การที่ผมมีข้อเสนอว่าชนชั้นกลางที่มีรายได้มากกว่า 30,000 บาทต่อเดือนขึ้นไปถึงควรเข้าซื้อ Big Bike ได้นั้นไม่ใช่เรื่องเกินเลย
หรือด้นตัวเลขขึ้นมาลอยๆ ทุกอย่างมีที่มาที่ไป ทำตามหลักวิชา และเป็นที่ยอมรับของนักบริหารการเงินทั่วไปทั่วโลกมาแล้ว
ยึดหลักการจัดการด้านการเงินของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นั้น จะให้แบ่งเงินรายได้ออกเป็น 4 ส่วนดังนี้
1. เงินเพื่อการใช้จ่าย (Expense) 50%
2. เงินเพื่อการลงทุน (Investment) 20%
3. เงินเพื่อการออม (Saving) 20%
4. เงินเพื่อการสงเคราะห์ (Supported Family) 10%
ดังนั้นชนชั้นกลางกฏุมภีทั่วไปมีรายได้ที่ 30,000 บาทต่อเดือนจะต้องมีการจัดสรรเงินรายได้ดังนี้
คราวนี้ เมื่อการความต้องการเข้าซื้อ Big Bike แล้วลองมาดูค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นกัน
สมมุติให้เข้าซื้อ ER6N (ปล. รถที่มี cc น้อยกว่า 600 ไม่ถือว่าเป็นรถ BB)
รถคันนี้ต้องดาวน์ที่ 51,000 บาท (ไม่ต้องเถียงว่าดาวน์น้อยกว่านี้ได้ ถ้าดาวน์น้อยกว่านี้ต้องมีคนค้ำ หาได้เหรอในสังคมปัจจุบัน)
ดูตารางผ่อน
เลือกผ่อนแบบชิวๆแล้วนะ 3 ปี หรือ 36 งวด
ทำไมต้องผ่อน 36 งวด 48 งวดไม่ได้เหรอ ตอบว่าไม่ได้ เพราะ 48 งวดมันสำหรับรถยนต์ 4 ล้อ มอไซด์มี 2 ล้อ จริงๆแล้วควรผ่อนแค่ 2 ปี โดยเฉลี่ยปีละล้อ นี่นับว่ากรุณาในสถานเบาแล้ว
จะเห็นว่าต้องผ่อน 6,316 บาทต่อเดือน
อันนี้ผมอนุญาติให้ใช้เงินเพื่อการลงทุนมาผ่อนได้ คนรายได้ 30,000 ต้องลงทุนเดือนละ 6,000 ขาดอีก 316 บาทก็ให้ใช้วิธีสั่งผัดกระเพราะไม่เอาไข่ดาวล๊ะกัน ประหยัดไปได้มื้อละ 10 บาท เดือนหนึ่งเก็บเพิ่มได้ 300 กว่าบาทพอดี
จะเห็นว่าตึงมือพอดี แบบไม่เป็นภาระต่อสังคม ไม่ต้องไปหยิบยืมใครให้เดือดร้อน ไม่ต้องมาถามว่า ER6N จะบอกขายดาวน์เท่าไรดีค๊ะ? เฮ้อเมื่อย
บางท่านอาจเถียงว่า แล้วเอาเงินออม หรือเงินช่วยพ่อแม่ ลูกเมียมาใช้ไมได้เหรอ ได้ครับเอามาใช้ได้ แต่ท่านก็จะเป็นคนไม่มีประโยชน์ต่อสังคมไปในทันที หรือภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Garbage Man
จากบทควรนี้จะเห็นว่าเป็นเหตเป็นผลที่สุด หาใดจะเปรียบได้
*** ปิดโหวต วันที่ 17 กันยายน พ.ศ.2556 เวลา 16:20:47 น.
รายได้เท่าไร? ถึงควรเข้าซื้อ Big Bike
หรือด้นตัวเลขขึ้นมาลอยๆ ทุกอย่างมีที่มาที่ไป ทำตามหลักวิชา และเป็นที่ยอมรับของนักบริหารการเงินทั่วไปทั่วโลกมาแล้ว
ยึดหลักการจัดการด้านการเงินของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นั้น จะให้แบ่งเงินรายได้ออกเป็น 4 ส่วนดังนี้
1. เงินเพื่อการใช้จ่าย (Expense) 50%
2. เงินเพื่อการลงทุน (Investment) 20%
3. เงินเพื่อการออม (Saving) 20%
4. เงินเพื่อการสงเคราะห์ (Supported Family) 10%
ดังนั้นชนชั้นกลางกฏุมภีทั่วไปมีรายได้ที่ 30,000 บาทต่อเดือนจะต้องมีการจัดสรรเงินรายได้ดังนี้
คราวนี้ เมื่อการความต้องการเข้าซื้อ Big Bike แล้วลองมาดูค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นกัน
สมมุติให้เข้าซื้อ ER6N (ปล. รถที่มี cc น้อยกว่า 600 ไม่ถือว่าเป็นรถ BB)
รถคันนี้ต้องดาวน์ที่ 51,000 บาท (ไม่ต้องเถียงว่าดาวน์น้อยกว่านี้ได้ ถ้าดาวน์น้อยกว่านี้ต้องมีคนค้ำ หาได้เหรอในสังคมปัจจุบัน)
ดูตารางผ่อน
เลือกผ่อนแบบชิวๆแล้วนะ 3 ปี หรือ 36 งวด
ทำไมต้องผ่อน 36 งวด 48 งวดไม่ได้เหรอ ตอบว่าไม่ได้ เพราะ 48 งวดมันสำหรับรถยนต์ 4 ล้อ มอไซด์มี 2 ล้อ จริงๆแล้วควรผ่อนแค่ 2 ปี โดยเฉลี่ยปีละล้อ นี่นับว่ากรุณาในสถานเบาแล้ว
จะเห็นว่าต้องผ่อน 6,316 บาทต่อเดือน
อันนี้ผมอนุญาติให้ใช้เงินเพื่อการลงทุนมาผ่อนได้ คนรายได้ 30,000 ต้องลงทุนเดือนละ 6,000 ขาดอีก 316 บาทก็ให้ใช้วิธีสั่งผัดกระเพราะไม่เอาไข่ดาวล๊ะกัน ประหยัดไปได้มื้อละ 10 บาท เดือนหนึ่งเก็บเพิ่มได้ 300 กว่าบาทพอดี
จะเห็นว่าตึงมือพอดี แบบไม่เป็นภาระต่อสังคม ไม่ต้องไปหยิบยืมใครให้เดือดร้อน ไม่ต้องมาถามว่า ER6N จะบอกขายดาวน์เท่าไรดีค๊ะ? เฮ้อเมื่อย
บางท่านอาจเถียงว่า แล้วเอาเงินออม หรือเงินช่วยพ่อแม่ ลูกเมียมาใช้ไมได้เหรอ ได้ครับเอามาใช้ได้ แต่ท่านก็จะเป็นคนไม่มีประโยชน์ต่อสังคมไปในทันที หรือภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Garbage Man
จากบทควรนี้จะเห็นว่าเป็นเหตเป็นผลที่สุด หาใดจะเปรียบได้