดี๋ยวจะพาไปดูอีก 2 Hall ที่เหลือกันนะ แต่ก่อนอื่น...
เราขอแวะพักเบรกด้วยขนมซิกเนเจอร์ประจำงาน ที่พี่คนหนึ่งแนะนำว่าควรกิน
เราก็ไม่รู้ว่าชื่อมันคืออะไรนะ รสชาติคล้ายๆ วาฟเฟิล แต่เนื้อมันไม่ใช่วาฟเฟิลน่ะสิ
น่ากินมั้ยล่ะ ^^
ซองจะเป็นแบบนี้นะคะ
รองท้องเรียกน้ำย่อยแล้วก็ข้ามไปกินมื้อเที่ยงกันที่ตึกไทเป 101 เพราะว่าละแวกนี้ร้านอาหารไม่ค่อยมี
ใครที่มางานหนังสือนี้ส่วนมากก็จะลงไปกินกันที่ชั้นใต้ดินของตึก มีอาหารให้เลือกเยอะมาก
ทั้งอาหารจีน อาหารไต้หวัน ญี่ปุ่น หรือใครไม่ถนัดก็มีแมคโดนัลด์กันตายนะเออ
เราลองร้านกระทะร้อน และเลือกเป็นปลาหมึกกับเนื้อ เพราะแอบชำเลืองมองคนที่สั่งมากิน มันน่ากินมากกก
น่ากินมั้ยล่ะ หุหุ
ทีนี้ไปดู Hall 3 ก่อน เพราะมันอยู่ใกล้ๆ กับตึกที่เรามากินข้าว
Hall นี้เป็นหนังสือเด็กทั้งหมดเลย เพราะงั้นก็จะเต็มไปด้วยเอเลี่ยนน้อยมากมาย
มีของเล่นขาย รวมทั้งเครื่องเขียนน่ารักๆ ก็เยอะค่ะ
ในฮอลล์นี้มีโซนนิทรรศการภาพวาดจากศิลปินผู้วาดการ์ตูนจากทุกมุมโลกที่โด่งดังมาแสดงไว้ด้วย
ร้านเครื่องเขียน และเทปน่ารักๆ ก็มีใน Hall 3 ให้พอกุ๊กกิ๊กๆ ได้ค่ะ ^^
ย้ายไป Hall 2 กันบ้างดีกว่า มีพี่คนนหนึ่งที่ไปทุกปีเล่าให้ฟังว่า ฮอลล์นี้วัยรุ่นจะล้นหลามต่อแถวเข้ากันจนปลิ้น
แต่พอเราเดินไปถึง กลับโหวงเหวง ร้างเชียว
สืบไปสืบมาได้ความว่า เพราะอีกไม่กี่วัน ไต้หวันเขาก็จะจัดงานที่มันเกี่ยวกับพวกพรีเมียม
นิยาย อะไรๆ ที่เกี่ยวกับวัยรุ่น ซึ่งมันก็เหมือนกับในงานที่ฮอลล์นี้แหละ
เด็กๆ วัยรุ่นทั้งหลายเลยหายหด เก็บเงินไว้ถล่มทีเดียวตอนงานนั้น
โปรดสังเกตป้ายเรตอายุต่ำกว่า 18 หุหุหุ
พวกการ์ตูนติดเรต, วาย, นิยายฟุ้งฟิ้งงุ้งงิ้ง, นิยายรัก, การ์ตูน และของพรีเมียม หาได้ที่นี่
ใครที่ "บอร์นทูบีดิสเวย์" เหมาะมากคร่า~~~
มุมคอสเพลย์เล็กๆ
จากความเห็นส่วนตัวแล้ว เราว่าฮอลล์นี้เนี่ย ถ้าไม่อินจริงๆ แนะนำให้เดินผ่านๆ เพลินๆ ไปเลยจะดีกว่า (ฮ่าๆๆ)
ปิดท้ายเที่ยวงานหนังสือไทเปด้วยการไปดูสถานีรถไฟใต้ดิน ที่มีภาพวาดของจิมมี่ เลี่ยว
เพราะหากเราพูดถึงวงการหนังสือของไต้หวันแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะไม่รู้จัก "จิมมี่ เลี่ยว"
วิธีการเดินทางจากสถานี Taipei City Hall ซึ่งเป็นสถานีที่เรามาดูงานหนังสือ นั่งสายสีน้ำเงิน (สายเดียวกัน) ไปลงที่สถานีหนานกั่ง (Nangang) ห่างออกไปแค่ 4 สถานี พอลงจากตู้รถไฟแล้ว ภาพที่เห็นก็จะเป็นแบบนี้...
เราเคยอ่านเจอในบทความหนึ่งบอกว่าถ้าคิดจะดูงานของคนผู้นี้
"กรุณาอย่ามาคนเดียว" เพราะมันจะเปลี่ยวหัวจายยย
เราว่า มันก็เหงาจริงๆ แหละ!!
ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะคะ ที่เข้ามาแวะดูแวะอ่านกัน ^^
ขอบคุณค่าาาา
[CR] พาไปดูงานหนังสือที่ไทเป 'Taipei International Book Fair 2013'
เข้าไปดูได้ที่ลิงก์นี้เลยจ้า >>> http://ppantip.com/topic/31010511
เราจะพาไปที่ประเทศไต้หวันค่ะ ที่เมืองหลวงกรุงไทเป กับชื่องาน "Taipei International Book Fair 2013"
มีขึ้นทุกปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งปี 2013 นี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มกราคม ถึง 4 กุมภาพันธ์ 2556
ว่ากันว่าเป็นบุ๊คแฟร์ใหญ่ที่สุดระดับเอเชียเลยนะเออ บางคนเปรียบว่าเป็นแฟรงก์เฟิร์ตของเอเชียเชียวละ
เราใช้เวลา 3 ชั่วโมงนิดๆ จากประเทศไทย เราก็ถึงสนามบินนานาชาติเถาหยวน กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน
จากสนามบินไม่ลำบากในการเดินทางเข้าเมือง เพราะระบบคมนาคมบ้านเขาเลิศ
จากสนามบินเรานั่งรถไฟความเร็วเวอร์ Taiwan High-Speed Rail หรือย่อๆ คือ HSR
อารมณ์คล้ายชินคันเซ็น ต้องนั่งรถชัตเติ้ลบัสของ U-bus จากอาคารผู้โดยสารเพื่อไปขึ้นรถไฟนี้ (ราคาประมาณ 30 หยวน)
หลังจากนั้นจึงค่อยซื้อตั๋ว HSR (ประมาณ 160 หยวน) สถานีปลายทางคือ ไทเปเมนสเตชั่น (Taipei Main Station)
ซึ่งเป็นฮับใหญ่ของระบบรถไฟใต้ดินของเมืองไทเป แล้วค่อยเปลี่ยนไปขึ้นสายสีน้ำเงิน ลงสถานี Taipei City Hall ออกประตู 3
แล้วต่อรถชัตเติลบัสของตึกไทเป 101 ไปถึงงานเลยค่ะ
สถานที่จัดงานชื่อ Taipei World Trade Center
ข้างๆ กับฮอลล์แสดงงานจะเป็นตึกไทเป 101
ป้ายประชาสัมพันธ์งาน
งานบุ๊คแฟร์จะมีทั้งหมด 3 Hall ค่ะ แต่ว่า แต่ละฮอลล์นั้นกว้างใหญ่มาก
มาเริ่มกันที่ฮอลล์แรก >> Hall 1 เป็นอาคารแสดงหนังสือทั่วไป รวมทั้งสำนักพิมพ์จากต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย
บูทของประเทศไทยค่ะ
บรรยากาศการเจรจาธุรกิจ
ทีนี้ไปเดินดูรอบๆ Hall 1 กันบ้าง
เวลาเข้ามาจากทางประตูหลักแล้ว เราจะเจอกับเวทีกลาง
จากภาพเหตุการณ์ คือวันเปิดงานหนังสือวันแรก ก็จะเป็นพิธีเปิดามธรรมเนียม
และเวทีนี้ก็จะใช้เป็นเวทีเปิดตัวหนังสือจากสำนักพิมพ์ต่างๆ ด้วย
เดินเข้าไปก็จะเป็นบูทต่างๆ
สำนักพิมพ์ของไต้หวัน
บูทนี้จากฮ่องกงค่ะ
บูทนี้เป็นสำนักพิมพ์ที่พิมพ์งานของศิลปินชื่อดังของบ้านเขา "จิมมี่ เลี่ยว"
กำลังจะมีการแจกลายเซ็นล่ะ
วันหลังๆ ที่เปิดให้คนทั่วไปเขามาซื้อหนังสือได้ คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เดินสบายๆ โล่งๆ
เดี๋ยวจะพาไปดูอีก 2 Hall ที่เหลือกันนะ แต่ก่อนอื่น...
เราขอแวะพักเบรกด้วยขนมซิกเนเจอร์ประจำงาน ที่พี่คนหนึ่งแนะนำว่าควรกิน
เราก็ไม่รู้ว่าชื่อมันคืออะไรนะ รสชาติคล้ายๆ วาฟเฟิล แต่เนื้อมันไม่ใช่วาฟเฟิลน่ะสิ
น่ากินมั้ยล่ะ ^^
ซองจะเป็นแบบนี้นะคะ
รองท้องเรียกน้ำย่อยแล้วก็ข้ามไปกินมื้อเที่ยงกันที่ตึกไทเป 101 เพราะว่าละแวกนี้ร้านอาหารไม่ค่อยมี
ใครที่มางานหนังสือนี้ส่วนมากก็จะลงไปกินกันที่ชั้นใต้ดินของตึก มีอาหารให้เลือกเยอะมาก
ทั้งอาหารจีน อาหารไต้หวัน ญี่ปุ่น หรือใครไม่ถนัดก็มีแมคโดนัลด์กันตายนะเออ
เราลองร้านกระทะร้อน และเลือกเป็นปลาหมึกกับเนื้อ เพราะแอบชำเลืองมองคนที่สั่งมากิน มันน่ากินมากกก
น่ากินมั้ยล่ะ หุหุ
ทีนี้ไปดู Hall 3 ก่อน เพราะมันอยู่ใกล้ๆ กับตึกที่เรามากินข้าว
Hall นี้เป็นหนังสือเด็กทั้งหมดเลย เพราะงั้นก็จะเต็มไปด้วยเอเลี่ยนน้อยมากมาย
มีของเล่นขาย รวมทั้งเครื่องเขียนน่ารักๆ ก็เยอะค่ะ
ในฮอลล์นี้มีโซนนิทรรศการภาพวาดจากศิลปินผู้วาดการ์ตูนจากทุกมุมโลกที่โด่งดังมาแสดงไว้ด้วย
ร้านเครื่องเขียน และเทปน่ารักๆ ก็มีใน Hall 3 ให้พอกุ๊กกิ๊กๆ ได้ค่ะ ^^
ย้ายไป Hall 2 กันบ้างดีกว่า มีพี่คนนหนึ่งที่ไปทุกปีเล่าให้ฟังว่า ฮอลล์นี้วัยรุ่นจะล้นหลามต่อแถวเข้ากันจนปลิ้น
แต่พอเราเดินไปถึง กลับโหวงเหวง ร้างเชียว
สืบไปสืบมาได้ความว่า เพราะอีกไม่กี่วัน ไต้หวันเขาก็จะจัดงานที่มันเกี่ยวกับพวกพรีเมียม
นิยาย อะไรๆ ที่เกี่ยวกับวัยรุ่น ซึ่งมันก็เหมือนกับในงานที่ฮอลล์นี้แหละ
เด็กๆ วัยรุ่นทั้งหลายเลยหายหด เก็บเงินไว้ถล่มทีเดียวตอนงานนั้น
โปรดสังเกตป้ายเรตอายุต่ำกว่า 18 หุหุหุ
พวกการ์ตูนติดเรต, วาย, นิยายฟุ้งฟิ้งงุ้งงิ้ง, นิยายรัก, การ์ตูน และของพรีเมียม หาได้ที่นี่
ใครที่ "บอร์นทูบีดิสเวย์" เหมาะมากคร่า~~~
มุมคอสเพลย์เล็กๆ
จากความเห็นส่วนตัวแล้ว เราว่าฮอลล์นี้เนี่ย ถ้าไม่อินจริงๆ แนะนำให้เดินผ่านๆ เพลินๆ ไปเลยจะดีกว่า (ฮ่าๆๆ)
ปิดท้ายเที่ยวงานหนังสือไทเปด้วยการไปดูสถานีรถไฟใต้ดิน ที่มีภาพวาดของจิมมี่ เลี่ยว
เพราะหากเราพูดถึงวงการหนังสือของไต้หวันแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะไม่รู้จัก "จิมมี่ เลี่ยว"
วิธีการเดินทางจากสถานี Taipei City Hall ซึ่งเป็นสถานีที่เรามาดูงานหนังสือ นั่งสายสีน้ำเงิน (สายเดียวกัน) ไปลงที่สถานีหนานกั่ง (Nangang) ห่างออกไปแค่ 4 สถานี พอลงจากตู้รถไฟแล้ว ภาพที่เห็นก็จะเป็นแบบนี้...
เราเคยอ่านเจอในบทความหนึ่งบอกว่าถ้าคิดจะดูงานของคนผู้นี้
"กรุณาอย่ามาคนเดียว" เพราะมันจะเปลี่ยวหัวจายยย
เราว่า มันก็เหงาจริงๆ แหละ!!
ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะคะ ที่เข้ามาแวะดูแวะอ่านกัน ^^
ขอบคุณค่าาาา