ลูกชายอายุสามขวบ สมมุติว่าชื่อน้องใบพัดนะคะ เรียนอยู่ชั้นอนุบาลหนึ่ง โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีอนุบาลหนึ่ง ถึงอนุบาลสาม มีนักเรียนทั้งหมดประมาณสามร้อยคน ในแต่ละห้องเรียนจะมีครูประจำชั้นสองคน

วันจันทร์ และอังคารที่ผ่านมา ลูกไม่สบาย จึงไม่ให้ไปโรงเรียน วันอังคารเช้าคุณแม่จึงเอาการบ้านของอาทิตย์ที่ผ่านมาไปส่งคุณครู พร้อมกับขอรับการบ้านของอาทิตย์นี้มาเลย เผื่อว่าจะหยุดหลายวัน ตอนที่ไปรับการบ้านคุณแม่ได้เจอทั้งครูหนึ่ง และ ครูสอง ซึ่งเป็นครูประจำชั้น และได้แจ้งคุณครูว่า ลูกจะไม่มาโรงเรียน จนกว่าจะหาย

ช่วงเย็นของวันอังคารนั้นเอง ครูสองโทรมาหาคุณแม่ และถามว่าคุณแม่ได้โทรไปหาครูสองที่โรงเรียนหรือเปล่า และได้โทรเข้ามือถือครูสองหรือเปล่า คุณแม่ก็บอกว่าไม่ได้โทรทั้งสองกรณี ครูสองจึงเล่าให้ฟังว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งโทรมาที่ห้องธุรการ และขอสายครูสอง ธุรการจึงโอนมาที่ห้องที่ครูสองเป็นครูประจำชั้นอยู่ บทสนทนาตามที่ครูสองเล่ามาเป็นดังนี้ค่ะ

ปลายสาย : นี่ครูสองใช่มั้ยคะ
ครูสอง : ใช่ค่ะ
ปลายสาย : อนุบาลหนึ่งห้องสองใช่มั้ยคะ
ครูสอง : อนุบาลหนึ่ง ข. ไข่ ค่ะ (โรงเรียนนี้เรียกเป็น ก. ข. ค.)
ปลายสาย : ขอเบอร์มือถือครูสองด้วยค่ะ
ครูสอง : จากไหนคะ
ปลายสาย : จากผู้ปกครองของเด็กในห้องค่ะ
ครูสอง : ถ้าไม่บอกว่าเป็นผู้ปกครองใคร ก็ให้เบอร์ไม่ได้ค่ะ
ปลายสาย : จากคุณแม่น้องใบพัดค่ะ
ครูสองจึงให้เบอร์มือถือตัวเอง และจบการสนทนาไป

ปลายสายก็ได้โทรเข้าโทรศัพท์ส่วนตัวครูสองทันที
ปลายสาย : วันนี้น้องใบพัดเป็นยังไงบ้างคะ ซึมหรือเปล่า
ครูสอง : โทรจากไหนนะคะ
ปลายสาย : คุณแม่น้องใบพัดค่ะ
ครูสอง : คุณแม่น้องใบพัดจริงหรือเปล่าค่ะ
ปลายสาย : ใช่ค่ะ
ครูสอง : ถ้าเป็นคุณแม่น้องจริงก็ต้องทราบสิคะว่าวันนี้น้องไม่มาโรงเรียน
ปลายสาย : เอ่อ…. แล้วก็วางสายไป

จบแล้วค่ะ ไม่รู้จริงๆ ว่าปลายสายต้องการอะไร คุณครูให้เบอร์โทรที่เป็นเบอร์มือถือของปลายสายมาด้วย ตอนนี้ก็กำชับทุกๆ คนให้ดูแลน้องดีๆ และแจ้งคุณครูเรื่องผู้ที่จะไปรับเด็ก ซึ่งคุณครูก็ได้ให้ความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยของนักเรียนในโรงเรียน ใครเคยเจอแบบนี้บ้างคะ ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ ว่าต้องทำยังไง

ปล. 1 ทั้งโรงเรียนมีนักเรียนชื่อใบพัดคนเดียวค่ะ