ป่วนออสซี่ “หลุยส์ สก๊อต”เบี้ยวคอนเสิร์ต แฟนคลับสาปส่ง
เหตุเกิดจากมีกระทู้ชื่อว่า “ความจริงเกี่ยวกับ “คอนเสิร์ต Raptor Australian Tour 2013” ในppantip.com ที่มีผู้ชื่อว่า “ผู้เสพข่าว” มาโพส เล่าถึงเหตุที่ “คอนเสิร์ต Raptor Australian Tour 2013” ของศิลปินแรพเตอร์ที่จะจัดขึ้นที่ออสเตรเลีย ทำไมถึงถูกผู้จัด แจ้งยกเลิก กะทันหัน และทำเอาแฟนคลับรู้สึกผิดหวังไปตามๆกันว่า
“ขออนุญาต…..แชร์เรื่องที่บิดเบือนความจริงเกี่ยวกับ “คอนเสิร์ต Raptor Australian Tour 2013” เนื่องจากได้ข่าวมาจากวงในของ “ทางผู้จัดออสเตรเลีย” เหมือนกันว่า การจัดงานครั้งนี้ “ไม่ได้ถูกต้อง” ตามขั้นตอนเหมือนที่เอาศิลปินคนคนอื่นๆ ไป.....ตัวทางผู้จัดโลภเองต่างหาก ที่ “คิดสั้น” โดย อ้างว่าสนิทกับตัวศิลปิน (จอนนี่ อันวา) และได้ติดต่อโดยตรงกับทางศิลปิน (จอนนี่ อันวา) เอง เพราะคิดแค่ว่าจะได้ค่าตัวในราคาที่ถูก เป็นการข้ามขั้นตอนโดยไม่คำนึงถึงเรื่องของ “ลิขสิทธิ์” และที่สำคัญทางผู้จัดออสเตรเลียได้ขายบัตรไปก่อนที่จะขอลิขสิทธิ์ ซึ่ง “ไม่มีที่ไหนเค้าทำกัน” มันเป็นการข้ามขั้นตอนที่ดูย่ำแย่มาก!!
แล้วถามว่า…..ถ้าติดต่อกันโดยวิธีแบบนี้ ไม่มีลิขสิทธิ์ อาศัยแค่ความโลภ อยากได้เงิน แล้ว “ศิลปิน” ที่ไหนจะกล้า “ขึ้นเวที” เพราะถ้าขึ้นเวทีขึ้นมาโดนลิขสิทธิ์ฟ้อง “ใครรับผิดชอบหล่ะ??” เอาเงินค่าตัวที่จ้างมาจ่ายคงยังไม่พอเลยจิงมั้ย!! ที่พอรู้มาคร่าวๆ และอยากให้ทุกคนอ่านเรื่องราวทั้งหมด และลองชั่งน้ำหนักดูถึงความเป็นจริงที่ถูกบิดเบือนของข่าวที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ อยากให้ลองมองดูอีกแง่มุมนึง!!
ป.ล. : สัญญาว่าจ้าง จะสมบูรณ์แบบได้นั้น จะต้องมีการลง “ลายมือชื่อ” ของ ผู้จ้าง (ผู้จัดออสเตรเลีย) ผู้ถูกว่าจ้าง (ศิลปิน Raptor) และพยาน แต่ลองนึกสักนิดนะว่า Raptor ไม่ได้มีแค่ “จอนนี่คนเดียว” .... ลองคิดเล่นๆ ดู
จาก : ผู้เสพข่าว”
ต่อมามีผู้ใช้ชื่อว่า kzkungz ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผู้จัดงาน มาชี้แจงถึงเบื้องลึกเบื้องหลัง ว่าผู้จัดงานทำดีที่สุดแล้ว พร้อมกับถามผู้ตั้งกระทู้ว่า “งั้นรบกวนคุณช่วยอธิบายเรื่องนี้ด้วยละกันนะคะ”
“ขออนุญาต เล่าถึงเหตุการณ์ที่ทางทีมงานออสเตรเลียได้เจอ และสาเหตุที่ทำให้ต้องยกเลิกงานคอนเสิร์ตแรกเริ่มทีมงานได้ติดต่องานผ่านทาง จอนนี่ เนื่องจากรู้จักกันเป็นการส่วนตัว ซึ่งจอนนี่ก็ตกปากรับคำทั้ง เรื่องค่าตัว คิวงาน และรายละเอียดงานต่างๆ พร้อมทั้งเซ็นสัญญาค่าตัว เป็นจำนวนเงิน 360,000 บาท และรับเงินมัดจำ ทางทีมงานจึงจัดการเตรียมงานต่างๆ ทั้งโปสเตอร์ก็เป็นรูปที่ได้มาจากทางจอนนี่ จองสถานที่จัดงาน วีซ่า ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ซึ่งเป็นงานที่จะเกิดขึ้นด้วยกันถึง3เมืองคือซิดนีย์ เมลเบริ์นและบริสเบน
ต่อมาทางหลุยส์ส่ง ผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัว คุณสุ ชื่อจริง สุภา เข้ามาเจรจากับทีมเพื่อขอขึ้นค่าตัวอีกเท่านึง ในราคา 700,000 บาท และให้เหตุผลว่าหลุยส์เป็นพระเอกแล้ว และอยู่ไทยแค่งานละครและถ่ายแบบก็ได้เงินมากกว่ามาทำงานที่ออสเตรเลีย ไม่พอเท่านั้น ค่ายอดีตค่ายต้นสังกัด อาร์เอส ก็ได้ยื่นขอค่าลิขสิทธิ์เป็นจำนวนเงินถึง9แสนบาทไม่รวมภาษี ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก ทีมงานพยายามติดต่อทางบริษัทเพื่อขอต่อรอง ราคาให้เหลือ 600,000 บาทโดยทำตามคำแนะนำของเมเนเจอร์หลุยว่า จ่ายแค่ 500,000 บาทก็พอแล้ว ทีมงานได้ติดต่อกลับไปอีกรอบ แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะเหมือนถูกปิดกั้นไม่สามารถติดต่อใครได้เลย การต่อลองไปทางค่ายใช้เวลาถึง 3 อาทิตย์ก็ยังไม่รู้ผล พอมาถึงสับดาห์สุดท้ายทางค่ายปีบให้ทางเราจ่ายเงินจำนวนเต็มก่อนเดินทาง สุดท้ายทางเมเนเจอร์กลับบอกว่าถึงทางเราจ่ายเงินจำนวนเต็มก็ไม่แน่ใจว่า หลุยส์จะสามารถเดินทางได้ เพราะรับงานไว้ ...
ทางทีมงานจึงจำเป็นต้องขอยกเลิกงาน เพราะรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไม่ไหว. เรื่องความเสียหายไม่ต้องพูดถึง และยังความรู้สึกของแฟนเพลงที่รอชมคอนเสิร์ต .....สิ่งที่ทางทีมงานเสียใจคือ ทางทีมพยายามประสานงานมาเป็นอย่างดีพยายามทำทุกอย่างให้คอนเสิร์ตเกิดขึ้น แต่สุดท้ายสู้อำนาจเงินไม่ได้ ...ทั้งที่ให้คิวและรับงานไว้แล้ว กลับรับงานที่ไทยเพราะคงได้เงินมากกว่า โดยไม่สนใจว่าจะมีใครเสียหายหรือเดือดร้อนมากขนาดไหน ทางจอนนี่ก็พลอยผิดใจกับเพื่อนที่คบกันมากว่า20ปี การจัดงานคอนเสิร์ตในต่างประเทศ ทีมงานต้องเตรียมงานล่วงหน้า เป็นเวลาหลายเดือนเพราะขั้นตอนการขอวีซ่านั้นไม่ใช่เรื่องง่ายของประเทศ ออสเตรเลียและต้องใช้เวลา ทางทีมงานรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากและหวังว่าเรื่อง ราวจะเป็นอุทาหรณ์ให้ทีมงานอื่นๆได้ระวังและหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่น นี้ขึ้นกับทีมงานอื่น
By : ทีมงานจัดคอนเสริ์ตแรพเตอร์ ประเทศออสเตรเลีย
ป.ล.เรื่องที่คุณโพสต์ดิฉันอ่านเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่ไหนๆ ถ้าคุณทราบข่าวจากวงในฝากเอาเรื่องนี้ไปถามคนวงในแล้วนำมาตอบให้หน่อยนะคะ เรื่องที่อยู่ๆ ก็ขึ้นค่าตัวทั้งที่ได้รับเงินมัดจำไปแล้ว ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์เพลงดิฉันรับทราบเรียบร้อยแล้วค่ะว่าถ้าไม่ได้เป็น ศิลปินของค่ายแล้ว แต่ถ้าเอาเพลงของค่ายมาร้องก็ต้องจ่ายเงิน ขอบคุณล่วงหน้านะคะ”
สรุปว่างานนี้คนที่ถูกกล่าวหาว่าตกเป็นต้นเหตุคือดารานักร้องหนุ่ม “หลุยส์ สก๊อตต์” ซึ่งทางทีมข่าว “ดาราเดลี่” จะติดตามข่าวนี้มาแจ้งให้ทราบกันอีกครั้งหนึ่ง
Cr:
http://www.daradaily.com/news/37416/read/ 
ป่วนออสซี่ “หลุยส์ สก๊อต”เบี้ยวคอนเสิร์ต แฟนคลับสาปส่ง
เหตุเกิดจากมีกระทู้ชื่อว่า “ความจริงเกี่ยวกับ “คอนเสิร์ต Raptor Australian Tour 2013” ในppantip.com ที่มีผู้ชื่อว่า “ผู้เสพข่าว” มาโพส เล่าถึงเหตุที่ “คอนเสิร์ต Raptor Australian Tour 2013” ของศิลปินแรพเตอร์ที่จะจัดขึ้นที่ออสเตรเลีย ทำไมถึงถูกผู้จัด แจ้งยกเลิก กะทันหัน และทำเอาแฟนคลับรู้สึกผิดหวังไปตามๆกันว่า
“ขออนุญาต…..แชร์เรื่องที่บิดเบือนความจริงเกี่ยวกับ “คอนเสิร์ต Raptor Australian Tour 2013” เนื่องจากได้ข่าวมาจากวงในของ “ทางผู้จัดออสเตรเลีย” เหมือนกันว่า การจัดงานครั้งนี้ “ไม่ได้ถูกต้อง” ตามขั้นตอนเหมือนที่เอาศิลปินคนคนอื่นๆ ไป.....ตัวทางผู้จัดโลภเองต่างหาก ที่ “คิดสั้น” โดย อ้างว่าสนิทกับตัวศิลปิน (จอนนี่ อันวา) และได้ติดต่อโดยตรงกับทางศิลปิน (จอนนี่ อันวา) เอง เพราะคิดแค่ว่าจะได้ค่าตัวในราคาที่ถูก เป็นการข้ามขั้นตอนโดยไม่คำนึงถึงเรื่องของ “ลิขสิทธิ์” และที่สำคัญทางผู้จัดออสเตรเลียได้ขายบัตรไปก่อนที่จะขอลิขสิทธิ์ ซึ่ง “ไม่มีที่ไหนเค้าทำกัน” มันเป็นการข้ามขั้นตอนที่ดูย่ำแย่มาก!!
แล้วถามว่า…..ถ้าติดต่อกันโดยวิธีแบบนี้ ไม่มีลิขสิทธิ์ อาศัยแค่ความโลภ อยากได้เงิน แล้ว “ศิลปิน” ที่ไหนจะกล้า “ขึ้นเวที” เพราะถ้าขึ้นเวทีขึ้นมาโดนลิขสิทธิ์ฟ้อง “ใครรับผิดชอบหล่ะ??” เอาเงินค่าตัวที่จ้างมาจ่ายคงยังไม่พอเลยจิงมั้ย!! ที่พอรู้มาคร่าวๆ และอยากให้ทุกคนอ่านเรื่องราวทั้งหมด และลองชั่งน้ำหนักดูถึงความเป็นจริงที่ถูกบิดเบือนของข่าวที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ อยากให้ลองมองดูอีกแง่มุมนึง!!
ป.ล. : สัญญาว่าจ้าง จะสมบูรณ์แบบได้นั้น จะต้องมีการลง “ลายมือชื่อ” ของ ผู้จ้าง (ผู้จัดออสเตรเลีย) ผู้ถูกว่าจ้าง (ศิลปิน Raptor) และพยาน แต่ลองนึกสักนิดนะว่า Raptor ไม่ได้มีแค่ “จอนนี่คนเดียว” .... ลองคิดเล่นๆ ดู
จาก : ผู้เสพข่าว”
ต่อมามีผู้ใช้ชื่อว่า kzkungz ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผู้จัดงาน มาชี้แจงถึงเบื้องลึกเบื้องหลัง ว่าผู้จัดงานทำดีที่สุดแล้ว พร้อมกับถามผู้ตั้งกระทู้ว่า “งั้นรบกวนคุณช่วยอธิบายเรื่องนี้ด้วยละกันนะคะ”
“ขออนุญาต เล่าถึงเหตุการณ์ที่ทางทีมงานออสเตรเลียได้เจอ และสาเหตุที่ทำให้ต้องยกเลิกงานคอนเสิร์ตแรกเริ่มทีมงานได้ติดต่องานผ่านทาง จอนนี่ เนื่องจากรู้จักกันเป็นการส่วนตัว ซึ่งจอนนี่ก็ตกปากรับคำทั้ง เรื่องค่าตัว คิวงาน และรายละเอียดงานต่างๆ พร้อมทั้งเซ็นสัญญาค่าตัว เป็นจำนวนเงิน 360,000 บาท และรับเงินมัดจำ ทางทีมงานจึงจัดการเตรียมงานต่างๆ ทั้งโปสเตอร์ก็เป็นรูปที่ได้มาจากทางจอนนี่ จองสถานที่จัดงาน วีซ่า ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ซึ่งเป็นงานที่จะเกิดขึ้นด้วยกันถึง3เมืองคือซิดนีย์ เมลเบริ์นและบริสเบน
ต่อมาทางหลุยส์ส่ง ผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัว คุณสุ ชื่อจริง สุภา เข้ามาเจรจากับทีมเพื่อขอขึ้นค่าตัวอีกเท่านึง ในราคา 700,000 บาท และให้เหตุผลว่าหลุยส์เป็นพระเอกแล้ว และอยู่ไทยแค่งานละครและถ่ายแบบก็ได้เงินมากกว่ามาทำงานที่ออสเตรเลีย ไม่พอเท่านั้น ค่ายอดีตค่ายต้นสังกัด อาร์เอส ก็ได้ยื่นขอค่าลิขสิทธิ์เป็นจำนวนเงินถึง9แสนบาทไม่รวมภาษี ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก ทีมงานพยายามติดต่อทางบริษัทเพื่อขอต่อรอง ราคาให้เหลือ 600,000 บาทโดยทำตามคำแนะนำของเมเนเจอร์หลุยว่า จ่ายแค่ 500,000 บาทก็พอแล้ว ทีมงานได้ติดต่อกลับไปอีกรอบ แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะเหมือนถูกปิดกั้นไม่สามารถติดต่อใครได้เลย การต่อลองไปทางค่ายใช้เวลาถึง 3 อาทิตย์ก็ยังไม่รู้ผล พอมาถึงสับดาห์สุดท้ายทางค่ายปีบให้ทางเราจ่ายเงินจำนวนเต็มก่อนเดินทาง สุดท้ายทางเมเนเจอร์กลับบอกว่าถึงทางเราจ่ายเงินจำนวนเต็มก็ไม่แน่ใจว่า หลุยส์จะสามารถเดินทางได้ เพราะรับงานไว้ ...
ทางทีมงานจึงจำเป็นต้องขอยกเลิกงาน เพราะรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไม่ไหว. เรื่องความเสียหายไม่ต้องพูดถึง และยังความรู้สึกของแฟนเพลงที่รอชมคอนเสิร์ต .....สิ่งที่ทางทีมงานเสียใจคือ ทางทีมพยายามประสานงานมาเป็นอย่างดีพยายามทำทุกอย่างให้คอนเสิร์ตเกิดขึ้น แต่สุดท้ายสู้อำนาจเงินไม่ได้ ...ทั้งที่ให้คิวและรับงานไว้แล้ว กลับรับงานที่ไทยเพราะคงได้เงินมากกว่า โดยไม่สนใจว่าจะมีใครเสียหายหรือเดือดร้อนมากขนาดไหน ทางจอนนี่ก็พลอยผิดใจกับเพื่อนที่คบกันมากว่า20ปี การจัดงานคอนเสิร์ตในต่างประเทศ ทีมงานต้องเตรียมงานล่วงหน้า เป็นเวลาหลายเดือนเพราะขั้นตอนการขอวีซ่านั้นไม่ใช่เรื่องง่ายของประเทศ ออสเตรเลียและต้องใช้เวลา ทางทีมงานรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากและหวังว่าเรื่อง ราวจะเป็นอุทาหรณ์ให้ทีมงานอื่นๆได้ระวังและหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่น นี้ขึ้นกับทีมงานอื่น
By : ทีมงานจัดคอนเสริ์ตแรพเตอร์ ประเทศออสเตรเลีย
ป.ล.เรื่องที่คุณโพสต์ดิฉันอ่านเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่ไหนๆ ถ้าคุณทราบข่าวจากวงในฝากเอาเรื่องนี้ไปถามคนวงในแล้วนำมาตอบให้หน่อยนะคะ เรื่องที่อยู่ๆ ก็ขึ้นค่าตัวทั้งที่ได้รับเงินมัดจำไปแล้ว ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์เพลงดิฉันรับทราบเรียบร้อยแล้วค่ะว่าถ้าไม่ได้เป็น ศิลปินของค่ายแล้ว แต่ถ้าเอาเพลงของค่ายมาร้องก็ต้องจ่ายเงิน ขอบคุณล่วงหน้านะคะ”
สรุปว่างานนี้คนที่ถูกกล่าวหาว่าตกเป็นต้นเหตุคือดารานักร้องหนุ่ม “หลุยส์ สก๊อตต์” ซึ่งทางทีมข่าว “ดาราเดลี่” จะติดตามข่าวนี้มาแจ้งให้ทราบกันอีกครั้งหนึ่ง
Cr:http://www.daradaily.com/news/37416/read/