“ไฮโซน้ำหวาน” เผยถูก “แนน” น้องสาว “หนิง ปณิตา” ใช้มือถือฟาดเข้าเต็มๆที่หน้า ทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องหรือทะเลาะวิวาทอะไรกันมาก่อน แต่ไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับ เพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ต้องการคำขอโทษของคู่กรณี แต่แค่อย่ามายุ่งกันก็พอแล้ว
หลังจากที่ “อำไพพรรณ พันธุ์คงชื่น” คุณแม่ของ “ไฮโซน้ำหวาน วรพรรณ พันธุ์คงชื่น” ออกมาเปิดเผยว่า ลูกสาวถูก “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” และ “แนน” น้องสาวบุกไปทำร้ายใช้มือถือตบที่หน้า และประกาศจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด และไฮโซน้ำหวานจะเข้าไปแจ้งความที่สน.ทองหล่อในช่วงเย็นที่ผ่านมานั้น แต่ปรากฏว่า ไฮโซน้ำหวานไม่สามารถมาได้เพราะเป็นลมต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมิติเวช แต่ได้ให้ทนายความเข้าลงบันทึกประจำวันแทน
อย่างไรก็ตามไฮโซน้ำหวานได้เปิดให้ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสัมภาษณ์ที่โรงพยาบาล โดยเปิดใจให้สัมภาษณ์สั้นๆ ยืนยันถูกทำร้ายและไม่ได้มีการตอบโต้เพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ต้องการคำขอโทษแค่อย่ามายุ่งกันอีกก็พอ
“ไปเจอพี่เขาที่ร้านอาหารค่ะ เจอพี่หนิงกับพี่แนนค่ะ อยู่ดีๆ เขาก็เอาโทรศัพท์มาฟาดใส่หน้าเลย (เขาจงใจที่จะเดินมาขว้างใส่หน้าใช่ไหม ?) ใช่ค่ะ หวานไม่ทราบว่าเขาจะมาและก็ไม่มีการทะเลาะกันมาก่อน ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ คนที่ทำ คือน้องสาวของพี่หนิงค่ะ (ไม่ได้มีการคุยอะไร มาถึงก็เอาโทรศัพท์มาฟาด) ใช่ค่ะ เราก็ยืนอยู่เฉยๆ ค่ะ ไม่ได้ตอบโต้ ไม่ได้อะไรเลย”
“พี่หนิงเขาเข้าใจว่าหนูไปตบน้องสาวเขาค่ะ เขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้น แต่เขาวิ่งมาบอกว่าหนูไปตบน้องสาวเขา (เขาตบเสร็จเขาก็ทำเป็นล้มลงไป) จริงๆค่ะ แต่เราไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้จับไม่ทำอะไร ไม่ได้ทะเลาะวิวาทกันมาก่อน”
ลั่นไม่ได้ต้องการให้รับผิดชอบ แค่อย่ามายุ่งกันก็พอ
“แค่ไม่ต้องให้มายุ่งก็พอ ไม่ได้ต้องการให้มาขอโทษ (ให้เขาออกไปจากชีวิตเรา) ก็ดีค่ะ”
เผยที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้ติดต่อกับ “จิน ธรรมวัฒนะ” อีก
“ไม่ค่ะ ไม่ได้ติดต่อต่อกันเลย กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยก็คงจะเริ่มชินแล้วค่ะ ไม่รู้ว่าเหมือนกันทำไมถึงมีเรื่องกันบ่อย ตอนนั้นที่ไม่ทำอะไร เพราะมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่อยู่เฉยๆ ดีกว่า”
“อาการตอนนี้ก็ดีขึ้นบ้างแล้ว เรื่องคดีก็คงจะเป็นเรื่องที่แล้วแต่คุณพ่อคุณแม่จัดการค่ะ หวานยังไม่ได้คุยกับทนายเลยยังไม่ทราบว่าจะยังไงต่อ ต้องทำยังไงบ้าง (เห็นคุณแม่บอกจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด) ก็คงต้องถามทนายความก่อนว่าจะยังไงดี แต่สำหรับคุณแม่หวาน ก็คนเป็นแม่คนแหละเนอะ”
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000119370 
“ไฮโซน้ำหวาน” ยันถูกทำร้ายจริง ลั่นไม่ต้องการคำขอโทษจาก “หนิง-แนน” แค่อย่ามายุ่งกันก็พอ เผยไม่ได้ติดต่อ "จิน" แล้ว
หลังจากที่ “อำไพพรรณ พันธุ์คงชื่น” คุณแม่ของ “ไฮโซน้ำหวาน วรพรรณ พันธุ์คงชื่น” ออกมาเปิดเผยว่า ลูกสาวถูก “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” และ “แนน” น้องสาวบุกไปทำร้ายใช้มือถือตบที่หน้า และประกาศจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด และไฮโซน้ำหวานจะเข้าไปแจ้งความที่สน.ทองหล่อในช่วงเย็นที่ผ่านมานั้น แต่ปรากฏว่า ไฮโซน้ำหวานไม่สามารถมาได้เพราะเป็นลมต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมิติเวช แต่ได้ให้ทนายความเข้าลงบันทึกประจำวันแทน
อย่างไรก็ตามไฮโซน้ำหวานได้เปิดให้ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสัมภาษณ์ที่โรงพยาบาล โดยเปิดใจให้สัมภาษณ์สั้นๆ ยืนยันถูกทำร้ายและไม่ได้มีการตอบโต้เพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ต้องการคำขอโทษแค่อย่ามายุ่งกันอีกก็พอ
“ไปเจอพี่เขาที่ร้านอาหารค่ะ เจอพี่หนิงกับพี่แนนค่ะ อยู่ดีๆ เขาก็เอาโทรศัพท์มาฟาดใส่หน้าเลย (เขาจงใจที่จะเดินมาขว้างใส่หน้าใช่ไหม ?) ใช่ค่ะ หวานไม่ทราบว่าเขาจะมาและก็ไม่มีการทะเลาะกันมาก่อน ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ คนที่ทำ คือน้องสาวของพี่หนิงค่ะ (ไม่ได้มีการคุยอะไร มาถึงก็เอาโทรศัพท์มาฟาด) ใช่ค่ะ เราก็ยืนอยู่เฉยๆ ค่ะ ไม่ได้ตอบโต้ ไม่ได้อะไรเลย”
“พี่หนิงเขาเข้าใจว่าหนูไปตบน้องสาวเขาค่ะ เขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้น แต่เขาวิ่งมาบอกว่าหนูไปตบน้องสาวเขา (เขาตบเสร็จเขาก็ทำเป็นล้มลงไป) จริงๆค่ะ แต่เราไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้จับไม่ทำอะไร ไม่ได้ทะเลาะวิวาทกันมาก่อน”
ลั่นไม่ได้ต้องการให้รับผิดชอบ แค่อย่ามายุ่งกันก็พอ
“แค่ไม่ต้องให้มายุ่งก็พอ ไม่ได้ต้องการให้มาขอโทษ (ให้เขาออกไปจากชีวิตเรา) ก็ดีค่ะ”
เผยที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้ติดต่อกับ “จิน ธรรมวัฒนะ” อีก
“ไม่ค่ะ ไม่ได้ติดต่อต่อกันเลย กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยก็คงจะเริ่มชินแล้วค่ะ ไม่รู้ว่าเหมือนกันทำไมถึงมีเรื่องกันบ่อย ตอนนั้นที่ไม่ทำอะไร เพราะมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่อยู่เฉยๆ ดีกว่า”
“อาการตอนนี้ก็ดีขึ้นบ้างแล้ว เรื่องคดีก็คงจะเป็นเรื่องที่แล้วแต่คุณพ่อคุณแม่จัดการค่ะ หวานยังไม่ได้คุยกับทนายเลยยังไม่ทราบว่าจะยังไงต่อ ต้องทำยังไงบ้าง (เห็นคุณแม่บอกจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด) ก็คงต้องถามทนายความก่อนว่าจะยังไงดี แต่สำหรับคุณแม่หวาน ก็คนเป็นแม่คนแหละเนอะ”
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000119370