ไปดูบ้านมาโครงการนึงค่ะ เนื้อที่กับราคาก็โอเคนะค่ะเลยตั้งใจจะจองเลยค่ะ ราคาอยู่ที่ 2,900,000 บาท ราคาโปรโมชั่นค่ะเนื้อที่ประมาณ 40กว่า ตร.ว. ค่ะ ดูแล้วก็สมน้ำสมเนื้อนะค่ะ แต่พอดีด้านหน้าหันไปทางทิศตะวันออก และด้านหลังทิศตะวันตก ก็เลยบ่นกับเซลล์อ่ะค่ะว่าถ้าจะร้อนน่าดูเพราะด้านหน้าและด้านหลังก็ไม่มี สิ่งใดมาบังเลยค่ะ ก็เลยพูดเปรยๆ กับเซลล์ว่ายังมีบ้านที่หันไปทิศเหนือหรือทิศใต้หรือเปล่า แต่ตอนที่ดูแปลนโครงการนั้นเราเห็นว่าเต็มแล้วแต่คิดไว้เผื่อมี แล้วก็เป็นไปอย่างที่คิดเซลล์แนะนำอีกหลังเลยค่า ทำเลหันไปทิศใต้ค่ะ ไม่ต้องโดนแดดเต็มๆ แต่เนื้อที่เล็กกว่าไม่ถึง ตร.ว. แล้วราคาแพงกว่า โดยแจ้งว่ามีคนจองไปแล้ว แต่กู้ไม่ผ่าน เสนอจะขายต่อให้โดยไม่เอาอะไรเพิ่มสักบาทเดียว แต่เค้าได้ผ่อนดาวน์ไปแล้ว 150,0000 บาท (ตอนเจ้าเก่าซื้อราคาอยู่ที่ 4,300,000) พอเราฟังราคาก็เริ่มถอดใจ แต่ก็ต่อทีเล่นทีจริงว่าน่าจะเป็นราคาโปรโมชั่น ไหนๆ วันนี้ก็จัดโปรโมชั่นอยู่ ก็ตื้ออยู่พอสมควรเซลล์จึงยอมใจอ่อน บอกว่าจะลองโทรไปขอหัวหน้าให้ พอเซลล์คุยกับหัวหน้าเสร็จ ก็บอกเราว่าหัวหน้าอนุมัติราคาโปรโมชั่นค่ะซึ่งก็คือราคา 2,900,000 บาท แต่มีข้อแม้นะค่ะ เราจะต้องจ่ายเงินดาวน์คืนลูกค้าเก่า จำนวน 150,000 บาท ต่างหาก ซึ่งจะพอเป็นไปได้ไหมค่ะว่าลูกค้าเก่าเค้าจ่ายดาวน์ไปแล้วราคานี้จริง หรือว่าบ้านหลังนี้ราคาตอนแรกจะเป็น 2,900,000 อยู่แล้ว และขายสิทธิ์เราเพื่อเก็งกำไร เพราะในสัญญาจองเค้าระบุว่า เราซื้อบ้านหลังนี้ ราคา 2,900,000 บาท ทำไมเค้าไม่ลงราคา 3,140,000 (2,900,000 + 150,000) ซึ่งจะเป็นราคาที่เราจ่ายจริง แต่ก็จ่ายเงินจองไปแล้วล่ะค่ะ แต่มันรู้สึกแปลกๆ อยู่ ไม่แน่ใจว่ากรณีมีอยู่จริงหรือเปล่า  เพราะถ้าเค้าจะระบุในสัญญาซื้อขายว่า เราซื้อในราคา 2,900,000 บาท ทั้งที่เราจ่ายจริงมากกว่านั้น แต่เรายอมจ่ายแพงกว่า แต่อยากจะต่อราคาลงมาอีกหน่อย ถ้าเค้าไม่ได้ดาว์นไปแล้วจริง  กรณีนี้เค้าจะมีสิทธิเอาบ้านที่เราจองไว้ไป ขายให้เจ้าอื่นต่อรึเปล่าคะ (เค้าชอบพูดว่ามีคนรอจะเอา หรือลงขายเน็ทก็ขายได้แล้ว) หรือว่าเราจะทำเฉยๆ และจ่ายไปดีค่ะ