น.ส.ฑิตติมา วิชัยรัตน์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า กยศ. มีแผนหารือกับผู้ประกอบการที่เป็นนายจ้างทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อขอให้หักเงินเดือนของลูกจ้างที่มีสถานะเป็นลูกหนี้ กยศ. เพื่อส่งเงินเข้ากองทุนฯ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีผู้กู้ยืมที่ยังค้างชำระหนี้กับ กยศ. จำนวนทั้งสิ้น 1.4 ล้านราย หรือคิดเป็น 53% โดยในจำนวนนี้ มีผู้จบการศึกษาและมีรายได้แต่ไม่ชำระคืนหนี้เงินกู้อยู่กว่า 70% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการขาดวินัยทางการเงิน และการขาดความรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันลูกหนี้ที่ครบกำหนดชำระคืนเงินกู้ กยศ. 14 รุ่น มีจำนวน 2.8 ล้านราย จากการปล่อยกู้ทั้งหมด 4.1 ล้านราย โดยใช้วงเงิน 420,000 ล้านบาท
“ที่ผ่านมามีนักเรียน นักศึกษาที่จบการศึกษา และมีรายได้ แต่ยังไม่ติดต่อขอชำระคืนเงินกู้กับ กยศ. ซึ่งมีสัดส่วนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยขณะนี้กองทุนฯ เองก็อยู่ระหว่างการหาแนวทางเพื่อเสริมสร้างและกระตุ้นจิตสำนึกในการชำระคืนหนี้เงินกู้ เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่มีเงินเพียงพอในการปล่อยกู้ให้กับนักเรียนและนักศึกษารุ่นน้อง เพราะในปีการศึกษา 57 กองทุนฯ ถูกตัดงบ 6,700 ล้านบาท จากงบดำเนินการปกติเฉลี่ย 35,000-36,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อการปล่อยกู้นักเรียน นักศึกษารายใหม่ประมาณ 230,000 คน และผู้กู้รายเก่าจะได้รับผลกระทบประมาณ 140,000 ราย ซึ่งปกติปล่อยกู้เฉลี่ยรายละประมาณ 100,000 บาท ส่วนปี 56 จัดสรรวงเงินปล่อยกู้ 36,200 ล้านบาทให้กับนักศึกษาจำนวน 881,000 ราย ”
นอกจากนี้ ได้จัดทำโครงการรณรงค์ชำระหนี้ ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการ 5 เดือน คือ พ.ย. 56- มี.ค. 57 โดยลดหย่อนเงินต้นให้จำนวน 3.5% สำหรับผู้เป็นลูกหนี้ที่มีสถานะปกติหากมาปิดบัญชีกู้ยืมกับกองทุนทันที ขณะที่ลูกหนี้ที่ค้างชำระมานาน แต่ต้องการกลับมาชำระหนี้คืนตามปกติ จะลดหย่อนค่าปรับให้ 100% จากปัจจุบันคิดค่าปรับที่ 18% ของเงินต้น ส่วนลูกหนี้ที่ค้างชำระและพร้อมที่จะปิดบัญชีกู้ยืมกับ กยศ.จะมีการลดหย่อนค่าปรับให้ 100% และลดอัตราดอกเบี้ยให้ 50%
http://www.dailynews.co.th/businesss/234518
นายจ้างโปรดระวังลูกจ้างของท่านเป็นคนคิดไม่ซื่อต่อชาติ
ที่ผ่านมาเราจะว่ากันนักการเมืองโกงๆ บัณฑิตยังโกง พอกัน
กยศ. เตรียมจับมือนายจ้างหักเงินเดือนลูกหนี้
“ที่ผ่านมามีนักเรียน นักศึกษาที่จบการศึกษา และมีรายได้ แต่ยังไม่ติดต่อขอชำระคืนเงินกู้กับ กยศ. ซึ่งมีสัดส่วนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยขณะนี้กองทุนฯ เองก็อยู่ระหว่างการหาแนวทางเพื่อเสริมสร้างและกระตุ้นจิตสำนึกในการชำระคืนหนี้เงินกู้ เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่มีเงินเพียงพอในการปล่อยกู้ให้กับนักเรียนและนักศึกษารุ่นน้อง เพราะในปีการศึกษา 57 กองทุนฯ ถูกตัดงบ 6,700 ล้านบาท จากงบดำเนินการปกติเฉลี่ย 35,000-36,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อการปล่อยกู้นักเรียน นักศึกษารายใหม่ประมาณ 230,000 คน และผู้กู้รายเก่าจะได้รับผลกระทบประมาณ 140,000 ราย ซึ่งปกติปล่อยกู้เฉลี่ยรายละประมาณ 100,000 บาท ส่วนปี 56 จัดสรรวงเงินปล่อยกู้ 36,200 ล้านบาทให้กับนักศึกษาจำนวน 881,000 ราย ”
นอกจากนี้ ได้จัดทำโครงการรณรงค์ชำระหนี้ ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการ 5 เดือน คือ พ.ย. 56- มี.ค. 57 โดยลดหย่อนเงินต้นให้จำนวน 3.5% สำหรับผู้เป็นลูกหนี้ที่มีสถานะปกติหากมาปิดบัญชีกู้ยืมกับกองทุนทันที ขณะที่ลูกหนี้ที่ค้างชำระมานาน แต่ต้องการกลับมาชำระหนี้คืนตามปกติ จะลดหย่อนค่าปรับให้ 100% จากปัจจุบันคิดค่าปรับที่ 18% ของเงินต้น ส่วนลูกหนี้ที่ค้างชำระและพร้อมที่จะปิดบัญชีกู้ยืมกับ กยศ.จะมีการลดหย่อนค่าปรับให้ 100% และลดอัตราดอกเบี้ยให้ 50%
http://www.dailynews.co.th/businesss/234518
นายจ้างโปรดระวังลูกจ้างของท่านเป็นคนคิดไม่ซื่อต่อชาติ
ที่ผ่านมาเราจะว่ากันนักการเมืองโกงๆ บัณฑิตยังโกง พอกัน