วันพฤหัสบดีแล้ว ทำงานอีก 2 วันก็วันหยุดล่ะ
ใช้น้ำหอมอะไรกันบ้างครับ มาแชร์กันหน่อย
ส่วนของผมก็
A Taste of Heaven โดย By Kilian
http://www.basenotes.net/products/a-taste-of-heaven
และ
http://www.fragrantica.com/perfume/By-Kilian/A-Taste-of-Heaven-4317.html
ยืมรูปนี้จาก Net
A Taste of Heaven : Absinthe Verte มาจากชุด L'oeuvre Noire หรือ The Black Masterpiece เป็นชุด Debut Collection จาก By Kilian ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาโดย Kilian Hennessy หลานของผู้ก่อตั้ง LVMH group ที่เป็นเจ้าของสิ้นค้าแบรนด์หรูเยอะมาก (ตัว "H" ใน LVMH ย่อมาจาด Hennessy ซึ่งเป็นตระกูลผู้ทำบรันดี Cognac มาหลายชั่วอายุคน
รูปของ Kilian Hennessy ยืมมาจาก Net
เรียงจากซ้ายไปขวา
- Kilian Henessy
- สุคนธกรของกลิ่นนี้ คือ Calice Becker
- Elisabeth Noel Jones หุ้นส่วนบริษัท By Kilian และคู่หมั้นของ Kilian Hennessy
ขวดของ By Kilian พอหมดแล้วสามารถซื้อแบบ Refill มาเติมได้ครับ ราคาถูกกว่าแบบเต็มชุดเป็นร้อยเหรียญสหรัฐครับ (ขวดเต็ม ผมซื้อไป ก็กินแกลบไปหลายเดือน)
A Taste of Heaven : Absinthe Verte ออกจำหน่ายเมื่อปื ค.ศ. 2007 มาจากชุด L'oeuvre Noire หรือ The Black Masterpiece ในส่วน Les paradis artificiels หรือ The artificial paradise มีคำอธิบายแปลไทยได้ว่า
น้ำหอมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเหล้า Absinth สวรรค์ประดิษฐ์ของนักประพันธ์
รูปที่เหลือถ่ายเองครับ
ข้อมูลจาก
http://lets-drink.blogspot.com/2012/02/absinthe.html?m=1
ABSINTHE อ่านออกเสียงว่า”แอ๊บแซ๊งธ์” หรือ”แอ๊บซิงธ์”
เป็นภาษาฝรั่งเศส แต่มีรากศัพท์ของคำว่า ABSINTHIUM ซึ่งเป็นภาษาละติน
ซึ่งมีความหมายเย้ยหยันแต่ชวนท้าทายว่า “ไม่มีวันดื่มได้”
จุดเด่นของ ABSINTHE นอกจากสีสันจะมรกตจนน่าฉงนแล้ว
ส่วนผสมอย่างสมุนไพร THRU JONE ซึ่งสกัดจาก WORMWOOD
ซึ่งไอ้สารตัวนี่แหละคะมีมีฤทธิ์เดชทำให้ประสาทหลอนจนเห็นอีกภพ!!
และเมื่อบวกกับดีกรีแอลกอฮลล์สูงปรี๊ดระดับ 60 อัพ
บางยี่ห้อดีกรีสูงเวอร์กว่า 90 จนเกือบจะล้างแผลได้แล้ว
ประมาณต้นศตวรรษที่ 16
ABSINTHE เริ่มเผยโฉมในฝรั่งเศส
จากนั้นก็โด่งดังลามไปทั่วยุโรปในปลายศตวรรษที่ 19 และต้น 20
ด้วยกระแสปากต่อปากเม้าส์สรรพคุณจิบ DRINK นี้แล้วจิตเคลิบเคลิ้ม
สามารถบันดาลความเริงใจให้เกินกว่าปกติ
สามารถกระตุ้นประสาทสัมผัสจนเกิดภาพจินตนาการดังใจนึก
วิธีการเตรียม Absinthe ก่อนดื่ม
และลองดูกันว่าทานแล้วหลอน เมาเร็วแค่ไหน
เพราะฉะนั้น ABSINTHE จึงเป็นของโปรดของกวีและศิลปิน
ไล่ตั้งแต่กวียุคโบฮีเมียน (ใครเคยดู Moulin Rouge แล้วจะร้องอ๋อ!)
โมเนต์ ,ออสการ์ ไวลด์ ,เออร์เนส เฮมิงเวย์ หรือแม้แต่ปิกัสโซ่
แต่ที่โจษจันในข้อหาติด ABSINTHE แบบถอนตัวไม่ขึ้น
นั่นคือ แวนโก๊ะ ศิลปินเจ้าของภาพวาดระดับขึ้นหิ้ง!!!!
ติดหนัก ถึงขั้นประสาทหลอกหลอนจนต้องเฉือนหูตัวเอง!!!
แต่ภายหลังมีการพิสูจน์ว่า แวนโก๊ะ เฉือนหูไม่ได้เกี่ยวข้อง ABSINTHE แต่อย่างใด
ปัจจุบัน ห้ามจำหน่าย จ่ายแจก ABSINTHE ในหลายประเทศ ถ้าขายได้ก็ห้ามขายให้เกินคนละ 2 Shot ครับ
ส่วนผสม
- African Orange Flower ดอกส้มแอฟริกา
- Geranium ดอกเจอราเนียม
- Bergamot มะกรูด
- Rose ดอกกุหลาบ
- Wormwood ไม้ที่เอามาทำเหล้า Absinthe กลิ่นหวานปนขม
- Lavender ดอกลาเวนเดอร์
- Patchouli พิมเสนเทศ
- Oak Moss
- Amber อำพัน
- Vanilla
- Tonka Bean ถั่วทองก้า
กลิ่นที่เด่นมาก คือ Lavender กับ Vanilla โดยมีกลิ่นหวานขมของเหล้า Absinthe มาช่วยสร้างความน่าสนใจครับ
หลายคนจะเปียบเทียบ A Taste of Heaven : Absinthe Verte กับ Caron Pour Un Homme แต่ A Taste of Heaven : Absinthe Verte กลิ่นหรูหรา เป็นทางการกว่าของ Caron มากครับ
แต่ราคาของ By Kilian สูงกว่าของ Caron หลายเท่าครับ
Kilian กลิ่นออกแนวสมุนไพรมากกว่าของ Caron
Kilian กลิ่นเนียน กลมกล่อมกว่า
Kilian กลิ่นซับซ้อนกว่า
แต่ Kilian ราคาประมาณ $250 ต่อขนาด 50ml ในขณะที่ Caron ราคา $45 ต่อขนาด 250ml
SotD น้ำหอมกลิ่นไหน ที่คุณๆใช้ในวันนี้ (12 ก.ย. 2556)
ใช้น้ำหอมอะไรกันบ้างครับ มาแชร์กันหน่อย
ส่วนของผมก็
A Taste of Heaven โดย By Kilian
http://www.basenotes.net/products/a-taste-of-heaven
และ
http://www.fragrantica.com/perfume/By-Kilian/A-Taste-of-Heaven-4317.html
ยืมรูปนี้จาก Net
A Taste of Heaven : Absinthe Verte มาจากชุด L'oeuvre Noire หรือ The Black Masterpiece เป็นชุด Debut Collection จาก By Kilian ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาโดย Kilian Hennessy หลานของผู้ก่อตั้ง LVMH group ที่เป็นเจ้าของสิ้นค้าแบรนด์หรูเยอะมาก (ตัว "H" ใน LVMH ย่อมาจาด Hennessy ซึ่งเป็นตระกูลผู้ทำบรันดี Cognac มาหลายชั่วอายุคน
รูปของ Kilian Hennessy ยืมมาจาก Net
เรียงจากซ้ายไปขวา
- Kilian Henessy
- สุคนธกรของกลิ่นนี้ คือ Calice Becker
- Elisabeth Noel Jones หุ้นส่วนบริษัท By Kilian และคู่หมั้นของ Kilian Hennessy
ขวดของ By Kilian พอหมดแล้วสามารถซื้อแบบ Refill มาเติมได้ครับ ราคาถูกกว่าแบบเต็มชุดเป็นร้อยเหรียญสหรัฐครับ (ขวดเต็ม ผมซื้อไป ก็กินแกลบไปหลายเดือน)
A Taste of Heaven : Absinthe Verte ออกจำหน่ายเมื่อปื ค.ศ. 2007 มาจากชุด L'oeuvre Noire หรือ The Black Masterpiece ในส่วน Les paradis artificiels หรือ The artificial paradise มีคำอธิบายแปลไทยได้ว่า
น้ำหอมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเหล้า Absinth สวรรค์ประดิษฐ์ของนักประพันธ์
รูปที่เหลือถ่ายเองครับ
ข้อมูลจาก
http://lets-drink.blogspot.com/2012/02/absinthe.html?m=1
ABSINTHE อ่านออกเสียงว่า”แอ๊บแซ๊งธ์” หรือ”แอ๊บซิงธ์”
เป็นภาษาฝรั่งเศส แต่มีรากศัพท์ของคำว่า ABSINTHIUM ซึ่งเป็นภาษาละติน
ซึ่งมีความหมายเย้ยหยันแต่ชวนท้าทายว่า “ไม่มีวันดื่มได้”
จุดเด่นของ ABSINTHE นอกจากสีสันจะมรกตจนน่าฉงนแล้ว
ส่วนผสมอย่างสมุนไพร THRU JONE ซึ่งสกัดจาก WORMWOOD
ซึ่งไอ้สารตัวนี่แหละคะมีมีฤทธิ์เดชทำให้ประสาทหลอนจนเห็นอีกภพ!!
และเมื่อบวกกับดีกรีแอลกอฮลล์สูงปรี๊ดระดับ 60 อัพ
บางยี่ห้อดีกรีสูงเวอร์กว่า 90 จนเกือบจะล้างแผลได้แล้ว
ประมาณต้นศตวรรษที่ 16
ABSINTHE เริ่มเผยโฉมในฝรั่งเศส
จากนั้นก็โด่งดังลามไปทั่วยุโรปในปลายศตวรรษที่ 19 และต้น 20
ด้วยกระแสปากต่อปากเม้าส์สรรพคุณจิบ DRINK นี้แล้วจิตเคลิบเคลิ้ม
สามารถบันดาลความเริงใจให้เกินกว่าปกติ
สามารถกระตุ้นประสาทสัมผัสจนเกิดภาพจินตนาการดังใจนึก
วิธีการเตรียม Absinthe ก่อนดื่ม
และลองดูกันว่าทานแล้วหลอน เมาเร็วแค่ไหน
เพราะฉะนั้น ABSINTHE จึงเป็นของโปรดของกวีและศิลปิน
ไล่ตั้งแต่กวียุคโบฮีเมียน (ใครเคยดู Moulin Rouge แล้วจะร้องอ๋อ!)
โมเนต์ ,ออสการ์ ไวลด์ ,เออร์เนส เฮมิงเวย์ หรือแม้แต่ปิกัสโซ่
แต่ที่โจษจันในข้อหาติด ABSINTHE แบบถอนตัวไม่ขึ้น
นั่นคือ แวนโก๊ะ ศิลปินเจ้าของภาพวาดระดับขึ้นหิ้ง!!!!
ติดหนัก ถึงขั้นประสาทหลอกหลอนจนต้องเฉือนหูตัวเอง!!!
แต่ภายหลังมีการพิสูจน์ว่า แวนโก๊ะ เฉือนหูไม่ได้เกี่ยวข้อง ABSINTHE แต่อย่างใด
ปัจจุบัน ห้ามจำหน่าย จ่ายแจก ABSINTHE ในหลายประเทศ ถ้าขายได้ก็ห้ามขายให้เกินคนละ 2 Shot ครับ
ส่วนผสม
- African Orange Flower ดอกส้มแอฟริกา
- Geranium ดอกเจอราเนียม
- Bergamot มะกรูด
- Rose ดอกกุหลาบ
- Wormwood ไม้ที่เอามาทำเหล้า Absinthe กลิ่นหวานปนขม
- Lavender ดอกลาเวนเดอร์
- Patchouli พิมเสนเทศ
- Oak Moss
- Amber อำพัน
- Vanilla
- Tonka Bean ถั่วทองก้า
กลิ่นที่เด่นมาก คือ Lavender กับ Vanilla โดยมีกลิ่นหวานขมของเหล้า Absinthe มาช่วยสร้างความน่าสนใจครับ
หลายคนจะเปียบเทียบ A Taste of Heaven : Absinthe Verte กับ Caron Pour Un Homme แต่ A Taste of Heaven : Absinthe Verte กลิ่นหรูหรา เป็นทางการกว่าของ Caron มากครับ
แต่ราคาของ By Kilian สูงกว่าของ Caron หลายเท่าครับ
Kilian กลิ่นออกแนวสมุนไพรมากกว่าของ Caron
Kilian กลิ่นเนียน กลมกล่อมกว่า
Kilian กลิ่นซับซ้อนกว่า
แต่ Kilian ราคาประมาณ $250 ต่อขนาด 50ml ในขณะที่ Caron ราคา $45 ต่อขนาด 250ml