ขอออกตัวก่อนว่ามิได้มีอคติกับนักร้องดังที่เสียชีวิต ได้ยินและฟังบทเพลงของนักร้องดังผู้นี้มาตั้งแต่จำความได้
ทั้งในงานวัด หรืองานรื่นเริงในหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นงานบวช งานแต่งงาน หรือแม้แต่งานศพของคนในหมู่บ้าน
ก็จะได้ยินบทเพลงของนักร้องดัง
ไม่เคยรู้ประวัติส่วนตัวของนักร้องดัง เพิ่งจะสนใจเมื่อทราบว่านักร้องดังป่วยเป็นมะเร็ง ก็รู้สึกสงสาร เห็นใจที่ต้อง
เผชิญกับโรคร้าย ได้ตามข่าวบ้าง และยังรู้สึกชื่นชมในความรักลูก ส่งเสริมการศึกษาของลูกเพื่อทดแทนที่ตนเอง
ด้อยการศึกษาและคำสอนดีๆที่พร่ำสอนลูกๆเช่น "ซื่อได้แต่อย่าโง่ ฉลาดได้แต่อย่าโกง" ซึ่งเป็นคำสอนที่ดี
ขณะป่วยก็มีการจัดคอนเสริต ครั้งแรกก็ไม่รู้สึกอะไรคิดว่านักร้องดังต้องการพบปะแฟนเพลงเพื่อบอกลาและเพราะ
ใจรักในการเป็นนักร้องและความผูกพันกับแฟนเพลงมาตลอดทั้งชีวิต การที่มีคนบริจาคทรัพย์เพื่อช่วยเหลือค่ารักษา
พยาบาลก็มิได้แปลกอะไร เพราะเป็นความประสงค์ของผู้บริจาคเอง
แต่เมื่อนักร้องดังเสียชีวิตลง ข่าวการมีหนี้สินก็ทยอยออกมา เลยทำให้เกิดคำถามและความข้องใจว่า ...เงินที่ได้จาก
การเข้าชมการแสดงจากประชาชน แฟนเพลงที่ชื่นชอบ ในขณะที่โด่งดัง...สูญหายไปไหน?
จริงอยู่ที่นักร้องดังให้ความสุขประชาชนด้วยการสร้างสรรค์ ขับกล่อมบทเพลงมายาวนาน แต่ประชาชนก็แลกความสุข
นั้นมาด้วยเงินมิใช่หรือ?
หนี้สินที่ผู้ตายและครอบครัวก่อเอง ประชาชน(แฟนเพลง)ที่ชื่นชอบต้องร่วมรับผิดชอบด้วยหรือ?
เหตุไฉนต้องคอยย้ำและบอกกล่าวอยู่เสมอๆถึงเรื่องหนี้สินต่างๆ ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าอาจถูกมองในแง่ลบได้ว่า "หากินกับศพ"
ความเป็นอยู่ของลูกเมียเท่าที่เห็นในข่าว ก็ดูเหมือนไม่น่าำลำบากอะไรมากหากเทียบกับคนที่ลำบากจริงๆแล้ว น่าจะสุขสบายมาก
ด้วยซ้ำไป ดูจากเสื้อผ้าการแต่งตัว ที่ค่อนข้างตามแฟชั่น โดยเฉพาะการทำสีผมของลูกสาว
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นความประสงค์ของผู้ตายจริงๆ หรือเป็นความประสงค์ของคนที่มีชีวิตอยู่กันแน่ ?
อดคิดไม่ได้ว่าในอนาคต "งานศพปลดหนี้" แบบนี้จะกลายเป็นประเพณีสืบทอดของบุคคลมีชื่อเสียง
อย่างบรรดา ดารา นักร้อง ศิลปินทั้งหลายของประเทศไทย
หากข้อความที่โฟสไม่เป็นที่ถูกอกถูกใจบางท่านก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ขอให้ดวงวิญาณของนักร้องดังสู่สุขคติ
.
.
U_U .... ไม่ได้เข้ามาแก้ไขอะไรนะคะ.... U_U
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน..ร่วมแสดงความคิดเห็นและโหวดให้เป็นกระทู้แนะนำค่ะ ...
"งานศพปลดหนี้" เป็นเพราะใคร? : ความประสงค์ผู้ตาย? คนในครอบครัว? คนใกล้ชิดผู้ตาย? คนฉวยโอกาส?
ทั้งในงานวัด หรืองานรื่นเริงในหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นงานบวช งานแต่งงาน หรือแม้แต่งานศพของคนในหมู่บ้าน
ก็จะได้ยินบทเพลงของนักร้องดัง
ไม่เคยรู้ประวัติส่วนตัวของนักร้องดัง เพิ่งจะสนใจเมื่อทราบว่านักร้องดังป่วยเป็นมะเร็ง ก็รู้สึกสงสาร เห็นใจที่ต้อง
เผชิญกับโรคร้าย ได้ตามข่าวบ้าง และยังรู้สึกชื่นชมในความรักลูก ส่งเสริมการศึกษาของลูกเพื่อทดแทนที่ตนเอง
ด้อยการศึกษาและคำสอนดีๆที่พร่ำสอนลูกๆเช่น "ซื่อได้แต่อย่าโง่ ฉลาดได้แต่อย่าโกง" ซึ่งเป็นคำสอนที่ดี
ขณะป่วยก็มีการจัดคอนเสริต ครั้งแรกก็ไม่รู้สึกอะไรคิดว่านักร้องดังต้องการพบปะแฟนเพลงเพื่อบอกลาและเพราะ
ใจรักในการเป็นนักร้องและความผูกพันกับแฟนเพลงมาตลอดทั้งชีวิต การที่มีคนบริจาคทรัพย์เพื่อช่วยเหลือค่ารักษา
พยาบาลก็มิได้แปลกอะไร เพราะเป็นความประสงค์ของผู้บริจาคเอง
แต่เมื่อนักร้องดังเสียชีวิตลง ข่าวการมีหนี้สินก็ทยอยออกมา เลยทำให้เกิดคำถามและความข้องใจว่า ...เงินที่ได้จาก
การเข้าชมการแสดงจากประชาชน แฟนเพลงที่ชื่นชอบ ในขณะที่โด่งดัง...สูญหายไปไหน?
จริงอยู่ที่นักร้องดังให้ความสุขประชาชนด้วยการสร้างสรรค์ ขับกล่อมบทเพลงมายาวนาน แต่ประชาชนก็แลกความสุข
นั้นมาด้วยเงินมิใช่หรือ?
หนี้สินที่ผู้ตายและครอบครัวก่อเอง ประชาชน(แฟนเพลง)ที่ชื่นชอบต้องร่วมรับผิดชอบด้วยหรือ?
เหตุไฉนต้องคอยย้ำและบอกกล่าวอยู่เสมอๆถึงเรื่องหนี้สินต่างๆ ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าอาจถูกมองในแง่ลบได้ว่า "หากินกับศพ"
ความเป็นอยู่ของลูกเมียเท่าที่เห็นในข่าว ก็ดูเหมือนไม่น่าำลำบากอะไรมากหากเทียบกับคนที่ลำบากจริงๆแล้ว น่าจะสุขสบายมาก
ด้วยซ้ำไป ดูจากเสื้อผ้าการแต่งตัว ที่ค่อนข้างตามแฟชั่น โดยเฉพาะการทำสีผมของลูกสาว
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นความประสงค์ของผู้ตายจริงๆ หรือเป็นความประสงค์ของคนที่มีชีวิตอยู่กันแน่ ?
อดคิดไม่ได้ว่าในอนาคต "งานศพปลดหนี้" แบบนี้จะกลายเป็นประเพณีสืบทอดของบุคคลมีชื่อเสียง
อย่างบรรดา ดารา นักร้อง ศิลปินทั้งหลายของประเทศไทย
หากข้อความที่โฟสไม่เป็นที่ถูกอกถูกใจบางท่านก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ขอให้ดวงวิญาณของนักร้องดังสู่สุขคติ
.
.
U_U .... ไม่ได้เข้ามาแก้ไขอะไรนะคะ.... U_U
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน..ร่วมแสดงความคิดเห็นและโหวดให้เป็นกระทู้แนะนำค่ะ ...