หลังจากการเปิดราคาและรุ่นของ Samsung Galaxy Note 3 ที่วางขายในประเทศไทยนั้นจะเป็นรุ่น 3G อย่างเดียว และใช้ซีพียู Exynos 5 Octa (5420) ในราคา 23,500 บาท (และเราก็ได้มีพรีวิวกันไปแล้ว) ส่วนบางประเทศที่มี 4G LTE ใช้งานจะวางขาย Galaxy Note 3 รุ่นที่ใช้ซีพียู Qualcomm Snapdragon 800 แทน
และก็เป็นประเด็นกันอยู่บนกระทู้ของเว็บไซต์พันทิปว่าทำไม Samsung ประเทศไทยถึงไม่นำ Galaxy Note 3 รุ่นที่ใช้ซีพียู Snapdragon 800 เข้ามาขาย? เราขอแยกประเด็นออกเป็นหัวข้อใหญ่ๆดังนี้
ซีพียู Exynos 5 Octa ที่ใช้บน Galaxy Note 3 มันคือตัวใหม่
Galaxy Note 3 รุ่น LTE ดีกว่าจริงเหรอ? เปรียบเทียบความต่างของ Galaxy Note 3 รุ่น Exynos 5420 กับ Snapdragon 800
Galaxy Note 3 นั้นใช้ซีพียูรุ่นล่าสุด Exynos 5 Octa รหัส 5420 เปิดตัวเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา และยังไม่มีโปรดักส์ใดๆของ Samsung ในตอนนี้ที่ใช้ซีพียูรุ่นนี้เลย และ Samsung Galaxy Note 3 คือตัวแรก และยังไม่มีขาย เพราะฉะนั้นเรากำลังคิดกันไปเองใช้มั้ย? ว่าซีพียูของรุ่นที่ขายในประเทศไทยคือรุ่นคุณภาพแย่ หรือลดต้นทุน เพราะตอนนี้ยังไม่มีการทดสอบจริงๆจังๆเลยว่ามันแย่?
แล้ว Exynos 5420 มันเปลี่ยนอะไรจาก Exynos 5410 บ้าง?
ตามข่าวเปิดตัวของ Samsung ระบุว่า Exynos 5420 รุ่นนี้เปลี่ยนไปใช้ GPU Mali-T628 MP6 และมีประสิทธิภาพ 3D กราฟิกสูงกว่า Exynos 5 Octa ตัวเก่าถึง 2 เท่า (Exynos 5410 ที่ใช้บน Galaxy S4) ด้านการออกแบบซีพียูยังคงเป็น 8 คอร์ในลักษณะที่เรียกว่า big.LITTLE เช่นเคย (เป็นแบบ 4+4 คอร์) แต่มีการปรับประสิทธิภาพซีพียูขึ้นดังนี้ ซีพียู 4 คอร์ของ Cortex-A15 ความเร็วปรับเพิ่มเป็น 1.8GHz (Exynos 5410 เดิมใช้ความเร็ว 1.6GHz) ส่วน 4 คอร์ของ Cortex-A7 นั้นปรับความเร็วซีพียูเป็น 1.3GHz (Exynos 5410 เดิมใช้ 1.2GHz) เพราะฉะนั้นถือว่าประสิทธิภาพโดยรวมของซีพียูทั้ง 4+4 คอร์นั้นแรงขึ้นราวๆ 20%
ประสิทธิภาพด้านอื่นๆที่ปรับปรุงขึ้นบน Exynos 5420 คือ รองรับมาตรฐาน OpenGL ES 3.0 และ Open CL 1.1 แล้ว และยังมีหน่วยประมวลผลการบีบอัดรูปภาพที่เรียกว่า MIC (multiple image compression) และยังรองรับหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นสูงสุดถึง 2500×1600 พิกเซล (WQXGA) และหน่วยความจำก็รองรับในแบบ LPDDR3e ที่ความเร็ว 933MHz แล้ว
นอกจากนี้ยังแก้ไขปัญหาบั๊ก CCI-400 ที่เป็นปัญหาบน Exynos 5410 เดิมที่ Samsung ไปปิดไว้ แต่บน Exynos 5420 นั้นเปิดการใช้งานของ CCI-400 แล้ว
Exynos 5 Octa มี HMP ทำให้สามารถใช้งานได้พร้อมกันทั้ง 8 คอร์
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ Samsung นำมาโชว์ให้ดูว่า Exynos 5 Octa รุ่น 5420 นั้นมีเทคโนโลยี Heterogeneous Multi-Processing (HMP) โดยหลักการทำงานนั้นอธิบายง่ายๆก็คือ ซีพียูจะทำงานครบทั้ง 8 หัวแล้ว และแบ่งการทำงานแต่ละอย่างให้เหมาะสมกับซีพียูแต่ละหัว (Exynos 5410 ตัวเดิมทำได้แค่แบ่งงานหนักกับงานเบา)
แต่ฟีเจอร์ HMP นี้เนื่องจากเป็นของที่ใหม่มาก และมีเฉพาะ Exynos 5 Octa 5420 เท่านั้น เพราะฉะนั้นจึงยังไม่มีผลการทดสอบออกมาในตอนนี้ครับ
ข้อแตกต่างระหว่าง Galaxy Note 3 รุ่น Exynos 5 Octa 5420 กับ Snapdragon 800
Samsung Galaxy Note 3 รุ่น LTE ใช้ซีพียู Snapdragon 800 (SM-N9005)
สนับสนุน 4G LTE (2100/1800/850/1600/800MHz (Bands 1,3,5,7,20)) – ใช้ 4G LTE ของ Truemove H ได้
ซีพียู Quad-Core ความเร็ว 2.3GHz
ถ่ายวีดีโอระดับ 4K ได้
ถ่ายวีดีโอแบบ Slow-motion ได้ที่ระดับ 720p @120fps
ระบบประหยัดพลังงานแบบใหม่มาพร้อมชิป QFE1100 ลดพลังงานที่ใช้ลง 20% ลดความร้อน 30%
ระบบเสียง Qualcomm DAC
แรม LPDDR3 (32-bit dual-channel 800MHz)
ราคาขายแพงกว่า
มีรอมโมให้เล่นเยอะกว่า
Samsung Galaxy Note 3 รุ่นวางขายทั่วโลก ใช้ซีพียู Exynos 5 Octa 5420 (SM-N9000)
สนับสนุน 3G (2100/1900/900/850MHz)
ซีพียู 8 คอร์ ความเร็ว 1.9GHz (A15 1.9 GHz + A7 1.3 GHz)
ระบบประหยัดพลังงานสอดคล้องกับเทคโนโลยี HMP (อธิบายไว้ข้างบนแล้ว)
ระบบเสียง Wolfson Micro WM5102
แรม LPDDR3e (32-bit dual-channel 933MHz)
สรุป
Samsung Galaxy Note 3 รุ่น LTE (SM-N9005) ที่ใช้ซีพียู Snapdragon 800 ดูจะมีฟีเจอร์เยอะกว่า และยังใช้ 4G LTE ของ Truemove H ได้ด้วย และนอกจากนี้ยังถูกใจคอโมรอมทั้งหลายเพราะมีรอมให้เลือกเยอะกว่าแน่อน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ถ่ายวีดีโอแบบ Slow-motion แบบ HD ได้ด้วย ส่วนฟีเจอร์ถ่ายวีดีโอ 4K นั้นดูจะเป็น gimmick ซะมากกว่าเพราะใช้งานจริงคงจะหาคนที่มีพื้นที้เก็บไฟล์วีดีโอ 4K และมีทีวีที่รองรับไฟล์แบบ 4K น้อยมาก
ส่วน Samsung Galaxy Note 3 รุ่นที่วางขายในประเทศไทย (SM-N9000) นั้นมีดีตรงที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ แก้บั๊กเดิมที่เคยเกิดขึ้น รองรับแรมแบบใหม่ความเร็วสูงกว่ารุ่น LTE ส่วนระบบเสียงนั้นดีกว่ารุ่น LTE เพราะใช้ชิปของ Wolfson ส่วนฟีเจอร์อื่นๆนั้นดูจะด้อยกว่าตรงที่ไม่รองรับ LTE และถ่ายวีดีโอแบบ 4K กับ Slow-mo ไม่ได้
ส่วนเทคโนโลยีใหม่ๆบน Exynos 5 Octa 5420 นั้นยังเป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ในตอนนี้ครับ เพราะมีเพียง Galaxy Note 3 ที่รองรับและยังไม่วางขายเลย เพราะฉะนั้นต้องรอผลการทดสอบถึงประสิทธิภาพที่แท้จริงก่อน ส่วนที่ว่าด้อยกว่ากันนั้นก็ด้อยกว่ากันไม่มาก เพราะฉะนั้นใครที่ไม่ได้กังวลในเรื่องของ 4G LTE, วีดีโอ 4K และวีดีโอสโลโมชั่น ก็คงจะไม่ซีเรียสมากในเรื่องที่จะใช้ Galaxy Note 3 รุ่น Exynos 5420 ส่วนผู้ที่ซีเรียสในเรื่องที่กล่าวมา ท่านคงจะต้องหาเครื่องหิ้วมาใช้กันละครับเพราะ Samsung ยังไม่นำมาขายในตอนนี้ ^^”
ขอบคุณแหล่งข่าวจาก :
http://mobiledista.com/whats-the-different-between-galaxy-note-3-snapdragon-800-and-exynos-5420/#axzz2fDHOaTV6
เพื่อนๆอ่านแล้วเป็นไงกันบ้างค่ะ เราก็อยากลองดูตัวจริงมันดูว่าจะเป็นยังไง
Galaxy Note 3 รุ่น LTE ดีกว่าจริงเหรอ? เปรียบเทียบความต่างของ Galaxy Note 3 รุ่น Exynos 5420 กับ Snapdragon 800
และก็เป็นประเด็นกันอยู่บนกระทู้ของเว็บไซต์พันทิปว่าทำไม Samsung ประเทศไทยถึงไม่นำ Galaxy Note 3 รุ่นที่ใช้ซีพียู Snapdragon 800 เข้ามาขาย? เราขอแยกประเด็นออกเป็นหัวข้อใหญ่ๆดังนี้
ซีพียู Exynos 5 Octa ที่ใช้บน Galaxy Note 3 มันคือตัวใหม่
Galaxy Note 3 รุ่น LTE ดีกว่าจริงเหรอ? เปรียบเทียบความต่างของ Galaxy Note 3 รุ่น Exynos 5420 กับ Snapdragon 800
Galaxy Note 3 นั้นใช้ซีพียูรุ่นล่าสุด Exynos 5 Octa รหัส 5420 เปิดตัวเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา และยังไม่มีโปรดักส์ใดๆของ Samsung ในตอนนี้ที่ใช้ซีพียูรุ่นนี้เลย และ Samsung Galaxy Note 3 คือตัวแรก และยังไม่มีขาย เพราะฉะนั้นเรากำลังคิดกันไปเองใช้มั้ย? ว่าซีพียูของรุ่นที่ขายในประเทศไทยคือรุ่นคุณภาพแย่ หรือลดต้นทุน เพราะตอนนี้ยังไม่มีการทดสอบจริงๆจังๆเลยว่ามันแย่?
แล้ว Exynos 5420 มันเปลี่ยนอะไรจาก Exynos 5410 บ้าง?
ตามข่าวเปิดตัวของ Samsung ระบุว่า Exynos 5420 รุ่นนี้เปลี่ยนไปใช้ GPU Mali-T628 MP6 และมีประสิทธิภาพ 3D กราฟิกสูงกว่า Exynos 5 Octa ตัวเก่าถึง 2 เท่า (Exynos 5410 ที่ใช้บน Galaxy S4) ด้านการออกแบบซีพียูยังคงเป็น 8 คอร์ในลักษณะที่เรียกว่า big.LITTLE เช่นเคย (เป็นแบบ 4+4 คอร์) แต่มีการปรับประสิทธิภาพซีพียูขึ้นดังนี้ ซีพียู 4 คอร์ของ Cortex-A15 ความเร็วปรับเพิ่มเป็น 1.8GHz (Exynos 5410 เดิมใช้ความเร็ว 1.6GHz) ส่วน 4 คอร์ของ Cortex-A7 นั้นปรับความเร็วซีพียูเป็น 1.3GHz (Exynos 5410 เดิมใช้ 1.2GHz) เพราะฉะนั้นถือว่าประสิทธิภาพโดยรวมของซีพียูทั้ง 4+4 คอร์นั้นแรงขึ้นราวๆ 20%
ประสิทธิภาพด้านอื่นๆที่ปรับปรุงขึ้นบน Exynos 5420 คือ รองรับมาตรฐาน OpenGL ES 3.0 และ Open CL 1.1 แล้ว และยังมีหน่วยประมวลผลการบีบอัดรูปภาพที่เรียกว่า MIC (multiple image compression) และยังรองรับหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นสูงสุดถึง 2500×1600 พิกเซล (WQXGA) และหน่วยความจำก็รองรับในแบบ LPDDR3e ที่ความเร็ว 933MHz แล้ว
นอกจากนี้ยังแก้ไขปัญหาบั๊ก CCI-400 ที่เป็นปัญหาบน Exynos 5410 เดิมที่ Samsung ไปปิดไว้ แต่บน Exynos 5420 นั้นเปิดการใช้งานของ CCI-400 แล้ว
Exynos 5 Octa มี HMP ทำให้สามารถใช้งานได้พร้อมกันทั้ง 8 คอร์
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ Samsung นำมาโชว์ให้ดูว่า Exynos 5 Octa รุ่น 5420 นั้นมีเทคโนโลยี Heterogeneous Multi-Processing (HMP) โดยหลักการทำงานนั้นอธิบายง่ายๆก็คือ ซีพียูจะทำงานครบทั้ง 8 หัวแล้ว และแบ่งการทำงานแต่ละอย่างให้เหมาะสมกับซีพียูแต่ละหัว (Exynos 5410 ตัวเดิมทำได้แค่แบ่งงานหนักกับงานเบา)
แต่ฟีเจอร์ HMP นี้เนื่องจากเป็นของที่ใหม่มาก และมีเฉพาะ Exynos 5 Octa 5420 เท่านั้น เพราะฉะนั้นจึงยังไม่มีผลการทดสอบออกมาในตอนนี้ครับ
ข้อแตกต่างระหว่าง Galaxy Note 3 รุ่น Exynos 5 Octa 5420 กับ Snapdragon 800
Samsung Galaxy Note 3 รุ่น LTE ใช้ซีพียู Snapdragon 800 (SM-N9005)
สนับสนุน 4G LTE (2100/1800/850/1600/800MHz (Bands 1,3,5,7,20)) – ใช้ 4G LTE ของ Truemove H ได้
ซีพียู Quad-Core ความเร็ว 2.3GHz
ถ่ายวีดีโอระดับ 4K ได้
ถ่ายวีดีโอแบบ Slow-motion ได้ที่ระดับ 720p @120fps
ระบบประหยัดพลังงานแบบใหม่มาพร้อมชิป QFE1100 ลดพลังงานที่ใช้ลง 20% ลดความร้อน 30%
ระบบเสียง Qualcomm DAC
แรม LPDDR3 (32-bit dual-channel 800MHz)
ราคาขายแพงกว่า
มีรอมโมให้เล่นเยอะกว่า
Samsung Galaxy Note 3 รุ่นวางขายทั่วโลก ใช้ซีพียู Exynos 5 Octa 5420 (SM-N9000)
สนับสนุน 3G (2100/1900/900/850MHz)
ซีพียู 8 คอร์ ความเร็ว 1.9GHz (A15 1.9 GHz + A7 1.3 GHz)
ระบบประหยัดพลังงานสอดคล้องกับเทคโนโลยี HMP (อธิบายไว้ข้างบนแล้ว)
ระบบเสียง Wolfson Micro WM5102
แรม LPDDR3e (32-bit dual-channel 933MHz)
สรุป
Samsung Galaxy Note 3 รุ่น LTE (SM-N9005) ที่ใช้ซีพียู Snapdragon 800 ดูจะมีฟีเจอร์เยอะกว่า และยังใช้ 4G LTE ของ Truemove H ได้ด้วย และนอกจากนี้ยังถูกใจคอโมรอมทั้งหลายเพราะมีรอมให้เลือกเยอะกว่าแน่อน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ถ่ายวีดีโอแบบ Slow-motion แบบ HD ได้ด้วย ส่วนฟีเจอร์ถ่ายวีดีโอ 4K นั้นดูจะเป็น gimmick ซะมากกว่าเพราะใช้งานจริงคงจะหาคนที่มีพื้นที้เก็บไฟล์วีดีโอ 4K และมีทีวีที่รองรับไฟล์แบบ 4K น้อยมาก
ส่วน Samsung Galaxy Note 3 รุ่นที่วางขายในประเทศไทย (SM-N9000) นั้นมีดีตรงที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ แก้บั๊กเดิมที่เคยเกิดขึ้น รองรับแรมแบบใหม่ความเร็วสูงกว่ารุ่น LTE ส่วนระบบเสียงนั้นดีกว่ารุ่น LTE เพราะใช้ชิปของ Wolfson ส่วนฟีเจอร์อื่นๆนั้นดูจะด้อยกว่าตรงที่ไม่รองรับ LTE และถ่ายวีดีโอแบบ 4K กับ Slow-mo ไม่ได้
ส่วนเทคโนโลยีใหม่ๆบน Exynos 5 Octa 5420 นั้นยังเป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ในตอนนี้ครับ เพราะมีเพียง Galaxy Note 3 ที่รองรับและยังไม่วางขายเลย เพราะฉะนั้นต้องรอผลการทดสอบถึงประสิทธิภาพที่แท้จริงก่อน ส่วนที่ว่าด้อยกว่ากันนั้นก็ด้อยกว่ากันไม่มาก เพราะฉะนั้นใครที่ไม่ได้กังวลในเรื่องของ 4G LTE, วีดีโอ 4K และวีดีโอสโลโมชั่น ก็คงจะไม่ซีเรียสมากในเรื่องที่จะใช้ Galaxy Note 3 รุ่น Exynos 5420 ส่วนผู้ที่ซีเรียสในเรื่องที่กล่าวมา ท่านคงจะต้องหาเครื่องหิ้วมาใช้กันละครับเพราะ Samsung ยังไม่นำมาขายในตอนนี้ ^^”
ขอบคุณแหล่งข่าวจาก : http://mobiledista.com/whats-the-different-between-galaxy-note-3-snapdragon-800-and-exynos-5420/#axzz2fDHOaTV6
เพื่อนๆอ่านแล้วเป็นไงกันบ้างค่ะ เราก็อยากลองดูตัวจริงมันดูว่าจะเป็นยังไง