< < < < [ Liverpool TIA Column ] : แม้ขึ้นจ่าฝูง แต่ยังมีอีกมากที่ต้องปรับปรุง > > > >



  ถ้าให้จินตนาการถึงคะแนนและอันดับในตารางของลิเวอร์พูล หลังผ่านไป 4 นัดในลีก ไว้ล่วงหน้าล่ะก็ ด้วยความสัตย์จริง แม้จะอยากมากเพียงใด แต่ก็ไม่กล้าคิดว่า เราจะอยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงจริงๆ ต้องยอมรับว่า มันเป็นการเปิดฤดูกาลที่เหนือความคาดหมายไม่น้อย และจากฟอร์มการเล่นที่ไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษมากมายนัก การเก็บ 10 แต้มใน 4 นัด และนั่งอยู่บนหัวตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ก็เป็นอะไรที่ทำให้พูดไม่ออก บอกไม่ถูกอยู่เหมือนกัน

แม้ว่าจะชนะแค่ 1-0 มา 3 นัด แต่มันก็ทำให้เรามี 9 แต้ม และหากมองที่เกมเยือน ก่อนการไปเยือนสวอนซี ในนัดที่ผ่านมา เราก็บุกไปคว้าชัยชนะที่วิลล่า พาร์ค มาได้แบบหืดจับไม่น้อย ดังนั้น การไม่ชนะสวอนซี ที่ลิเวอร์ตี้ สเตเดี้ยม จึงไม่ได้เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายนัก

ใช่ว่าไม่คิดถึงชัยชนะนะคะ ในฐานะแฟนบอลทีมลิเวอร์พูล เราต้องอยากชนะมากกว่าเสมอและแพ้อย่างแน่นอน เพียงแต่จากรูปเกมที่เกิดขึ้น มันควรทำให้เราพึงพอใจกับ 1 แต้ม แล้วจริงๆ

…ลิเวอร์พูลยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องปรับปรุง พัฒนา อีกมาก แต่สิ่งหนึ่งที่เรามองเห็นว่ามันคือ ความก้าวหน้าของทีม ก็คือ ความคงเส้นคงวา …ความคงเส้นคงวาในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเรื่องของฟอร์มการเล่นเพียงอย่างเดียว แน่นอนว่า หากฟอร์มการเล่นคงเส้นคงวา คงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแต่หากมีปัญหามากระทบกับแผนการเล่น ประกอบกับฟอร์มโดยส่วนตัวของนักเตะแต่ละคนไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมาย เรายังมีความคงเส้นคงวามากพอจะรักษาแต้มไว้ได้

เกมนี้ เราเล่นกันได้ไม่ดี กองหลังมีข้อผิดพลาด กองกลางเก็บบอลไม่ได้ และทำให้แดนหน้ามีโอกาสน้อยลง แต่เราก็เกือบเก็บ 3 แต้มได้ มีจังหวะที่ขึ้นนำเจ้าบ้าน และเมื่อโดนบุกกระหน่ำจนเสียประตูที่ 2 เราก็ยังนิ่งพอจะรักษาเกมรับไม่ให้เสียเพิ่มจากเดิม …แน่นอน นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวัง ไม่ใช่ฟอร์มที่เราต้องการ แต่เมื่อมันเกิดขึ้น ทีมต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และการรักษา 1 แต้มออกมาได้ด้วยฟอร์มการเล่นที่เด็ก ป.4 ก็ดูออกว่าค่อนข้างแย่ มันจึงเป็นสิ่งที่เรามองว่า เป็นหนึ่งในความก้าวหน้าของทีม

เพราะที่ผ่านมา มีหลายครั้งที่เราเล่นดี สร้างสรรค์โอกาสมากมาย แต่ออกจากสนามโดยได้เพียงผลเสมอ หรือบางครั้งแย่ถึงกับแพ้จากการโดนสวนกลับเพียงครั้งเดียว และในวันที่เล่นแย่ กับชัยชนะนั้น ไม่ต้องคิดถึงเลย เพียงแค่เสมอก็ยังยาก …เราคิดว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส สต๊าฟฟ์โค้ช และบรรดานักเตะทุกคนได้เรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นนั้นกับทีมมาตลอด 1 ปี และมันทำให้พวกเขาวางแผนที่จะหันมาเน้นผลการแข่งขันให้มากขึ้น

บีร็อดเป็นผู้จัดการทีมประเภทบอลเกม ไม่เน้นแทคติกมากมาย ถ้าย้อนไปตามผลงานในช่วงคุมสวอนซี จะเห็นว่า การแก้เกมของเขาได้ผลค่อนข้างน้อย เมื่อย้ายมาทำหน้าที่ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เขาค่อยๆเรียนรู้ที่จะปรับแผน เปลี่ยนวิธีการ แต่ไม่เปลี่ยนปรัชญา ของทีม เราอาจจะเห็นทำดาหน้าบุกใส่คู่แข่งน้อยลง อาจจะเห็นทีมเล่นเกมรับมากขึ้นบ้าง ล้วนแล้วแต่เป็นเพราะ เขาต้องการเน้นผลการแข่งขันนั่นเอง

อย่างเกมเมื่อคืน ซึ่งเห็นได้ชัดว่า เป็นค่ำคืนที่ไม่ดีเท่าไหร่นักของทั้งลูคัสและเจอร์ราร์ด เพราะพวกเขาทั้งสองคนชะลอเกมบุกของสวอนซีได้น้อยมาก ทำให้บอลถูกจ่ายทะลุช่องถึงแผงหลังค่อนข้างบ่อย กับการลงสนามนัดแรกของซาโก้ที่เพิ่งย้ายมา มันจึงเป็นเรื่องเข้าใจได้กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับประตูแรกที่เสีย ซึ่งอันที่จริง มันเป็นความผิดพลาดมาตั้งแต่ลูคัสกับเจอร์ราร์ดตัดบอลไม่ได้แล้ว ส่วนประตูที่สองก็ปล่อยให้เชลวี่วิ่งทะลุช่องขึ้นมาโหม่งตั้งให้มิชูหน้ากรอบเขตโทษ

นอกจากฟอร์มที่ดร็อปลงไปของทั้งลูคัสและเจอร์ราร์ด คูตินโญ่ยังมามีปัญหาบาดเจ็บ ที่ทำให้ต้องเปลี่ยนตัวออก และหลังจากนั้น เกมรุกของเราก็ไม่ทำงานอีกเลย ซึ่งเมื่อเกมรุกไม่ทำงาน มันเลยกลายเป็นลิเวอร์พูลต้องตั้งรับอยู่ร่วมๆ 25 นาทีสุดท้าย ซึ่งมันไม่ใช่ว่า พวกเขาเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมรับ คอยแต่จะตัดบอลทิ้งอย่างเดียว หลายครั้งที่นักเตะลิเวอร์พูลพยายามจะเก็บบอลเพื่อตั้งเกม หรือทำเกมสวนกลับ แต่มันยังขาดประสิทธิภาพอย่างเห้นได้ชัด อันที่จริงเห็นมาตั้งแต่เกมกับวิลล่าและแมนยูแล้วว่า เกมสวนกับของลิเวอร์พูลนั้นยังขาดประสิทธิภาพอยู่ไม่น้อย หลายครั้งที่เราเก็บบอลแล้วทำเกมสวนกับได้ไม่ดีพอ แทบจะไม่สามารถจบด้วยการยิงประตูคู่แข่งได้ด่วยซ้ำ ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในปัญหาที่ร็อดเจอร์สต้องไปแก้ไข บางที เมื่อซัวเรซกลับมา เราอาจมีทางเลือกและประสิทธิภาพมากกว่านี้ในการสวนกลับ

และเมื่อเกมสวนกลับขาดประสิทธิภาพ ทีมก็ต้องตั้งรับอย่างช่วยไม่ได้ บางที แฟนบอลก็อยากให้เปิดเกมแลกไปเลย แต่ในความเป็นจริงแล้ว 1 แต้ม ย่อมดีกว่า 0 แต้ม แม้ว่าหากเปิดแลก อาจกลายเป็น 3 แต้มก็ตาม แต่ใครจะรับประกันว่ามันจะเป็น 3 แต้มได้แน่ๆ …ไม่มีใครรับประกันได้แน่ ดังนั้น นี่อาจเป็นเหตุผลที่มันเป็น 1 แต้มที่น่าพอใจในวันที่ฟอร์มการเล่นของนักเตะไม่ดีนัก

อย่างที่แสดงความเห็นไปตั้งแต่แรกว่า มันยังมีอีกหลายสิ่งที่ลิเวอร์พูลจะต้องปรับปรุงแก้ไข และพัฒนา ที่สำคัญ อย่างลืมว่าเป้าหมายของเรา คือ อันดับ 4 …ไม่ได้แปลว่าเราไม่อยากได้แชมป์…ส่วนตัวแล้ว อยากมากค่ะ มากที่สุด แต่เราต้องอยู่กับความจริงที่ว่าทีมของเรายังไม่สมบูรณ์ขนาดนั้น ในตอนนี้ทีมกำลังพยายามจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้อยู่ มันจะไปได้ไกลแค่ไหน เราต้องรอดูกันไปยาวๆ

เรามีความสุขได้กับตำแหน่งจ่าฝูง(ที่มาโดยไม่ได้คาดคิด)ได้ พวกเรามีความสุขกันแน่อนล่ะ แต่เราก็ต้องมองเห็นภาพความจริงของทีมด้วยว่าเป็นอย่างไร มีจุดเด่น จุดด้อยตรงไหน และรอดูว่าบีร็อดจัดการ วางแผน แก้ปัญหา อย่างไรและเพื่ออะไร  

มีความสุขอย่างมีสตินะคะ

ยิ้มได้ ฝันได้ หวังได้ คุยได้ และโม้ได้ แต่ขอให้มีสติและอยู่กับความจริง ความสำเร็จที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์สโมสรลิเวอร์พูลไม่เคยมีคำว่าง่าย อย่าคิดว่าเราจะได้อะไรมาโดยง่าย หรือได้อะไรมาโดยไม่ผ่านความผิดพลาดและความสูญเสีย

เราไม่รู้ว่าทีมรักของเราจะนั่งอยู่บนบัลลังก์จ่าฝูงจนถึงเมื่อไหร่ มันอาจเป็นสัปดาห์หน้า หรือสิ้นปี หรือพฤษภาคม ปีหน้า ก็ได้ ซึ่งไม่ว่ามันจะเป็นไปนานแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ขึ้นอยู่กับผู้จัดการทีม นักเตะ สต๊าฟฟ์โค้ช และกองเชียร์ ขอแค่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจ มีแผนการ พัฒนาการการและความพยายามที่ลงตัว เราทุกคนคงได้ยิ้มมีความสุขกับทีมได้ในเดือนพฤษภาคม ปีหน้า จากความสำเร็จใดความสำเร็จหนึ่งอย่างแน่นอน

ส่วนจะเป็นความสำเร็จจากอะไรนั้น พฤษภาคม ปีหน้า เราทุกคนคงได้รู้กัน



โดย  :  howk_ky
เครดิด :  loveLFC.com
http://www.lovelfc.com/blogs/2013/09/tia-column-%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9D%E0%B8%B9%E0%B8%87-%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A1/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่