ค่างวดตีกลมๆ ไว้ที่ ล้านละ 7,000 ค่ะ +/- นิดหน่อย
ยอดกู้ 3 ล้าน ผ่อนประมาณ 21,000 .. ถ้า profile ตามที่แจ้งมา ..ไม่น่าจะผ่านค่ะ

เอาใหม่... แบงค์มักจะให้ความสามารถในการผ่อนบ้านที่ 40% ของเงินเดือน
เงินเดือน 30,000 คือ 12,000 บาท/เดือน  เพราะมากกว่านี้ ผู้กู้คงต้องกินแกลบ..

วิธีหาราคาบ้านที่เหมาะสม ซึ่งน่าจะกู้ผ่าน และไม่ต้องกินแกลบ คือ เอาความสามารถในการผ่อน หาร 7,000
ได้ตัวเลขเป็นจำนวนเท่าของ 1 ล้าน
12,000 / 7,000 = 1.714  คือบ้านในราคาประมาณ 1.7 ล้านค่ะ

และก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้าน ..ควรมีเงินรองรัง เป็นเงินก้อน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในวันโอนบ้าน / ซื้อของเข้าบ้าน
และสำรองเผื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น จู่ๆ ตกงาน ..

..เห็นคนรุ่นใหม่สมัยนี้ เพิ่งทำงานได้ไม่ทันจะรู้ว่าหน้าที่การงานจะมั่นคงหรือเปล่า
เงินเก็บมีหรือยัง รู้หรือเปล่าว่าหลังจากซื้อบ้านแล้ว มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
..ง่ายๆ อย่างคุณเคยเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่ ในห้องมีตู้ - เตียง - โต๊ะให้พร้อม
ถ้าซื้อบ้านของเหล่านี้ คุณจะต้องซื้อเข้าบ้านใหม่ทั้งหมด
ไหนจะมุ้งลวด เหล็กดัด ผ้าม่าน โซฟา ..รับประกันได้ว่าเรื่องยาวค่ะ
เพราะพอเป็นบ้านของเราเองจริงๆ  เราจะอยากซื้อของดีๆ ไปเลย เพราะไม่อยากเปลี่ยนบ่อย

ดังนั้น อยากแนะนำให้วิเคราะห์ความพร้อมให้รอบด้านก่อนตัดสินใจ
และมองใน worst case ไว้ก่อน เพราะถ้าในสถานการณ์จริงดีกว่าที่คาด คุณเหลือเงินเยอะ ก็โปะปิดบัญชีได้เร็วๆ
ดีกว่าดิ้นรนหาทางกู้ให้ได้เยอะๆ  และพอถึงเวลาผ่อน ..ไม่ไหว ..ลำบากต้องไปขอปรับโครงสร้างหนี้ เป็นหนี้ยาวไกลออกไปอีก
อย่าคิดแค่ว่าเสียดายเงินค่าเช่าบ้าน ..เพราะรู้สึกว่าคนสมัยใหม่จะคิดกันประมาณนี้ แล้วตัดสินใจ

..พี่เดาว่าคุณยังโสด ถึงคิดซื้อคอนโด เพราะถ้ามีครอบครัวแล้ว น่าจะคิดซื้อบ้าน
ลองตรองดูค่ะ หากคุณซื้อคอนโดแล้ว ต่อมาเกิดได้งานใหม่ แต่คนละมุมเมืองกับคอนโดตอนนี้ ..คุณจะตัดสินใจยังไง
ออกจากบ้านแต่ตี 5 กลับถึงบ้านหลัง 2 ทุ่ม ..ค่าเดินทางอ่วม ?
หรือ ปล่อยคอนโดให้คนมาเช่า แล้วตัวเองไปหาเช่าที่พักใกล้ที่ทำงาน ?
..แต่ไม่รู้จะมีคนมาเช่าเมื่อไหร่ ..และอย่าลืมว่าต้องจ่ายค่างวดทุกเดือน แถมต้องจ่ายค่าเช่าหออีกต่อนึง
..สนุกเลยล่ะค่ะ ทีนี้

ด้วยความปรารถนาดีค่ะ