สวัสดีค่ะ ชื่อปายนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักชาวถนนนักเขียนทุกท่านค่ะ
เรื่องนี้ออกแนวไซไฟ-แฟนตาซี (ไม่มีโรงเรียน/ไม่ออนไลน์/ไม่มีอาณาจักรเวทมนต์)
ไม่ใช่ผลงานครั้งแรก แต่เป็นนิยายเรื่องแรกที่ลงในพันทิป ฝากด้วยนะคะ ติชมได้เลยค่ะ ใช้นามปากกาเป็นตัวย่อว่า P.P.B.
STAR FALL
by P.P.B.
- Prologue -
“นายจะไม่เป็นอะไรทั้งนั้น...มองหน้าพี่” หัวใจเต้นกระหน่ำโครมครามเหมือนจะหลุดจากอก เสียงแหบพร่าแทรกผ่านสนามรบ มือทั้งสองข้างสั่นเทาขณะโรยตัวยาห้ามเลือดลงบนบาดแผลของร่างที่กำลังโรยแรง
“บลันซ์...อย่าหลับ!” ทั้งพยายามตบแก้มเรียกสติให้ดวงตาสีน้ำเงินอ่อนจางนั้นยังคงอยู่ ทั้งเอ่ยเรียกชื่อไม่ขาดปาก...น้องชายเพียงคนเดียวของเขา ครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของเขา
บรึ้ม!
การระเบิดครั้งใหญ่ห่างออกไปไม่ไกลนัก เกลียวร้อนหมุนวนเผาไหม้ชั้นบรรยากาศจนหลอมเหลว ก้อนเมฆกลายเป็นม่านไฟและไอหมอกราวกับธารลาวาที่พลิกกลับตาลปัตรสู่เบื้องบน เศษซากเถ้าถ่านบิดเป็นริ้วเชือดเฉือนมวลอากาศ
“อ่อก...ก” เลือดข้นคลั่กสำลักออกมาไม่หยุด ร่างสูงของพี่ชายกำลังคุดคู้กันภัยอย่างสิ้นหวัง ทั้งหน้าเต็มไปด้วยคราบไคลเขม่าดำคล้ำ สิ่งเดียวที่เป็นตัวการยึดเหนี่ยวสติสัมปชัญญะนี้ให้ดำรงอยู่ได้คือความรัก “แอง...”
“ชู่ว...นิ่งซะ เราจะต้องรอดไปด้วยกัน” กระทั่งตนเองที่พูดเช่นนั้นยังไม่อาจวางใจให้เชื่อได้ มือใหญ่ควานหาอุปกรณ์ในชุดการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับพลทหารคล้ายกับคนที่กำลังจะบ้าตาย...เขา...ผู้เป็นทั้งพี่ชาย...ผู้เป็นทั้งกองกำลังปกป้องดินแดนนี้ แต่กลับทำอะไรไม่ได้ซักอย่างนอกจากกอดน้องเอาไว้แน่น ไม่อยากแม้แต่จะให้ร่างนั้นพยายามพูดกับเขา เพราะทุกครั้งที่ฝืน เจ้าตัวก็ยิ่งพ่นของเหลวออกมาหนักเรื่อยๆ
ได้แล้ว...
คว้าเจอแผ่นปิดแผลในที่สุด ทันทีที่ฉีกออกจากห่อ ตัวยาก็วาบขึ้นตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ ตาข่ายเรืองแสงสีฟ้าขึ้นช้าๆ ขณะที่โมเลกุลขนาดเล็กกำลังไหลเข้าซ่อมแซมเนื้อเยื่อหลังจากที่ทำการแปะลงโดยตรงกับบาดแผลหน้าท้อง “ไม่เป็นไร...นายจะไม่เป็นไร...เชื่อพี่”
“ค...แค่กๆๆ...พี่แอง...จีล” แม้ว่าการยิงต่อสู้กันและเสียงร้องลั่นระงมยังคงโหยหวนต่อเนื่อง ทว่าแต่ละพยางค์ที่ร่างในอ้อมแขนเปล่งออกมามันกลับแจ่มชัดและตราตรึงที่สุดในมโนสำนึก “ผม...นึกถึงนิทานที่...เราเคยฟังตอนเด็ก...อึ่ก”
กลิ่นเนื้อไหม้ร้อนฉ่าจากการโดนกระสุนแสงยังคงตีขึ้นจมูก ด้วยเหตุใดไม่รู้ได้ก้อนสะอื้นซึ่งเพียรพยายามกลั้นเอาไว้จนจุกคอกำลังทะลักทลายออกมาทุกถ้อยคำที่เขาหยิบยกขึ้นพูดคุยเพื่อดึงน้องชายให้คงสติ “ฮึ่ก...บลันซ์...ขอร้องล่ะ...อย่า...เพิ่งพูด” น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย...ในช่องอกบีบรัดทุกจังหวะหายใจเข้าออก ลางอะไรบางอย่างที่เขาพร่ำปฏิเสธมันมาตลอดกำลังวาดตัวผ่านดวงตาที่จ้องมองเขาคู่นี้ แก้วผลึกใสสะท้อนภาพของเขาเอง สีหน้าของเขาที่จ้องมองบลันซ์เป็นเช่นนี้เองหรือ...ตื่นกลัว หมดปัญญา ไร้หนทาง...ไม่ต่างจากไอ้ขี้แพ้ตัวหนึ่ง
“อ๊ากกก...”
“กรี้ดดด...”
ตูม...ตูม...ตูม...
พื้นดินสั่นสะเทือนรุนแรง แรงปะทะของวัตถุขนาดใหญ่กระชั้นเข้ามาเรื่อยๆ เขาดึงน้องชายให้หลบอยู่ข้างใต้ตัวเองมากกว่าเก่า ทั้งฝุ่นดินและพายุไฟฟ้าแตกเป็นสะเก็ดประกาย มีคำสั่งเรียกรวมกำลังพลตะเบ็งออกมาเป็นระยะ แต่เขาไม่สนใจอะไรอะไรอีกแล้ว...ช่างหัวมัน...ช่างหัวบ้านเมือง...ช่างหัวประเทศนี้...เขามีเพียงหน้าที่เดียว...ปกป้องคนที่รัก
อาคารถล่มต่อเป็นทอด เสียงการต่อสู้ชะงักลงเป็นระยะสลับกับอุกกาบาตตกไล่หลัง เปลวเพลิงลามเลียลุกท่วมหัว บลันซ์กระ
กระสนตัวขึ้นมาเหนือบ่า เด็กหนุ่มจ้องมองท้องฟ้าด้วยความหลงใหลเหมือนว่าจะขอจดจำมันเอาไว้ทุกอณู “...ดาว...สีแดง”
สวย...
ได้เพียงกล่าวแค่นั้นก่อนที่พี่ชายของเขาจะกระชับปืนแน่นเข้าแล้วเอี้ยวตัวยิงสวนศัตรูถัดไป ผ่านม่านหมอกสีเทาเข้มยังคงเห็นดาวหางขนาดใหญ่ที่เชื่อกันว่านำลางร้าย แต่เขาคิดว่ามันก็แค่โคจรมาประจวบเหมาะเวลาที่มีเหตุการณ์แบบนี้ก็เท่านั้น
กลุ่มอุกกาบาตจากหางของมันตกลงมาราวกับห่าฝน เส้นไฟวูบวาบตัดลงมายังพื้นพิภพนี้...หากมันจะเป็นภาพสุดท้ายของเขา...ก็ไม่เลวร้ายนักหรอก “อั่กกก...” ลิ่มเลือดถูกสำรอกไหลออกมาเต็มอก มือของเด็กหนุ่มค่อยๆ แตะเหนือข้อศอกพี่ชายที่ง่วนกับการอารักขาเขาให้หันกลับมา...ถ้าหากเขาตายแล้วกลายเป็นเทวดาอยู่กับดวงดาวบนฟ้า พี่ของเขาก็คงเป็นเทวดาที่ยังมีชีวิต “พี่ชาย...ผม...ขอโทษ”
ในเสี้ยววินาทีนั้นลมหายใจกระตุก แขนผอมๆ ทิ้งลงเหมือนลูกไม้ที่ผลิหลุดจากขั้ว ทุกอย่างเงียบเชียบและไหลไปอย่างเนิ่นช้า เขามองเห็นภาพตัวเองที่ทั้งกระชากทั้งทึ้งบลันซ์เหมือนกับตุ๊กตาผ้าที่แหว่งวิ่น
“บลันซ์!...ตื่น!...ตื่นเดี๋ยวนี้!!”
“บลันซ์!!!”
เสียงร้องเรียกที่ไม่มีวันส่งไปถึงดังก้อง ละอองหมอกสีแดงยังคงพร่างพราวนำพาหายนะสู่หัวใจที่กระจัดกระจายลง...ไม่มีอีกแล้ว
ไม่มีวัน...
[sci-fi/fantasy] STAR FALL [Prologue]
เรื่องนี้ออกแนวไซไฟ-แฟนตาซี (ไม่มีโรงเรียน/ไม่ออนไลน์/ไม่มีอาณาจักรเวทมนต์)
ไม่ใช่ผลงานครั้งแรก แต่เป็นนิยายเรื่องแรกที่ลงในพันทิป ฝากด้วยนะคะ ติชมได้เลยค่ะ ใช้นามปากกาเป็นตัวย่อว่า P.P.B.
STAR FALL
by P.P.B.
- Prologue -
“นายจะไม่เป็นอะไรทั้งนั้น...มองหน้าพี่” หัวใจเต้นกระหน่ำโครมครามเหมือนจะหลุดจากอก เสียงแหบพร่าแทรกผ่านสนามรบ มือทั้งสองข้างสั่นเทาขณะโรยตัวยาห้ามเลือดลงบนบาดแผลของร่างที่กำลังโรยแรง “บลันซ์...อย่าหลับ!” ทั้งพยายามตบแก้มเรียกสติให้ดวงตาสีน้ำเงินอ่อนจางนั้นยังคงอยู่ ทั้งเอ่ยเรียกชื่อไม่ขาดปาก...น้องชายเพียงคนเดียวของเขา ครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของเขา
บรึ้ม!
การระเบิดครั้งใหญ่ห่างออกไปไม่ไกลนัก เกลียวร้อนหมุนวนเผาไหม้ชั้นบรรยากาศจนหลอมเหลว ก้อนเมฆกลายเป็นม่านไฟและไอหมอกราวกับธารลาวาที่พลิกกลับตาลปัตรสู่เบื้องบน เศษซากเถ้าถ่านบิดเป็นริ้วเชือดเฉือนมวลอากาศ
“อ่อก...ก” เลือดข้นคลั่กสำลักออกมาไม่หยุด ร่างสูงของพี่ชายกำลังคุดคู้กันภัยอย่างสิ้นหวัง ทั้งหน้าเต็มไปด้วยคราบไคลเขม่าดำคล้ำ สิ่งเดียวที่เป็นตัวการยึดเหนี่ยวสติสัมปชัญญะนี้ให้ดำรงอยู่ได้คือความรัก “แอง...”
“ชู่ว...นิ่งซะ เราจะต้องรอดไปด้วยกัน” กระทั่งตนเองที่พูดเช่นนั้นยังไม่อาจวางใจให้เชื่อได้ มือใหญ่ควานหาอุปกรณ์ในชุดการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับพลทหารคล้ายกับคนที่กำลังจะบ้าตาย...เขา...ผู้เป็นทั้งพี่ชาย...ผู้เป็นทั้งกองกำลังปกป้องดินแดนนี้ แต่กลับทำอะไรไม่ได้ซักอย่างนอกจากกอดน้องเอาไว้แน่น ไม่อยากแม้แต่จะให้ร่างนั้นพยายามพูดกับเขา เพราะทุกครั้งที่ฝืน เจ้าตัวก็ยิ่งพ่นของเหลวออกมาหนักเรื่อยๆ
ได้แล้ว...
คว้าเจอแผ่นปิดแผลในที่สุด ทันทีที่ฉีกออกจากห่อ ตัวยาก็วาบขึ้นตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ ตาข่ายเรืองแสงสีฟ้าขึ้นช้าๆ ขณะที่โมเลกุลขนาดเล็กกำลังไหลเข้าซ่อมแซมเนื้อเยื่อหลังจากที่ทำการแปะลงโดยตรงกับบาดแผลหน้าท้อง “ไม่เป็นไร...นายจะไม่เป็นไร...เชื่อพี่”
“ค...แค่กๆๆ...พี่แอง...จีล” แม้ว่าการยิงต่อสู้กันและเสียงร้องลั่นระงมยังคงโหยหวนต่อเนื่อง ทว่าแต่ละพยางค์ที่ร่างในอ้อมแขนเปล่งออกมามันกลับแจ่มชัดและตราตรึงที่สุดในมโนสำนึก “ผม...นึกถึงนิทานที่...เราเคยฟังตอนเด็ก...อึ่ก”
กลิ่นเนื้อไหม้ร้อนฉ่าจากการโดนกระสุนแสงยังคงตีขึ้นจมูก ด้วยเหตุใดไม่รู้ได้ก้อนสะอื้นซึ่งเพียรพยายามกลั้นเอาไว้จนจุกคอกำลังทะลักทลายออกมาทุกถ้อยคำที่เขาหยิบยกขึ้นพูดคุยเพื่อดึงน้องชายให้คงสติ “ฮึ่ก...บลันซ์...ขอร้องล่ะ...อย่า...เพิ่งพูด” น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย...ในช่องอกบีบรัดทุกจังหวะหายใจเข้าออก ลางอะไรบางอย่างที่เขาพร่ำปฏิเสธมันมาตลอดกำลังวาดตัวผ่านดวงตาที่จ้องมองเขาคู่นี้ แก้วผลึกใสสะท้อนภาพของเขาเอง สีหน้าของเขาที่จ้องมองบลันซ์เป็นเช่นนี้เองหรือ...ตื่นกลัว หมดปัญญา ไร้หนทาง...ไม่ต่างจากไอ้ขี้แพ้ตัวหนึ่ง
“อ๊ากกก...”
“กรี้ดดด...”
ตูม...ตูม...ตูม...
พื้นดินสั่นสะเทือนรุนแรง แรงปะทะของวัตถุขนาดใหญ่กระชั้นเข้ามาเรื่อยๆ เขาดึงน้องชายให้หลบอยู่ข้างใต้ตัวเองมากกว่าเก่า ทั้งฝุ่นดินและพายุไฟฟ้าแตกเป็นสะเก็ดประกาย มีคำสั่งเรียกรวมกำลังพลตะเบ็งออกมาเป็นระยะ แต่เขาไม่สนใจอะไรอะไรอีกแล้ว...ช่างหัวมัน...ช่างหัวบ้านเมือง...ช่างหัวประเทศนี้...เขามีเพียงหน้าที่เดียว...ปกป้องคนที่รัก
อาคารถล่มต่อเป็นทอด เสียงการต่อสู้ชะงักลงเป็นระยะสลับกับอุกกาบาตตกไล่หลัง เปลวเพลิงลามเลียลุกท่วมหัว บลันซ์กระกระสนตัวขึ้นมาเหนือบ่า เด็กหนุ่มจ้องมองท้องฟ้าด้วยความหลงใหลเหมือนว่าจะขอจดจำมันเอาไว้ทุกอณู “...ดาว...สีแดง”
สวย...
ได้เพียงกล่าวแค่นั้นก่อนที่พี่ชายของเขาจะกระชับปืนแน่นเข้าแล้วเอี้ยวตัวยิงสวนศัตรูถัดไป ผ่านม่านหมอกสีเทาเข้มยังคงเห็นดาวหางขนาดใหญ่ที่เชื่อกันว่านำลางร้าย แต่เขาคิดว่ามันก็แค่โคจรมาประจวบเหมาะเวลาที่มีเหตุการณ์แบบนี้ก็เท่านั้น
กลุ่มอุกกาบาตจากหางของมันตกลงมาราวกับห่าฝน เส้นไฟวูบวาบตัดลงมายังพื้นพิภพนี้...หากมันจะเป็นภาพสุดท้ายของเขา...ก็ไม่เลวร้ายนักหรอก “อั่กกก...” ลิ่มเลือดถูกสำรอกไหลออกมาเต็มอก มือของเด็กหนุ่มค่อยๆ แตะเหนือข้อศอกพี่ชายที่ง่วนกับการอารักขาเขาให้หันกลับมา...ถ้าหากเขาตายแล้วกลายเป็นเทวดาอยู่กับดวงดาวบนฟ้า พี่ของเขาก็คงเป็นเทวดาที่ยังมีชีวิต “พี่ชาย...ผม...ขอโทษ”
ในเสี้ยววินาทีนั้นลมหายใจกระตุก แขนผอมๆ ทิ้งลงเหมือนลูกไม้ที่ผลิหลุดจากขั้ว ทุกอย่างเงียบเชียบและไหลไปอย่างเนิ่นช้า เขามองเห็นภาพตัวเองที่ทั้งกระชากทั้งทึ้งบลันซ์เหมือนกับตุ๊กตาผ้าที่แหว่งวิ่น “บลันซ์!...ตื่น!...ตื่นเดี๋ยวนี้!!”
“บลันซ์!!!”
เสียงร้องเรียกที่ไม่มีวันส่งไปถึงดังก้อง ละอองหมอกสีแดงยังคงพร่างพราวนำพาหายนะสู่หัวใจที่กระจัดกระจายลง...ไม่มีอีกแล้ว
ไม่มีวัน...