คือ...เมื่อวานนี้ขณะขับรถมอเตอร์ไซต์( Scoopy ) เดินทางออกจากออฟฟิคเพื่อกลับบ้าน
ด้วยความที่ถนนเปียก บวกกับการขับขึ้นเนินสะพานข้ามคลอง(ไม่ชัน) และเป็นทางเข้าโค้ง(40 องศา)
ความเร็วรถขณะวิ่งก็ไม่มากเพียงแค่ 20-30 กม./ชม. เพราะรถเยอะ คือขับเนิบๆตามกันไป โดยอยู่ช่องกลางระหว่างรถเก๋ง (ช่วงท้ายๆรถ)
จู่ๆพอเข้าช่วงกลางๆโค้ง ล้อรถด้านหน้าเริ่มลื่นไถลไปข้างหน้าด้านซ้าย เหมือนกับว่าล้อมันลอยขึ้นไม่แตะพื้นถนน
ผมก็เลยพยายามหันให้มันเข้ามาในเลน เพราะกลัวจะไปเฉี่ยวรถด้านซ้าย แต่กลับกลายเป็นว่าพอหักปุ๊ป รถก็เสียหลักล้มไปทันที
คือเกิดความสงสัยว่าทำไมล้มได้ เพราะทุกๆครั้งที่ขับก็ไม่เห็นจะผิดปกติอะไรเลย แต่วันนี้กลับต่างไป จะว่าเพราะถนนลื่นเพราะเปียกก็ไม่ใช่
เพราะขับมาหลายครั้งก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร แต่ยิ่งแปลกไปกว่านั้นคือ รถที่ล้มไปนั้นไม่มีแม้แต่รอยถลอกแม้แต่น้อย
ก็ยังเถียงกับแฟนอยู่ว่าล้มได้ยังไง (แฟนซ้อนหลัง) สองคนผมไม่มีได้รับบาดเจ็บอะไร แค่ปวดๆแสบตรงฝามือนิดหน่อย
เพราะตอนล้มไปน่าจะเอามือไปค้ำกันกระแทกไว้ สาเหตุก็มีหลายอย่างที่แฟนสงสัยคือ

1.ลมยางล้อหลังที่ค่อนข้างอ่อน (ล้อแม๊ก 5 แกนจากศูนย์)
2.สองคนนั่งชิดไปด้านหลังเกินไป เพราะแฟนยืนยันเลยว่าก้นติดกับเหล็กยึดด้านท้ายรถ
3.รถวิ่งชนเข้ากับเนินรอยต่อระหว่างทางลาดยางกับถนนตัวสะพาน(ปูน)

ส่วนตัวผมว่า่น่าจะเป็นเพราะลมยางล้อหลัง บวกกับน้ำหนักมากกว่า
แต่ก็แอบอดสงสัยไม่ได้ว่าเกี่ยวกับล้อแม๊กด้วยรึเปล่า
เดาเอาแบบคนไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถมอไซค์เลยครับ  หากใครมีข้อแนะนำดีๆ รบกวนมา ณ ที่นี้ด้วยครับ