แฉครีมมรณะนำมาพอกตัว!สาวไฮโซเขมรช็อกดับสยอง

ครีมผิวขาวมรณะระบาดตลาด ชายแดนไทย-เขมร ลูกสาวนายตำรวจกัมพูชาตกเป็นเหยื่อใช้แล้ว ถึงช็อกตาย หลังเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวเลยซื้อครีมเวียดนามในฝั่งปอยเปตมาพอกตัว พอทาได้ 2 ชม. เกิดแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ญาติต้องพาส่งโรงพยาบาล แต่อาการหนักเกิดหมดสติ ผิวลอกเป็นแผ่น พ่อติดต่อเจ้าหน้าที่ไทยข้ามมารักษาที่โรงพยาบาลใน จ.สระแก้ว แต่หมอไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ระบุสาเหตุเกิดจากพิษสารปรอท ทำให้ตับวายเฉียบพลัน ญาติรับศพกลับบ้านเกิดเศร้าสลด ขณะที่เจ้าหน้าที่ผวาสุ่มตรวจในตลาดโรงเกลือเจอวางขายถึง 4 ร้าน

อันตรายจากครีมทาผิวขาวเวียดนามทำให้ลูกสาวนายตำรวจกัมพูชาถึงช็อกตายรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 มี.ค. ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ. ร้อย ทพ.ที่ 1206 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา ที่รับผิดชอบด่านพรมแดนไทย-กัมพูชา บ้านคลองลึก ต.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้รับประสานจากเจ้าหน้าที่สำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำอ.อรัญประเทศ ว่ามีหญิงสาวไฮโซชาวกัมพูชาซึ่งเป็นลูกสาวของ ร.ต.อ.ซาเมือน จวน อายุ 48 ปี รอง ผบ.พัน ตชด. 911 ประจำเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ได้ใช้ครีมทาผิวแล้วเกิดช็อกหมดสติมารักษาที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว และเสียชีวิตลง ญาติจึงติดต่อนำศพกลับไปฝั่งปอยเปต

หลังทราบเรื่อง ร.ต.อ.ชาญสั่งให้เจ้าหน้าที่อำนวย ความสะดวกเต็มที่ โดยมี อปพร.เทศบาลเมืองอรัญประเทศ นำรถกระบะบรรทุกศพออกมาจากโรงพยาบาล ทั้งนี้หลังผ่านการตรวจสอบตามขั้นตอนต่างๆเสร็จสิ้น ร.ต.อ.ซาเมือน จวน เปิดเผยว่า ลูกสาวของตนชื่อ น.ส.โซ๊ะวัน จวน อายุ 23 ปี โดยก่อนที่จะเสียชีวิต น.ส.โซ๊ะวัน จวน มีกำหนด จะเข้าพิธีแต่งงานในเร็วๆนี้ กระทั่งวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ไปซื้อครีมทาผิวขาวมาทาเพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าสาว ที่กระปุกเขียนภาษาเวียดนามชื่อเบ๋าดั๋ม โดยซื้อมาจากตลาดปอยเปต ราคากระปุกละ 50 บาท ลักษณะเป็นกระปุกพลาสติกสีขาว เนื้อครีมสีเหลืองและมีผงดำๆ ผสมอยู่

นายตำรวจ ตชด.กัมพูชา กล่าวอีกว่า หลังจากลูกสาวเอาครีมพอกตัวเพื่อให้ผิวขาว โดยทิ้งไว้ประมาณ 2 ชม. ปรากฏว่าเกิดอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ญาติจึงพาส่ง รพ.ปอยเปต เป็นเวลา 2 วัน แต่อาการไม่ดีขึ้น แถมหนักกว่าเก่าจนเกิดช็อกหมดสติ ส่วนผิวหนังก็ลอกออกมาเป็นแผ่น แพทย์ รพ.ปอยเปต เลยส่งต่อไปรักษาที่ รพ.มงคลบุรี จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา แต่แพทย์ ไม่รับ เพราะอาการหนักมาก ตนจึงประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ของไทย ประจำ อ.อรัญประเทศ เพื่อขอส่ง น.ส.โซ๊ะวัน จวน ข้ามมารักษาที่ รพ.อรัญประเทศ เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ดีขึ้น แพทย์ย้ายไปรักษาที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว กระทั่งเสียชีวิตเมื่อเช้าวันที่ 7 มี.ค.

"เชื่อว่าสาเหตุที่ลูกสาวเสียชีวิตเกิดจากการใช้ครีมทาผิวขาวหรือยาลอกผิว ที่ผลิตในประเทศเวียดนาม จนเกิดอาการแพ้ หลังเกิดเหตุอุตส่าห์พา น.ส.โซ๊ะวัน จวน ข้ามแดนมารักษาที่โรงพยาบาลฝั่งไทย แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ เสียใจและสงสารลูกสาวมากเพราะกำลังจะเป็นเจ้าสาวแล้ว แต่ต้องมาจบชีวิตลง สอบถามแพทย์บอกว่าเกิดจากอาการแพ้ครีมรุนแรง สาเหตุเป็นเพราะมีส่วน ผสมของสารปรอท ทำให้ร่างกายดูดซึมสารปรอทเข้าไปมาก จนเกิดอาการตับวายเฉียบพลัน" ร.ต.อ.ซาเมือน จวน กล่าวด้วยสีหน้าเศร้าสลดพร้อมกับนำเอกสารของโรงพยาบาลที่ระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิตมาจากตับวายเฉียบพลัน มาแสดงให้เจ้าหน้าที่เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพลูกสาวกลับไปยังประเทศบ้านเกิด

ต่อมา ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี นำเจ้าหน้าที่ออกตรวจ สอบตามร้านค้าที่จำหน่ายเครื่องสำอางในตลาดโรงเกลือ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามตลาดปอยเปตเนื่องจากเกรงว่ามีพ่อค้าแม่ค้านำครีมทาผิวขาวดังกล่าวมาจำหน่ายในฝั่งไทย ปรากฏว่าจากการสุ่มตรวจพบพ่อค้า แม่ค้าชาวเขมร 4 ร้านที่นำครีมเบ๋าดั๋มมาวางจำหน่าย แต่ขายเหลือแค่ 2-3 กระปุกเท่านั้น สอบถามเจ้าของร้านยอมรับว่า รับครีมทาผิวขาวจากเวียดนามมาขายจริง มีลูกค้าทั้งไทยและเขมรนิยมซื้อใช้กันมาก โดยขายราคากระปุกละ 50 บาทเท่ากับฝั่งปอยเปต และขายดีมาก ทำให้ช่วงนี้สินค้าขาดตลาด เจ้าหน้าที่จึงยึดครีมในร้านไปตรวจสอบต่อไป ขณะเดียวกันได้สั่งห้ามนำครีมดังกล่าวมาขายอีกเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามหญิงสาวชาวเขมรในตลาดโรงเกลือระบุว่าเคยใช้ครีมจากเวียดนามเพราะได้ผลทำให้ผิวขาวขึ้น แต่หากใช้มากจะมีผลทำให้แพ้เป็นผื่น ต้องหยุดใช้ทันที ส่วนรายของ น.ส.โซ๊ะวัน จวน น่าจะใช้มากจนเกินไป

ทางด้านนายสำราญ เดชศรี เจ้าหน้าที่ด่านอาหารและยาอรัญประเทศ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ที่ประจำอยู่ด่านชายแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ เปิดเผยว่า สำหรับครีมทาผิวดังกล่าวสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเคยพบในร้านค้าตลาดโรงเกลือ จึงได้ตรวจยึดและสั่งห้ามนำมาจำหน่ายมาแล้วเพราะมีส่วนผสมของสารปรอทที่เป็นอันตราย แต่ครีมดังกล่าวค่อนข้างขายดี ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าชาวเขมรยังคงลักลอบนำมาขาย ใช้วิธีหลบซ่อนไม่มีโชว์หน้าร้าน แต่จะรู้กันในกลุ่มลูกค้า ทำให้ตรวจสอบได้ยาก แต่ก็ขอเตือนว่าหากใครนำครีมตัวนี้มาจำหน่ายถือว่าผิดกฎหมาย โดยในวันที่ 8 มี.ค. เจ้าหน้าที่จะได้ออกตรวจในตลาดโรงเกลือต่อไป

ที่มา  http://www.thairath.co.th/today/view/69326

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่