.....การที่ทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี นั้น ทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรม
.....การที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคชาติไทยและนายบรรหาร ศิลปอาชา ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี นั้น นายบรรหารไม่ได้รับความเป็นธรรม เช่นเดียวกัน
.....กรณีของทักษิณ ชินวัตร พูดหลายครั้งแล้ว
........พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 100 วรรคแรกบัญญัติว่า ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดดําเนินกิจการดังต่อไปน้ี
........(1) เป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทํากับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัตุหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอํานาจกํากับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดําเนินคดี
........วรรคท้ายบัญญัติว่า ให้นําบทบัญญัติในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับคู่สมรสของเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยให้ถือว่าการดําเนินกิจการของคู่สมรสดังกล่าว เป็นการดําเนิน กิจการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
........มาตรา 122 เจ้าหน้าท่ีของรัฐผู้ใดฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา 100 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
........สรุปก็คือ ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งหมายถึงนายกรัฐมนตรีด้วยเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐที่ตนเองมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม โดยห้ามคู่สมรสด้วยและให้ถือว่าการกระทำของคู่สมรสเป็นกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐคนนั้น หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี
........กฎหมายฉบับนี้ประกาศและมีผลบังคับใช้ในปี 2542 ก่อนที่ทักษิณเข้ามาเป็นยกรัฐมนตรี ในปี 2544 ไม่ใช่เป็นกฎหมายที่เพิ่งประกาศใช้หลังมีรัฐประหารในปี 2549
........ข้อเท็จจริงคิอ กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงินซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเป็นหน่วยงานของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่อยู่ภายใต้การกำกับของ รมต กระทรวงการคลัง ซึ่งอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ขณะที่พจมาน ชิณวัตร ซื้อที่ดินจากกองทุนฟื้นฟูฯ พจมานเป็นคู่สมรสของทักษิณซึ่งขณะนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี
........การที่ทักษิณถูกลงโทษจำคุกจึงเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ทุกประการ ไม่ได้มีใครมาสั่งให้องค์คณะผู้พิพากษาที่พิจารณาพิพากษานี้ลงโทษทักษิณ และไม่ใช่เป็นกฎหมายของคณะรัฐประหาร หรือเป็นเรื่องผัวยินยอมให้เมียซื้อที่ดินต้องติดคุกดั่งที่พวกคนเสื้อแดงชอบอ้างหลอกประชาชนที่ไม่รู้กฎหมายและข้อเท็จจริงตลอดมา
คดีหนีคุก ทักษิณชินวัตร ไปถึงไหนแล้วครับ??
.....การที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคชาติไทยและนายบรรหาร ศิลปอาชา ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี นั้น นายบรรหารไม่ได้รับความเป็นธรรม เช่นเดียวกัน
.....กรณีของทักษิณ ชินวัตร พูดหลายครั้งแล้ว
........พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 100 วรรคแรกบัญญัติว่า ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดดําเนินกิจการดังต่อไปน้ี
........(1) เป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทํากับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัตุหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอํานาจกํากับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดําเนินคดี
........วรรคท้ายบัญญัติว่า ให้นําบทบัญญัติในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับคู่สมรสของเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยให้ถือว่าการดําเนินกิจการของคู่สมรสดังกล่าว เป็นการดําเนิน กิจการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
........มาตรา 122 เจ้าหน้าท่ีของรัฐผู้ใดฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา 100 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
........สรุปก็คือ ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งหมายถึงนายกรัฐมนตรีด้วยเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐที่ตนเองมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม โดยห้ามคู่สมรสด้วยและให้ถือว่าการกระทำของคู่สมรสเป็นกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐคนนั้น หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี
........กฎหมายฉบับนี้ประกาศและมีผลบังคับใช้ในปี 2542 ก่อนที่ทักษิณเข้ามาเป็นยกรัฐมนตรี ในปี 2544 ไม่ใช่เป็นกฎหมายที่เพิ่งประกาศใช้หลังมีรัฐประหารในปี 2549
........ข้อเท็จจริงคิอ กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงินซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเป็นหน่วยงานของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่อยู่ภายใต้การกำกับของ รมต กระทรวงการคลัง ซึ่งอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ขณะที่พจมาน ชิณวัตร ซื้อที่ดินจากกองทุนฟื้นฟูฯ พจมานเป็นคู่สมรสของทักษิณซึ่งขณะนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี
........การที่ทักษิณถูกลงโทษจำคุกจึงเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ทุกประการ ไม่ได้มีใครมาสั่งให้องค์คณะผู้พิพากษาที่พิจารณาพิพากษานี้ลงโทษทักษิณ และไม่ใช่เป็นกฎหมายของคณะรัฐประหาร หรือเป็นเรื่องผัวยินยอมให้เมียซื้อที่ดินต้องติดคุกดั่งที่พวกคนเสื้อแดงชอบอ้างหลอกประชาชนที่ไม่รู้กฎหมายและข้อเท็จจริงตลอดมา