เอเอฟพี – กองกำลังปลดปล่อยซีเรีย (Free Syrian Army –FSA) ซึ่งเป็นองค์กรฝ่ายกบฏ ออกมาปฏิเสธข้อเสนอของรัสเซียที่แนะให้รัฐบาลซีเรียส่งมอบอาวุธเคมีแก่นานาชาติ โดยยืนยืนว่าต้องการเห็นพรรคพวกของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด ถูกลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม วันนี้ (12)
กลุ่มแนวร่วมแห่งชาติซีเรีย (Syrian National Coalition – SNC) ก็ตั้งข้อสงสัยว่าแผนการของมอสโกอาจจะเป็นเพียง “กลยุทธ์ซื้อเวลา” ให้แก่ประธานาธิบดี อัสซาด เท่านั้น
พล.อ.เซลิม อิดรีส ผู้บัญชาการเอฟเอสเอ มีถ้อยแถลงผ่านคลิปวิดีโอซึ่งเผยแพร่ในยูทิวบ์ว่า “กองกำลังปลดปล่อยซีเรียขอประกาศไม่ยอมรับแผนของรัสเซีย ซึ่งกำหนดให้รัฐบาลซีเรียส่งมอบอาวุธเคมีไปอยู่ในความดูแลของนานาชาติ”
อิดรีส เตือนให้มหาอำนาจทั้งหลาย “อย่าพอใจเพียงแค่ปลดอาวุธเคมีซึ่งเป็นเครื่องมือก่ออาชญากรรม แต่จะต้องนำตัวผู้กระทำผิดไปขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศด้วย หลังจากที่คนผู้นั้นก็ยอมรับแล้วว่า ครอบครองอาวุธจริง และพร้อมจะทำลายมันทิ้ง”
ด้าน เอสเอ็นซี ก็ตั้งคำถามถึง “แรงจูงใจ” ของรัสเซียที่ทุกคนก็ทราบว่าเป็นมิตรที่เหนียวแน่นของ อัสซาด พร้อมชี้ว่าข้อเสนอของมอสโก “ไม่อาจรับได้” ถ้าไม่มีการเรียกร้องให้นำตัวผู้ก่ออาชญากรรมต่อชาวซีเรียมาลงโทษด้วย
ทั้งนี้ ทุกแผนการที่นำมาใช้จะต้องเป็นไปตามบทบัญญัติที่ 7 ของกฎบัตรสหประชาชาติ ซึ่งอนุมัติให้ใช้กำลังทหารเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการด้านมนุษยธรรมได้
เอสเอ็นซี เตือนว่า “หากมาตรการที่นานาชาติใช้ตอบโต้ซีเรียไม่มีศักยภาพและไม่ได้ผลจริง อิหร่าน, เกาหลีเหนือ และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน อาจถือว่าเป็นการเปิดไฟเขียวให้พวกเขาผลิตและใช้อาวุธเคมีในอนาคต”
ด้านผู้บัญชาการ เอฟเอสเอ ก็วิงวอนให้นานาชาติเร่งส่งอาวุธมาช่วยกบฏ “ปลดแอกซีเรีย” จากระบอบอัสซาด และสั่งให้นักรบของตนยกระดับการต่อสู้ในทุกภูมิภาคของประเทศ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (9) รัสเซียได้ยื่นข้อเสนอให้ซีเรียส่งมอบอาวุธเคมีทั้งหมดให้อยู่ในความดูแลของนานาชาติ ขณะที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ก็ประกาศชะลอแผนโจมตีซีเรียชั่วคราวเพื่อให้โอกาสกับวิธีทางการทูตของมอสโก
วานนี้ (11) รัสเซียได้ประกาศ “แผน 4 ขั้น” ซึ่งจะทำให้ซีเรียเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี (OPCW) จากนั้นดามัสกัสจะต้องยอมเผยสถานที่เก็บซ่อนอาวุธเคมีทั้งหมด และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ OPCW เข้าไปตรวจสอบ ก่อนจะมีการตัดสินใจร่วมกันว่าจะทำลายอาวุธร้ายแรงเหล่านั้นด้วยวิธีใด
องค์การสหประชาชาติได้ส่งคณะผู้ตรวจสอบเข้าไปสืบหาหลักฐานการใช้อาวุธเคมีที่กรุงดามัสกัสแล้ว ซึ่งล่าสุดรัฐบาลฝรั่งเศสเผยว่า น่าจะมีการแถลงผลตรวจสอบในวันจันทร์หน้า (16)
ที่มา
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000115212
__________________________________________________
จะเกิดอะไรขึ้นอีกไหมเนี๊ย
“กองกำลังปลดปล่อยซีเรีย” ปฏิเสธแผนของมอสโก-ย้ำ รบ.อัสซาดต้องได้รับโทษ
กลุ่มแนวร่วมแห่งชาติซีเรีย (Syrian National Coalition – SNC) ก็ตั้งข้อสงสัยว่าแผนการของมอสโกอาจจะเป็นเพียง “กลยุทธ์ซื้อเวลา” ให้แก่ประธานาธิบดี อัสซาด เท่านั้น
พล.อ.เซลิม อิดรีส ผู้บัญชาการเอฟเอสเอ มีถ้อยแถลงผ่านคลิปวิดีโอซึ่งเผยแพร่ในยูทิวบ์ว่า “กองกำลังปลดปล่อยซีเรียขอประกาศไม่ยอมรับแผนของรัสเซีย ซึ่งกำหนดให้รัฐบาลซีเรียส่งมอบอาวุธเคมีไปอยู่ในความดูแลของนานาชาติ”
อิดรีส เตือนให้มหาอำนาจทั้งหลาย “อย่าพอใจเพียงแค่ปลดอาวุธเคมีซึ่งเป็นเครื่องมือก่ออาชญากรรม แต่จะต้องนำตัวผู้กระทำผิดไปขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศด้วย หลังจากที่คนผู้นั้นก็ยอมรับแล้วว่า ครอบครองอาวุธจริง และพร้อมจะทำลายมันทิ้ง”
ด้าน เอสเอ็นซี ก็ตั้งคำถามถึง “แรงจูงใจ” ของรัสเซียที่ทุกคนก็ทราบว่าเป็นมิตรที่เหนียวแน่นของ อัสซาด พร้อมชี้ว่าข้อเสนอของมอสโก “ไม่อาจรับได้” ถ้าไม่มีการเรียกร้องให้นำตัวผู้ก่ออาชญากรรมต่อชาวซีเรียมาลงโทษด้วย
ทั้งนี้ ทุกแผนการที่นำมาใช้จะต้องเป็นไปตามบทบัญญัติที่ 7 ของกฎบัตรสหประชาชาติ ซึ่งอนุมัติให้ใช้กำลังทหารเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการด้านมนุษยธรรมได้
เอสเอ็นซี เตือนว่า “หากมาตรการที่นานาชาติใช้ตอบโต้ซีเรียไม่มีศักยภาพและไม่ได้ผลจริง อิหร่าน, เกาหลีเหนือ และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน อาจถือว่าเป็นการเปิดไฟเขียวให้พวกเขาผลิตและใช้อาวุธเคมีในอนาคต”
ด้านผู้บัญชาการ เอฟเอสเอ ก็วิงวอนให้นานาชาติเร่งส่งอาวุธมาช่วยกบฏ “ปลดแอกซีเรีย” จากระบอบอัสซาด และสั่งให้นักรบของตนยกระดับการต่อสู้ในทุกภูมิภาคของประเทศ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (9) รัสเซียได้ยื่นข้อเสนอให้ซีเรียส่งมอบอาวุธเคมีทั้งหมดให้อยู่ในความดูแลของนานาชาติ ขณะที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ก็ประกาศชะลอแผนโจมตีซีเรียชั่วคราวเพื่อให้โอกาสกับวิธีทางการทูตของมอสโก
วานนี้ (11) รัสเซียได้ประกาศ “แผน 4 ขั้น” ซึ่งจะทำให้ซีเรียเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อการห้ามใช้อาวุธเคมี (OPCW) จากนั้นดามัสกัสจะต้องยอมเผยสถานที่เก็บซ่อนอาวุธเคมีทั้งหมด และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ OPCW เข้าไปตรวจสอบ ก่อนจะมีการตัดสินใจร่วมกันว่าจะทำลายอาวุธร้ายแรงเหล่านั้นด้วยวิธีใด
องค์การสหประชาชาติได้ส่งคณะผู้ตรวจสอบเข้าไปสืบหาหลักฐานการใช้อาวุธเคมีที่กรุงดามัสกัสแล้ว ซึ่งล่าสุดรัฐบาลฝรั่งเศสเผยว่า น่าจะมีการแถลงผลตรวจสอบในวันจันทร์หน้า (16)
ที่มา
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000115212
__________________________________________________
จะเกิดอะไรขึ้นอีกไหมเนี๊ย