เพิ่มเติม เผื่อคนเข้าใจผิด
จขกท.ใช้ล็อคอินเพื่อนนะคะ
คือตอนนี้เครียด ร่างกายก็อ่อนแอ ขอระบายนะคะ อัดอั้นตันใจมาก กับความมักง่าย เอาแต่ได้ของอพาร์ทเม้น ค่าเช่าเดือนละเกือบห้าพัน
จุดเริ่มต้นมาจาก
เมื่อเดือนมิถุนายน เราทำสัญญาและย้ายเข้ามาพักที่อพาร์ทเม้นแห่งนึง
ซึ่งแค่สองสามวันแรกก็พบว่าเฟอร์นิเจอร์ซึ่งเป็นไม้พาร์ติเคิ้ล มีราขึ้นเต็มไปหมด
ตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไร แค่รู้สึกว่า นี้พึ่งย้ายเข้ามา เจอราผลิดอกมาต้อนรับเต็มไปหมด
เราหมั่นทำความสะอาดด้วยสารพัดสูตร ไม่ว่าจะเป็น น้ำยาฆ่าเชื้อรา น้ำส้มสายชู และสูตรที่พอจะหาได้จากอินเตอร์เน็ต
โดยการใช้ทิชชู่เช็ด ปาดครั้งเดียวและทิ้ง เชื้อราก็ยังผลิดอกออกผลสวยงามเหมือนเดิม
ระหว่างนั้นก็แจ้งเจ้าหน้าที่หอพัก ให้ทราบ พร้อมกับค้นหาข้อมูล เพราะเราสงสัยว่า ทำไมรายังขึ้นไม่หยุดหย่อน
จนกระทั่งเจอร์กระทู้นี้
http://topicstock.ppantip.com/home/topicstock/2012/01/R11527552/R11527552.html เราส่งให้ทางเจ้าหน้าที่หอพักดู พร้อมกับยื่นข้อเสนอขอเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ เพราะพาร์ติเคิ้ลเมื่อเคยขึ้นราแล้ว ก็จะขึ้นอีกเรื่อยๆ
ราก็ยังขึ้นทุก 3-4 วัน ซึ่งเรา ทำงานเหนื่อยมา กลับห้องพักราคาค่าเชื่อเกือบ ห้าพัน ต้องมานั่งเช็ดเชื้อราแทบจะวันเว้นวัน
ทำคนเดียวไม่ไหวก็จ้างแม่บ้านมาช่วยทำความสะอาด เบาแรงไป แต่ราก็ยังคงขึ้นเสมอต้นเสมอปลาย
ซึ่งเชื้อรา ที่ห้องมีหลายสปีชีส์มาก ราขุยๆขาวๆ ราจุดๆเขียวๆ ราดำๆ ราที่ลักษณะเหมือนแป้ง
เชื้อราขึ้นเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างในห้อง ลุกลามขึ้นกระเป๋าเรา ที่แค่วางไว้บนโต๊ะ จนต้องทิ้งทั้งกระเป๋าไปหลายใบ
เท่านั้นยังไม่พอ เชื้อรายังลุกลามขึ้น รองเท้า และสารพัดสิ่ง เราขอให้ทางอพาร์ทเม้นเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ให้ แต่หอพักกลับเสนอห้องพักใหม่ให้เราย้ายเข้าไปแทน
ดูเหมือนจะดีใช่ไหมคะ
เราดีใจที่ได้ย้ายห้อง แต่ห้องใหม่ที่เราย้ายเข้ามา เพียงแค่วันแรกก็พบร้องรอยของเชื้อรา เต็มตู้เสื้อผ้า
ซึ่งได้แจ้งไปยังผู้เกี่ยวข้อง ก็มีแต่คำตอบว่ามันต้องมีบ้างแหละ ธรรมดา
ณ วันนี้เราย้ายห้องมาห้องใหม่ได้พึ่งจะสิบกว่าวัน วันนี้กลับมาพบราสีเขียวเต็มตู้เสื้อผ้า มันเหนื่อย ทำงานมาอยากพักผ่อน ก็ต้องมานั่งเช็ดเชื้อรา ซึ่งเช็ดไปก็คงจะขึ้นมาอีกเรื่อยๆ
เราหมดอะไรไปกับหอนี้เยอะมาก ซื้อซิลิกาเจลมา ซื้อเครื่องฟอกอากาศราคาสองหมื่นเจ็ด
เราป่วยเข้าๆออกๆ โรงพยาบาล ลางานอย่างน้อยเดือนล่ะวัน
ค่ารักษารวมกันเป็นหมื่นๆ (แต่เรามีสวัสดิการบริษัทจ่ายให้)
จากที่เราไม่เคยคิดว่ามันเกี่ยวข้องกันมาก่อน แต่พอมานั่งนึกดูก็พบว่า ย้ายมาอยู่หอได้สามเดือนจะเข้าสี่เดือน เดือนนี้
ป่วยบ่อยมาก บ่อยที่สุดในชีวิตเลย จากที่แต่ก่อนร่างกายแข็งแรง ไม่เคยไปหาหมอที่ รพ.เลย นี่เราเข้าๆออกๆ อาทิตย์เว้นอาทิตย์
เราคิดว่าทางหอพักน่าจะรู้มาโดยตลอดเราถามว่าถ้าเราย้ายออก ทางหอพักจะว่ายังไง
คำตอบที่ได้คือ ยึดเงินประกันห้อง 8 พันกว่าบาท เพราะเราผิดสัญญาย้ายออกก่อนกำหนด
เราอยากจะถามคนที่ตอบ ถ้าคุณอยู่แล้วคุณป่วยถี่ขนาดนี้ คุณยังจะอยู่ไหม
เราอยากจะเอาใบเสร็จไปให้เค้าดู เพื่อยืนยัน ว่าตั้งแต่มาอยู่เราป่วยบ่อยจริงๆ
แต่เราไม่ได้ทำ เพราะส่วนมากรับยาเสร็จก็ทิ้งๆไปหมดแล้ว
วันนี้ความอดทนมันหมดแล้วจริงๆ ถ้าเราจะย้ายออกเพราะหอพักไม่มีมาตรการอะไรที่จะช่วยเหลือเราอย่างจริงใจ
เรากลับกลายเป็นคนที่ต้องเสียเงินประกัน เพราะเราทำผิดสัญญษ เรารู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลย
จิตตก+เครียดมาก เช่าหอพัก ราขึ้นเฟอร์นิเจอร์ แต่ไม่สามารถย้ายออกได้เนื่องจากติดสัญญาเช่า
จขกท.ใช้ล็อคอินเพื่อนนะคะ
คือตอนนี้เครียด ร่างกายก็อ่อนแอ ขอระบายนะคะ อัดอั้นตันใจมาก กับความมักง่าย เอาแต่ได้ของอพาร์ทเม้น ค่าเช่าเดือนละเกือบห้าพัน
จุดเริ่มต้นมาจาก
เมื่อเดือนมิถุนายน เราทำสัญญาและย้ายเข้ามาพักที่อพาร์ทเม้นแห่งนึง
ซึ่งแค่สองสามวันแรกก็พบว่าเฟอร์นิเจอร์ซึ่งเป็นไม้พาร์ติเคิ้ล มีราขึ้นเต็มไปหมด
ตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไร แค่รู้สึกว่า นี้พึ่งย้ายเข้ามา เจอราผลิดอกมาต้อนรับเต็มไปหมด
เราหมั่นทำความสะอาดด้วยสารพัดสูตร ไม่ว่าจะเป็น น้ำยาฆ่าเชื้อรา น้ำส้มสายชู และสูตรที่พอจะหาได้จากอินเตอร์เน็ต
โดยการใช้ทิชชู่เช็ด ปาดครั้งเดียวและทิ้ง เชื้อราก็ยังผลิดอกออกผลสวยงามเหมือนเดิม
ระหว่างนั้นก็แจ้งเจ้าหน้าที่หอพัก ให้ทราบ พร้อมกับค้นหาข้อมูล เพราะเราสงสัยว่า ทำไมรายังขึ้นไม่หยุดหย่อน
จนกระทั่งเจอร์กระทู้นี้ http://topicstock.ppantip.com/home/topicstock/2012/01/R11527552/R11527552.html เราส่งให้ทางเจ้าหน้าที่หอพักดู พร้อมกับยื่นข้อเสนอขอเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ เพราะพาร์ติเคิ้ลเมื่อเคยขึ้นราแล้ว ก็จะขึ้นอีกเรื่อยๆ
ราก็ยังขึ้นทุก 3-4 วัน ซึ่งเรา ทำงานเหนื่อยมา กลับห้องพักราคาค่าเชื่อเกือบ ห้าพัน ต้องมานั่งเช็ดเชื้อราแทบจะวันเว้นวัน
ทำคนเดียวไม่ไหวก็จ้างแม่บ้านมาช่วยทำความสะอาด เบาแรงไป แต่ราก็ยังคงขึ้นเสมอต้นเสมอปลาย
ซึ่งเชื้อรา ที่ห้องมีหลายสปีชีส์มาก ราขุยๆขาวๆ ราจุดๆเขียวๆ ราดำๆ ราที่ลักษณะเหมือนแป้ง
เชื้อราขึ้นเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างในห้อง ลุกลามขึ้นกระเป๋าเรา ที่แค่วางไว้บนโต๊ะ จนต้องทิ้งทั้งกระเป๋าไปหลายใบ
เท่านั้นยังไม่พอ เชื้อรายังลุกลามขึ้น รองเท้า และสารพัดสิ่ง เราขอให้ทางอพาร์ทเม้นเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ให้ แต่หอพักกลับเสนอห้องพักใหม่ให้เราย้ายเข้าไปแทน
ดูเหมือนจะดีใช่ไหมคะ
เราดีใจที่ได้ย้ายห้อง แต่ห้องใหม่ที่เราย้ายเข้ามา เพียงแค่วันแรกก็พบร้องรอยของเชื้อรา เต็มตู้เสื้อผ้า
ซึ่งได้แจ้งไปยังผู้เกี่ยวข้อง ก็มีแต่คำตอบว่ามันต้องมีบ้างแหละ ธรรมดา
ณ วันนี้เราย้ายห้องมาห้องใหม่ได้พึ่งจะสิบกว่าวัน วันนี้กลับมาพบราสีเขียวเต็มตู้เสื้อผ้า มันเหนื่อย ทำงานมาอยากพักผ่อน ก็ต้องมานั่งเช็ดเชื้อรา ซึ่งเช็ดไปก็คงจะขึ้นมาอีกเรื่อยๆ
เราหมดอะไรไปกับหอนี้เยอะมาก ซื้อซิลิกาเจลมา ซื้อเครื่องฟอกอากาศราคาสองหมื่นเจ็ด
เราป่วยเข้าๆออกๆ โรงพยาบาล ลางานอย่างน้อยเดือนล่ะวัน
ค่ารักษารวมกันเป็นหมื่นๆ (แต่เรามีสวัสดิการบริษัทจ่ายให้)
จากที่เราไม่เคยคิดว่ามันเกี่ยวข้องกันมาก่อน แต่พอมานั่งนึกดูก็พบว่า ย้ายมาอยู่หอได้สามเดือนจะเข้าสี่เดือน เดือนนี้
ป่วยบ่อยมาก บ่อยที่สุดในชีวิตเลย จากที่แต่ก่อนร่างกายแข็งแรง ไม่เคยไปหาหมอที่ รพ.เลย นี่เราเข้าๆออกๆ อาทิตย์เว้นอาทิตย์
เราคิดว่าทางหอพักน่าจะรู้มาโดยตลอดเราถามว่าถ้าเราย้ายออก ทางหอพักจะว่ายังไง
คำตอบที่ได้คือ ยึดเงินประกันห้อง 8 พันกว่าบาท เพราะเราผิดสัญญาย้ายออกก่อนกำหนด
เราอยากจะถามคนที่ตอบ ถ้าคุณอยู่แล้วคุณป่วยถี่ขนาดนี้ คุณยังจะอยู่ไหม
เราอยากจะเอาใบเสร็จไปให้เค้าดู เพื่อยืนยัน ว่าตั้งแต่มาอยู่เราป่วยบ่อยจริงๆ
แต่เราไม่ได้ทำ เพราะส่วนมากรับยาเสร็จก็ทิ้งๆไปหมดแล้ว
วันนี้ความอดทนมันหมดแล้วจริงๆ ถ้าเราจะย้ายออกเพราะหอพักไม่มีมาตรการอะไรที่จะช่วยเหลือเราอย่างจริงใจ
เรากลับกลายเป็นคนที่ต้องเสียเงินประกัน เพราะเราทำผิดสัญญษ เรารู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลย