ปัญหาโลกแตก ผมเป็นลูกจ่างเขามาตลอดที่ได้งานทำเพราะ ว่า ไม่เรื่องมาก เลือกงานมากกว่าเลือกเงิน แต่ ก็อย่ากได้เงินเดือนเยอะเหมือนคนอื่นเขา ติดที่ว่า ประสบการณ์ ไม่เยอะ และ ปฏิภาณ ไม่ไวเท่าไหร เพราะ ที่ทำงานแต่ ละที่ ก็ เขี้ยวลากดิน เหมือนกัน แต่บางที่ ก็ วัฒนธรรมองค์กรดี น่าร่วมงาน ด้วย
ทุกอย่าง อยู่ภายใต้กฏหมาย แต่ กฏหมายก็มีไว้ ให้ แหวก ถ้าเราไม่ทัน มายากลของบริษัท เราก็ ต้องทำงาน ให้เขาเอารัดเอาเปรียบ ทุกค่ำเช้า แต่ มนุษย์เงินเดือน ต้องอยุ่ภายใต้กฏเกณฑ์ ของการประเมินผมงาน จาก เจ้านาย หรือ นายจ้าง คนที่ตั้งใจทำงาน ไม่ได้หมายความว่าจะ เป็นที่ชื่นชอบหรือถูกใจ หัวหน้า แต่ ที่ผมรู้สึก คือคนที่กล้า กล้าได้กล้าเสีย กล้าเถียง ไม่กลัวแผนกอื่นๆ และ ถ้ายิ่งมั่นใจตัวเอง ก็อาจจะไม่ได้ รับความไว้ว่างใจในการรับการประเมินให้ดีได้ เรื่องการเมืองภายในบริษัท กลับกลายเป็น สิ่งที่มนุษย์ เงินเดือนทุกคน ต่างพยายามเงยหน้าแอบมอง ว่าข้างบนผู้บริหารหรือ หัวหน้าเราเขาทำอะไรกันอยู่ ลูกน้องที่ทำงานเก่ง อาจจะ ทำงาน เกินหน้าเกินตา หัวหน้า เอง หรือ แผนกอื่นๆ ก็มีแต่คนหนั่นไส้ สิ่งเหล้านี้ เป็นปรกติสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกๆๆๆ บริษัทใช่หรือไม่ ผมอาจจะมีมุมมองที่ไม่ดี ก็ได้ แต่ ก็แค่แสดงความคิดเห็น เท่านั้น ผมจำได้ ว่า เคยมี ใครบอก ผมว่า เรามาทำงานให้บริษัท บริษัท อยู่ได้ ถ้าไม่มีเรา แต่เราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีบริษัท ประโยคพวกนี้ มัน สกิตใจผมตลอดเวลา ที่เราทำงาน ไม่ทั้น แล้ว ต้องทำ Over time แต่ ถึงแม้ เรา ต้องทำ Over time บริษัทกับมองว่า เรา มี ประสิทธิภาพน้องในการทำงาน เนื่องจาก แก้ปัญหางานได้ ไม่ ทันใน daytime อันนี้ ผม ยอมรับว่า มีความคิดในแง่ลบแต่ แง่บวกก็มี เช่น เราจะได้ความรู้ความสามารถมาก เวลาที่ เราไม่เคยปฏิเสธงาน แต่ ในทางกับกัน การไม่ปฏิเสธงาน ก็ ทำให้ เราทำงาน ที่เกินหน้าที่ ในตำแหน่งเราไป แผนกอืนเห็นก็จะ โยนงานมาเรือยๆ จน งาน กลายเป็นของ เรา แต่ ถึงอย่างไรมัน ก็ทำให้ เรา รู้ดีขึ้น เก่งขึ้น เรืองงาน ถ้าทำไม่ผิด แล้วยังไง ละ เมื่อ เราทำงานให้ แผนกอื่น ทั้ง ๆที่รุ้ว่า เขาไม่ทำ แล้วพองานมีปัญหาก็ โยน ความผิดมาให้เรา เมืองานผิดหรือ ส่งให้ลูกค้าไม่ทั้น สุดท้ดังนั้น เวลาทำงาน เป็น มนุษย์ เงินเดือน แล้วมีปัญหา ผมก็พยายามคิดเพียงแค่นี้
*** ปิดโหวต วันที่ 27 กันยายน พ.ศ.2556 เวลา 02:40:46 น.
1. ประชาชนทั่วไปที่ทำงานให้กับบริษัทเอกชน นั้น ต้องการอะไรมากที่สุด
คุณลืมตอบคำถามที่ * จำเป็นต้องตอบ
การเมืองในบริษัท คิดว่า คุณต้อง ทนอยู่ หรือ ต้องอยู่ทน
ทุกอย่าง อยู่ภายใต้กฏหมาย แต่ กฏหมายก็มีไว้ ให้ แหวก ถ้าเราไม่ทัน มายากลของบริษัท เราก็ ต้องทำงาน ให้เขาเอารัดเอาเปรียบ ทุกค่ำเช้า แต่ มนุษย์เงินเดือน ต้องอยุ่ภายใต้กฏเกณฑ์ ของการประเมินผมงาน จาก เจ้านาย หรือ นายจ้าง คนที่ตั้งใจทำงาน ไม่ได้หมายความว่าจะ เป็นที่ชื่นชอบหรือถูกใจ หัวหน้า แต่ ที่ผมรู้สึก คือคนที่กล้า กล้าได้กล้าเสีย กล้าเถียง ไม่กลัวแผนกอื่นๆ และ ถ้ายิ่งมั่นใจตัวเอง ก็อาจจะไม่ได้ รับความไว้ว่างใจในการรับการประเมินให้ดีได้ เรื่องการเมืองภายในบริษัท กลับกลายเป็น สิ่งที่มนุษย์ เงินเดือนทุกคน ต่างพยายามเงยหน้าแอบมอง ว่าข้างบนผู้บริหารหรือ หัวหน้าเราเขาทำอะไรกันอยู่ ลูกน้องที่ทำงานเก่ง อาจจะ ทำงาน เกินหน้าเกินตา หัวหน้า เอง หรือ แผนกอื่นๆ ก็มีแต่คนหนั่นไส้ สิ่งเหล้านี้ เป็นปรกติสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกๆๆๆ บริษัทใช่หรือไม่ ผมอาจจะมีมุมมองที่ไม่ดี ก็ได้ แต่ ก็แค่แสดงความคิดเห็น เท่านั้น ผมจำได้ ว่า เคยมี ใครบอก ผมว่า เรามาทำงานให้บริษัท บริษัท อยู่ได้ ถ้าไม่มีเรา แต่เราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีบริษัท ประโยคพวกนี้ มัน สกิตใจผมตลอดเวลา ที่เราทำงาน ไม่ทั้น แล้ว ต้องทำ Over time แต่ ถึงแม้ เรา ต้องทำ Over time บริษัทกับมองว่า เรา มี ประสิทธิภาพน้องในการทำงาน เนื่องจาก แก้ปัญหางานได้ ไม่ ทันใน daytime อันนี้ ผม ยอมรับว่า มีความคิดในแง่ลบแต่ แง่บวกก็มี เช่น เราจะได้ความรู้ความสามารถมาก เวลาที่ เราไม่เคยปฏิเสธงาน แต่ ในทางกับกัน การไม่ปฏิเสธงาน ก็ ทำให้ เราทำงาน ที่เกินหน้าที่ ในตำแหน่งเราไป แผนกอืนเห็นก็จะ โยนงานมาเรือยๆ จน งาน กลายเป็นของ เรา แต่ ถึงอย่างไรมัน ก็ทำให้ เรา รู้ดีขึ้น เก่งขึ้น เรืองงาน ถ้าทำไม่ผิด แล้วยังไง ละ เมื่อ เราทำงานให้ แผนกอื่น ทั้ง ๆที่รุ้ว่า เขาไม่ทำ แล้วพองานมีปัญหาก็ โยน ความผิดมาให้เรา เมืองานผิดหรือ ส่งให้ลูกค้าไม่ทั้น สุดท้ดังนั้น เวลาทำงาน เป็น มนุษย์ เงินเดือน แล้วมีปัญหา ผมก็พยายามคิดเพียงแค่นี้