เสียงตะโกนจากพงไพร จากป่าแม่วงก์ สู่ทุ่งบางเขน

สวัสดีครับ

วันนี้ผมมีโอกาสได้ไปร่วมเดินคัดค้านเขื่อนแม่วงก์กับอาจารย์ศศิน และพี่น้องที่ทำงานด้านอนุรักษ์ จึงขอนำบรรยากาศมาฝากครับ





วันนี้ผมตื่นสายไปนิดก็เลยไปดักขบวนที่ปั้มเชลล์เลยจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพมานิดหน่อยครับ จึงขอถ่ายรูปกับฮีโร่ของหลายๆคนสักหน่อย อาจารย์ศศินแกยังยิ้มแย้มและยินดีต้อนรับทุกท่านที่มาร่วมอยู่ครับ แต่เห็นท่าทางการเดินของอาจารย์แล้ว....ผมนับถือหมดใจครับ แกล้ามากๆแล้ว แต่ก็ยังเดินต่อ ผมมีข้อสัณนิฐานส่วนตัวที่จะขอเสนอในตอนท้ายของกระทู้ครับ



จากนั้นก็เริ่มเดินครับ อากาศไม่ร้อนมากเท่าไร



มาถึงโรงกษาปน์แล้วครับ





ใกล้ถึงฟิวเจอร์ปาร์คแล้ว

ภาพผู้คนที่พากันมารอร่วมเดินตามข้างทาง ค่อยๆเติมเข้ามาทีละคนสองคน จนถึงกลุ่มใหญ่ๆอย่างที่ฟิวเจอร์ ทำให้ผมเชื่อว่ายังมีคนที่เข้าใจสิ่งที่เราพยายามสื่อออกไป

เมื่อขบวนเดินตัดทางเข้าออกห้าง ทำให้รถที่จะเข้าออกต้องจอดรอ

บางคันลดกระจกมาโบกมือทักทาย

บางคันบีบแตรไล่

บางคันเมื่อขบวนไปก็เร่งเครื่องแซงแล้วลดกระจกมาตะโกนด่าว่า "ทำให้รถติด ไอ่ควาย"

พวกหลังๆบางคนไม่มีวันเข้าใจและเห็นด้วย

ผมหวังว่าสักวันหนึ่งพวกคุณจะเข้าใจว่าทำไมเราต้องค้านเขื่อนแม่วงก์



ฟิวเจอร์ปาร์คแล้วจ้า



ที่ฟิวเจอร์ปาร์ค มีพี่น้องนักอนุรักษ์รออยู่กลุ่มใหญ่ครับ เท่าที่ทราบเป็นน้องจากมหาวิทยาลัยมหาสารคามและกลุ่มรักษ์เขาใหญ่ เด็กวัดป่า และอีกหลายๆกลุ่มครับ




พักทานมื้อเที่ยงกันครับ พยายามอย่ามองหน้าเถื่อนๆของผมนะครับ อิอิ



หลังจากรวมกลุ่มกับพี่น้องเราที่ฟิวเจอร์แล้วก็เดินกันต่อ แถวนี้เลยสถาบันธัญญาลักษณ์มาหน่อยนึงครับ ระหว่างทางก็ยังมีมาดักรอแล้วเติมเข้ามาร่วมกับเราเรื่อยๆ จากหัวขบวนครับ



จากท้ายขบวนครับ



ความพิการของร่างกาย ไม่ใช่อุปสรรคในการแสดงเจตนาอันบริสุทธิ์โดยสงบและสันติ

ความพิการของจิตใจต่างหากทีคิดมองแต่ประโยชน์ของมนุษย์ โดยไม่คำนึงถึงสรรพชีวิตอื่นที่อาศัยบนโลกใบเดียวกับเรา ไม่มีป่าไม่มีน้ำ เราไม่เหลือพื้นที่ป่าที่เหมาะสมพอจะสร้างเขื่อนใดๆอีกต่อไปแล้ว

ถ้าใครสนใจจะร่วมด้วย ยังมีพรุ่งนี้อีกวันนะครับ

ปล ขออนุญาตพี่เขาแล้วครับ



จากนั้นเมื่อเดินผ่านปากทางเข้ามหาวิทยาลัยรังสิต น้องจากมอรังสิตก็มาสบทบเราอีกเป็นร้อยครับ ดีใจจริงๆ น้องกลุ่มนี้มาช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องจราจรได้มากเลยครับ ขอบคุณมากเลยนะครับ

หลังจากแวะพักอีกครั้งที่อนุสรณ์สถานดอนเมือง ขบวนก็เริ่มเดิมกันต่อ ช่วงผ่านดอนเมืองค่อนข้างยาวครับ เลยต้องมีแวะพักกันอีกหน่อย พยายามไม่มองหน้าผมนะครับ



วีลแชร์ก็มาครับ ขอพี่เขาเอารูปมาลงแล้วเช่นกัน



จากนั้นก็มาแวะพักกันอีกทีที่ปั้ม ปตท แยกหลักสี่ครับ



จะผมหงอกผมดำลูกเล็กเด็กแดง ก็กระเตงกันมาได้ครับ เด็กน้อยพูดจ๋อยๆๆเชียว



จากนั้นก็ลุยกันจนถึง Thaipbs สื่อ(เกือบ)หลักสื่อเดียวที่ติดตามรายงานเรื่องพวกเราครับ สื่อหลักอื่นๆเงียบกริบครับ นอกนั้นก็มีพวกสื่อเคเบิ้ลมาบ้างประปราย เมื่อไปถึงหน้า ThaiPbs ผมแทบกลั้นน้ำตาไม่ไหวครับ น้องจาก มศว และ เกษตรมาดักรอพวกเราอีกหลายร้อย เมื่อเราเดินมาถึงร้องก็ร่วมกันร้องเพลงให้กำลังใจ เนื้อหาของเพลง...ปิติผมเอิ่มล้นปริมๆเบ้าตาเลยครับ ไม่เอา ต้องเข้มแข็งให้น้องเห็น!!

น้องที่ได้มาอ่าน พี่ขอขอบพระคุณอย่างสุดซึ้งจริงๆนะครับ น้องตอกย้ำให้พี่รู้ว่า ...เราไม่ได้สู้อยู่เพียงลำพัง ยังมีคนรอรับไม้จากเรา จากรุ่นสู่รุ่น







เมื่อแวะรับกำลังใจกันแล้วก็เข้าสู่ Last Stage ของวันนี้ครับ เราจะไปล่าบอสกัน....เอ้ย ไม่ใช่ เรามุ่งหน้าสู่ช่วงสุดท้าย ThaiPbs > มหาวิทยาลัยเกษตร

ก่อนออกแวะให้กำลังใจสาวนักตบของไทยนิดนึงครับ อิอิ ชนะจีน ชนะญี่ปุ่น พวกคุณเก่งจริงๆครับ โค้ชพวกคุณก็สุดยอด เป็นอีกทีมงานที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยได้ยอดเยี่ยมมาก!



แม้จะเป็นเวลามืดค่ำแล้ว เราก็ยังเดินต่อไปเพราะเมื่อ23ปีที่แล้ว กัมปนาทของกระสุนนัดนั้นได้จุดไฟในหัวใจผู้คนนับหมื่นแสน ถึงตอนนี้คงเรียกได้ว่ากิจกรรมนี้เปรียบเสมือนเสียงที่ตะโกนจากพงไพรแทนผู้คนเหล่านั้น แทนสรรพชีวิตทั้งหมดในผืนป่า

แสงไฟที่ไม่เคยดับ



เห็นประตูวิภาวดีแล้ว อีกนิดๆ



ผ่านประตูแล้วครับ เส้นชัยอีกไม่ไกลแล้ว



ผ่านสระว่ายน้ำ



ถึงเส้นชัยแล้วครับ ตึกกิจกรรม มีน้องมหาวิทยาลัยเกษตรรออยู่อีกหลายร้อย พร้อมพรั่งด้วยเสบียงกรัง เราทานมื้อเย็นพร้อมกับเสียงเพลงขับกล่อม ส่วนหนึ่งนอนค้างคืนที่นี่ ส่วนผมกลับบ้านไปนวดขาเพื่อมาสบทบอีกพรุ่งนี้ครับ



มาถึงข้อสัณนิฐานส่วนตัวของผมนะครับ ว่าทำไมอาจารย์ศศินแกเดินจากแม่วงก์หลายร้อยกิโลมาถึงนี่ได้โดยเดินอย่างต่อเนื่องทุกวัน ทั้งๆที่วันแรกมีคนร่วมเดินเพียง 6 คน จนถึงวันนี้เกินพันแล้ว พรุ่งนี้คาดว่าเกินสองพันแน่นอน

ด้านหลังของเสื้อที่เราใส่คัดค้าน EHIA ฉบับนี้ จะมีข้อความคัดค้านและรอยสกรีนเป็นรูปมือด้วยครับ

ผมมองว่ามือนี้แหละที่เราช่วยกันผลักให้อาจารย์และพวกพ้องทุกคนที่ร่วมกันเดินมาหลายร้อยกิโลเมตร ผ่านแดด ผ่านฝน ผ่านพื้นที่อิทธิพล บางวัดนัดแล้วว่าจะให้ที่พัก ไปถึงวัดเปลี่ยนใจ แวะนอนโรงเรียน ยุงก็สุดจะชุกชุม ความระอุที่แผ่ขึ้นมาจากถนนคอนกรีตไม่ใช่สิ่งน่าพิศมัยเลยแม้แต่น้อย แต่เพราะมือพวกเราที่ผลักหลังต่อๆกันไป ทำให้ทุกคนยังร่วมเดินต่อไปจนกระทั่งวันพรุ่งนี้เราจะถึงเส้นชัยที่หอศิลป์กรุงเทพ

ผมคงไม่ต้องพูดอีกแล้วว่าทำไมต้องคัดค้าน เพราะเพื่อนสมาชิกก็ถกกันมาหลายกระทู้ แต่ผมจะมาบอกว่า ถ้าใครอยากมาร่วมกับเรา พรุ่งนี้ยังมีอีกวันครับ เตรียมตัวมาให้พร้อม เตรียมหมวก เตรียมเสื้อกันฝนมาด้วย ระยะทางประมาณสิบกิโลกว่าๆ ไม่ไกลหรอกครับเดินกันสบายๆ ใครเดินไม่ไหว แวะมายืนส่งกำลังใจกันข้างทางก็ยังดี ตลอดทางของวันนี้กำลังใจเยอะมากครับ หลายกลุ่มมายืนส่งลูกอม ส่งน้ำดื่มเย็นๆ เรียกได้ว่าไม่มีอดอยากปากแห้ง เสบียงอาหารก็มีมากมาย พร้อมและเพียงพอสำหรับทุกคนแน่ๆครับ

ตัวผมเองเคยไปร่วมชุมนุมมากับหลายกลุ่มหลายสี จนเมื่อได้มาร่วมกับอาจารย์ศศิน สิ่งที่ผมได้สัมผัส ผมขอยืนยันครับ ว่าที่คือการแสดงออกทางความคิดอย่างบริสุทธิ์และสวยงาม เป็นอีกหน้าของประวัติศาสตร์ในการแสดงความคิดเห็น ใครอยากมาร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ด้วยกัน เชิญได้ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์พรุ่งนี้เช้านะครับ

สุดท้ายนี้ ผมขอนำคลิปจากCamera trap ของ WWF มาฝาก และนี่คืออีกเหตุผลหนึ่งว่า ทำไมต้องค้านเขื่อนแม่วงก์ สุภาษิตไทยบอกว่า น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า แน่นอนที่สุด ป่าไหนมีเสือ ป่านั้นอุดมสมบูรณ์มากมาย เพราะมีสัตว์อื่นๆเป็นเหยื่อให้เสือได้ล่าอย่างมากพอ ตอนนี้เราพบเสือหลายตัวขยายพื้นที่หากินจากทุ่งใหญ่นเรศวร มาที่ป่าแม่วงก์ครับ ล่าสุดเราเจอเป็น....อย่างที่เห็นแหละครับ เสือคือศักดิ์ศรีของป่า ไอ่ป่าที่บอกว่าปลูกทดแทนได้น่ะ อีกกี่ปีกันครับที่สัตว์ป่าอื่นๆและเสือจะมาอาศัย อีกกี่ปีกันครับที่ป่าปลูกเช่นนั้นจะมีจิตวิญญาณของป่า อีกกี่ปีกันครับที่ป่าเหล่านั้นจะดูดซับความชุ่มชื้นไว้ได้มากเท่ากับป่าที่มีอยู่ตอนนี้และกำลังจะถูกทำลายลงไป....

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



ใครจะไปร่วมด้วยพรุ่งนี้ เจอกันก็ทักทายกันนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ประชามติ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่