ถือเป็นครั้งแรกที่ “ตู่-นันทิดา แก้วบัวสาย” ควง “เพลง-ชนม์ทิดา อัศวเหม” ออกงาน นับตั้งแต่มีข่าวคราวของอดีตสามี “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์” จดทะเบียนสมรสฟ้าแลบกับ “เจนี่ อัศวเหม” ซึ่งทั้งคู่ได้มาร่วมงานแถลงข่าวประกวดภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรติโครงการ “คนไทยยังให้กันอยู่” เพื่อเฉลิมฉลองพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลเจริญพระชนมายุ 86 พรรษา โดยเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องราวข่าวคราวที่ผ่านมาว่า
“ตู่” : วันนี้ออกงานคู่กันครั้งแรก
“เพลง” : ก็ตื่นเต้นนิดหน่อยตอนร้องเพลง
คิดจะดันน้องเอาดีด้านนี้ไหม ตอนนี้ติดต่อมาบ้างหรือยัง
“ตู่” : เรื่องร้องเพลงก็เป็นอีกอย่างที่ได้รับจากเรามาบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่ตัวเขา
“เพลง” : ก็มีติดต่อมาบ้างค่ะ แต่อย่างที่เคยบอก เพลงสนใจเรื่องละครเวที ร้อง เล่น เต้น มากกว่าการเป็นนักร้อง
“ตู่” : เราบอกลูกว่าถ้าชอบจริงๆ แล้วให้ไปค้นหาตัวเองก่อน ก็เป็นเรื่องที่สำคัญเหมือนที่ได้ไปนิวยอร์ก คือน้องเพลงสอบติดนิเทศจุฬาฯ เราว่าก็ดีเหมือนกัน อยากให้เขาไปเรียนเพราะถ้าลูกชอบการแสดง ก็จะส่งไปเรียนที่นิวยอร์ก แต่เขาอยากอยู่เมืองไทยกับแม่ เราก็ว่าดีเหมือนกัน ลูกสาวคนเดียวก็เลยให้เรียนปริญญาตรีที่นี่ก่อน แล้วค่อยไปต่อโทที่โน่น
ตอนมีข่าวเรารู้สึกยังไง
“เพลง” : บอกเลยว่าคุณแม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้เรามาตลอด ภูมิใจที่คุณแม่เป็นผู้หญิงที่เก่ง แล้วก็เข้มแข็ง แข็งแรง ก็จะเดินตามคุณแม่ แล้วก็จะเข้มแข็งเหมือนคุณแม่
“ตู่” : จริงๆ ตู่เองต้องบอกว่า ตู่โตมาในครอบครัวที่ว่ารักตัวเอง อะไรจะปกป้องเราได้มากที่สุด วันนี้เราอายุ 54 เรารู้เลยว่ามันมาจากความรักจริงๆ คือเราได้รับความรัก ได้กอดกันทุกวัน คือการสัมผัสการกอด ก็คือการให้เหมือนกัน เราเติบโตมาด้วยสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความรักของคนในครอบครัว เพราะฉะนั้นวิธีการให้ความรักกับลูกของตู่คือการอยู่ใกล้ เราจะเป็นหลักให้ลูกตลอดชีวิต เพราะการให้ความรักกับลูกจะไม่มีวันหมดสิ้นอยู่แล้ว
หลายคนยกให้ตู่เป็นหญิงแกร่ง
“ตู่” : กว่าจะแกร่งได้มันก็ต้องกร้าน เราต้องชนะใจตัวเอง มันต้องชนะความรู้สึก ให้จริงๆ การให้ที่หมายถึงการเสียสละ เราต้องไม่รู้สึกจำใจที่จะให้ อย่างที่ผ่านมา ชีวิตเราผ่านมาหลายๆ อย่าง ปัญหามีมากมาย แต่เราไม่เคยที่จะหนีปัญหานั้น อย่างที่บอกยืนอยู่บนความจริง ตู่อาจไม่ใช่ผู้หญิงแกร่ง แต่เราเลือกทางเดินที่ถูก เราอาจเลือกความผิดในชีวิตไม่ได้ แต่เราเลือกชีวิตที่จะมีความสุขได้
หลังจากนี้เรายังจะติดต่อกับคุณพ่อไหม
“เพลง” : ก็ติดต่อเหมือนเดิมกับคุณพ่อก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยน เพลงกับพ่อก็พูดคุยเหมือนเดิม
เราให้กำลังใจกันยังไง
“เพลง” : ก็อยู่เคียงข้างคุณแม่เสมอ เวลาที่คุณแม่ต้องการใคร ความรักที่ให้คุณแม่ก็ไม่มีวันหมดไป มีแต่เพิ่มขึ้น จริงๆ เราไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เราก็เข้าใจกันและจับมือกันไว้
“ตู่” : สิ่งที่บอกกับลูกเสมอก็คือว่าชีวิตคนเราต้องยืนอยู่ด้วยกัน เป็นสิ่งที่สอนมาตั้งแต่เด็ก คุณพ่อตู่เองจะบอกว่าชีวิตลูกถ้าจะมีความสุขจริงๆ ต้องยืนอยู่บนความจริงและต้องยืนอยู่บนความเข้าใจที่เป็นพื้นฐานแล้ว เราก็จะมีความสุข แต่ว่าถ้าเราให้ด้วยความจำใจ มันจะรู้สึกไม่ปลดไม่ปล่อย อย่างที่บอกว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตู่อยู่ในวงการนี้มา 39 ปี เริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 16 สิ่ง ยืนอยู่ได้เพราะเราได้รับความรัก เราก็เอาสิ่งนี้มาเป็นพลัง
ข่าวจาก : รักดารา
http://www.rakdara.net/overview.php?c=2&id=38115
สาวแกร่ง "ตู่"ขอยืนหยัดเพื่อลูก "เพลง"พร้อมอยู่เคียงข้างแม่
ถือเป็นครั้งแรกที่ “ตู่-นันทิดา แก้วบัวสาย” ควง “เพลง-ชนม์ทิดา อัศวเหม” ออกงาน นับตั้งแต่มีข่าวคราวของอดีตสามี “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์” จดทะเบียนสมรสฟ้าแลบกับ “เจนี่ อัศวเหม” ซึ่งทั้งคู่ได้มาร่วมงานแถลงข่าวประกวดภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรติโครงการ “คนไทยยังให้กันอยู่” เพื่อเฉลิมฉลองพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลเจริญพระชนมายุ 86 พรรษา โดยเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องราวข่าวคราวที่ผ่านมาว่า
“ตู่” : วันนี้ออกงานคู่กันครั้งแรก
“เพลง” : ก็ตื่นเต้นนิดหน่อยตอนร้องเพลง
คิดจะดันน้องเอาดีด้านนี้ไหม ตอนนี้ติดต่อมาบ้างหรือยัง
“ตู่” : เรื่องร้องเพลงก็เป็นอีกอย่างที่ได้รับจากเรามาบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่ตัวเขา
“เพลง” : ก็มีติดต่อมาบ้างค่ะ แต่อย่างที่เคยบอก เพลงสนใจเรื่องละครเวที ร้อง เล่น เต้น มากกว่าการเป็นนักร้อง
“ตู่” : เราบอกลูกว่าถ้าชอบจริงๆ แล้วให้ไปค้นหาตัวเองก่อน ก็เป็นเรื่องที่สำคัญเหมือนที่ได้ไปนิวยอร์ก คือน้องเพลงสอบติดนิเทศจุฬาฯ เราว่าก็ดีเหมือนกัน อยากให้เขาไปเรียนเพราะถ้าลูกชอบการแสดง ก็จะส่งไปเรียนที่นิวยอร์ก แต่เขาอยากอยู่เมืองไทยกับแม่ เราก็ว่าดีเหมือนกัน ลูกสาวคนเดียวก็เลยให้เรียนปริญญาตรีที่นี่ก่อน แล้วค่อยไปต่อโทที่โน่น
ตอนมีข่าวเรารู้สึกยังไง
“เพลง” : บอกเลยว่าคุณแม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้เรามาตลอด ภูมิใจที่คุณแม่เป็นผู้หญิงที่เก่ง แล้วก็เข้มแข็ง แข็งแรง ก็จะเดินตามคุณแม่ แล้วก็จะเข้มแข็งเหมือนคุณแม่
“ตู่” : จริงๆ ตู่เองต้องบอกว่า ตู่โตมาในครอบครัวที่ว่ารักตัวเอง อะไรจะปกป้องเราได้มากที่สุด วันนี้เราอายุ 54 เรารู้เลยว่ามันมาจากความรักจริงๆ คือเราได้รับความรัก ได้กอดกันทุกวัน คือการสัมผัสการกอด ก็คือการให้เหมือนกัน เราเติบโตมาด้วยสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความรักของคนในครอบครัว เพราะฉะนั้นวิธีการให้ความรักกับลูกของตู่คือการอยู่ใกล้ เราจะเป็นหลักให้ลูกตลอดชีวิต เพราะการให้ความรักกับลูกจะไม่มีวันหมดสิ้นอยู่แล้ว
หลายคนยกให้ตู่เป็นหญิงแกร่ง
“ตู่” : กว่าจะแกร่งได้มันก็ต้องกร้าน เราต้องชนะใจตัวเอง มันต้องชนะความรู้สึก ให้จริงๆ การให้ที่หมายถึงการเสียสละ เราต้องไม่รู้สึกจำใจที่จะให้ อย่างที่ผ่านมา ชีวิตเราผ่านมาหลายๆ อย่าง ปัญหามีมากมาย แต่เราไม่เคยที่จะหนีปัญหานั้น อย่างที่บอกยืนอยู่บนความจริง ตู่อาจไม่ใช่ผู้หญิงแกร่ง แต่เราเลือกทางเดินที่ถูก เราอาจเลือกความผิดในชีวิตไม่ได้ แต่เราเลือกชีวิตที่จะมีความสุขได้
หลังจากนี้เรายังจะติดต่อกับคุณพ่อไหม
“เพลง” : ก็ติดต่อเหมือนเดิมกับคุณพ่อก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยน เพลงกับพ่อก็พูดคุยเหมือนเดิม
เราให้กำลังใจกันยังไง
“เพลง” : ก็อยู่เคียงข้างคุณแม่เสมอ เวลาที่คุณแม่ต้องการใคร ความรักที่ให้คุณแม่ก็ไม่มีวันหมดไป มีแต่เพิ่มขึ้น จริงๆ เราไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เราก็เข้าใจกันและจับมือกันไว้
“ตู่” : สิ่งที่บอกกับลูกเสมอก็คือว่าชีวิตคนเราต้องยืนอยู่ด้วยกัน เป็นสิ่งที่สอนมาตั้งแต่เด็ก คุณพ่อตู่เองจะบอกว่าชีวิตลูกถ้าจะมีความสุขจริงๆ ต้องยืนอยู่บนความจริงและต้องยืนอยู่บนความเข้าใจที่เป็นพื้นฐานแล้ว เราก็จะมีความสุข แต่ว่าถ้าเราให้ด้วยความจำใจ มันจะรู้สึกไม่ปลดไม่ปล่อย อย่างที่บอกว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตู่อยู่ในวงการนี้มา 39 ปี เริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 16 สิ่ง ยืนอยู่ได้เพราะเราได้รับความรัก เราก็เอาสิ่งนี้มาเป็นพลัง
ข่าวจาก : รักดารา
http://www.rakdara.net/overview.php?c=2&id=38115