Kingdom of Heaven: Director’s Cut เป็น Kingdom of Heaven ฉบับที่มีความยาวกว่าฉบับฉายโรงถึง 45 นาที(ฉบับฉายโรงยาวสองชั่วโมงกับอีกยี่สิบสี่นาที ส่วนฉบับ Director’s Cut ยาวสามชั่วโมงกับอีกสิบสี่นาที) แต่ก็เป็น 45 นาทีที่เพิ่มเข้ามาอย่างคุ้มค่าเพราะมันทำให้หนังที่ถูกค่อนขอดตอนออกฉายว่าเป็นผลงานหนังประวัติศาสตร์ที่น่าผิดหวังของผกก. Ridley Scott กลายเป็นหนึ่งในผลงานการกำกับที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษที่แล้วของเขาได้ในพริบตา(ส่วนตัวแล้วยกให้ Kingdom of Heaven: Director’s Cut เหนือกว่าหนังของผกก. Scott อย่าง Black Hawk Down, American Gangster และเป็นรองแค่ Gladiator เท่านั้น)
บทของตัวละครที่แลดูขาดๆเกินๆในฉบับฉายโรงถูกทำให้มีน้ำหนักและมีที่มาที่ไปยิ่งขึ้นด้วยฉากต่างๆที่ถูกเพิ่มเข้ามา เช่นถ้าใครเคยสงสัยตอนดูฉบับฉายโรงว่าทำไมพระเอก (Orlando Bloom) ที่แต่ก่อนเป็นแค่ช่างตีเหล็กธรรมดาๆถึงสามารถนำทัพป้องกันเยรูซาเล็มในตอนท้ายของหนังได้ ในฉบับ Director’s Cut ก็จะมีฉากที่เพิ่มเข้ามาเพื่ออธิบายว่านั่นก็เพราะพระเอกเคยเป็นทหารหน่วยยุทธการมาก่อนที่จะผันตัวมาเป็นช่างตีเหล็ก ส่วนซับพล็อตระหว่างนางเอก (Eva Green) กับลูกชายตัวน้อยที่ถูกตัดทิ้งไปทั้งยวงในฉบับฉายโรงก็ช่วยอธิบายการตัดสินใจของนางเอกในช่วงท้ายของหนัง(ที่แลดูไม่มีที่มาที่ไปและไร้เหตุผลในฉบับฉายโรง)ได้เป็นอย่างดี
เห็นด้วยกับที่ผกก. Scott เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ประมาณว่า Kingdom of Heaven ฉบับฉายโรงน่ะเป็นแค่ตัวอย่างหนังของฉบับ Director’s Cut เท่านั้น เพราะความรู้สึกตอนดูทั้งสองฉบับนี่มันคนละเรื่องกันเลยจริงๆ
ฉบับฉายโรง – 6.5/10
ฉบับ Director’s Cut – 8.5/10
เข้าไปคุยกันต่อที่เพจของผมได้เลยนะครับ
>>>
https://www.facebook.com/appleoneoone
[CR] Kingdom of Heaven: Director’s Cut (2005) รีวิวสั้นๆกับหนังฉบับ Director’s Cut ที่ดีที่สุดตลอดกาลในความเห็นของใครหลายๆคน
Kingdom of Heaven: Director’s Cut เป็น Kingdom of Heaven ฉบับที่มีความยาวกว่าฉบับฉายโรงถึง 45 นาที(ฉบับฉายโรงยาวสองชั่วโมงกับอีกยี่สิบสี่นาที ส่วนฉบับ Director’s Cut ยาวสามชั่วโมงกับอีกสิบสี่นาที) แต่ก็เป็น 45 นาทีที่เพิ่มเข้ามาอย่างคุ้มค่าเพราะมันทำให้หนังที่ถูกค่อนขอดตอนออกฉายว่าเป็นผลงานหนังประวัติศาสตร์ที่น่าผิดหวังของผกก. Ridley Scott กลายเป็นหนึ่งในผลงานการกำกับที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษที่แล้วของเขาได้ในพริบตา(ส่วนตัวแล้วยกให้ Kingdom of Heaven: Director’s Cut เหนือกว่าหนังของผกก. Scott อย่าง Black Hawk Down, American Gangster และเป็นรองแค่ Gladiator เท่านั้น)
บทของตัวละครที่แลดูขาดๆเกินๆในฉบับฉายโรงถูกทำให้มีน้ำหนักและมีที่มาที่ไปยิ่งขึ้นด้วยฉากต่างๆที่ถูกเพิ่มเข้ามา เช่นถ้าใครเคยสงสัยตอนดูฉบับฉายโรงว่าทำไมพระเอก (Orlando Bloom) ที่แต่ก่อนเป็นแค่ช่างตีเหล็กธรรมดาๆถึงสามารถนำทัพป้องกันเยรูซาเล็มในตอนท้ายของหนังได้ ในฉบับ Director’s Cut ก็จะมีฉากที่เพิ่มเข้ามาเพื่ออธิบายว่านั่นก็เพราะพระเอกเคยเป็นทหารหน่วยยุทธการมาก่อนที่จะผันตัวมาเป็นช่างตีเหล็ก ส่วนซับพล็อตระหว่างนางเอก (Eva Green) กับลูกชายตัวน้อยที่ถูกตัดทิ้งไปทั้งยวงในฉบับฉายโรงก็ช่วยอธิบายการตัดสินใจของนางเอกในช่วงท้ายของหนัง(ที่แลดูไม่มีที่มาที่ไปและไร้เหตุผลในฉบับฉายโรง)ได้เป็นอย่างดี
เห็นด้วยกับที่ผกก. Scott เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ประมาณว่า Kingdom of Heaven ฉบับฉายโรงน่ะเป็นแค่ตัวอย่างหนังของฉบับ Director’s Cut เท่านั้น เพราะความรู้สึกตอนดูทั้งสองฉบับนี่มันคนละเรื่องกันเลยจริงๆ
ฉบับฉายโรง – 6.5/10
ฉบับ Director’s Cut – 8.5/10
เข้าไปคุยกันต่อที่เพจของผมได้เลยนะครับ >>> https://www.facebook.com/appleoneoone