เริ่มต้นการเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ไปกันตั้งแต่สองทุ่มเลยทีเดียวคุณแม่มาส่งที่สนามบินแต่เราบอกแม่ว่าแม่ไม่ต้องลงจากรถนะกลับบ้านไปได้เลย (ไม่อยากร้องไห้เราจะบินไปเรียน ผมกลัวที่สุดคือการหันหลังลาจากน้ำตาไหลทุกที)แม่เลยบอกทำไมล่ะ เดี๋ยวจะอยู่รอส่ง ผมก็ไล่ให้กลับอย่างเดียวเลยครับ อาจเป็นเพราะเมื่อคราวที่ผมไปเรียนที่ฟิลิปปินสืคุณแม่ไม่ได้มาส่งผมต้องไปเองครั้งนี้ท่านเลยอยากมาส่งแต่ก็อย่างว่าครับไม่อยากให้ท่านเห็นเราร้องไห้ เราก็มาเช็คอินขอบอกว่า พนง.ใจดีมากๆครับน้ำหนักกระเป่าสัมภาระผมสองใบรวมกัน กว่า39กิโล นั่งชั้นประหยัดนะครับ ไม่โดนค่าปรับกระเป๋าเดินทางที่โหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่อง แต่พนง.ให้ผมเดินไปโหลดเองตรงใกล้ๆห้องจำหน่าวยตั๋วการบินไทยที่มีช่องโหลดสัมภาระOversized
ระหว่างรอผู้โดยสารท่านอื่นๆขึ้นเครื่องขอสักภาพเบาๆ
ไม่เบื่อแล้วครับมีสื่อบันเทิงบนเที่ยวบิน นานกว่า13ชั่วโมงบินตรงสู่ปารีส Smooth as silk จริงๆครับ
เมื่ออาหารมาเสริ์ฟมื้อแรก
ในระหว่างทำการบิน นอนไม่หลับครับเนื่องจากคนข้างๆนอนกรนนิดนึงส์ เลยเดินมาท้ายลำกะว่าจะมาดูสจ๊วตหล่อๆเพราะส่วนมากหล่อๆมักอยู่ท้ายลำ แต่เดินมาแล้วไม่เจอครับเพราะลูกเรือต้องสลับกันเข้าไปนอนพักตามหลักการบิน เลยเจอพี่แอรืคนนึงส์อายุก็ค่อนข้างมากแล้วคุยกันอยู่ท้ายลำจนหิวพี่เขาก็ใจดีมีอาหารบริการให้อีก ในขณะที่ท่านอื่นหลับ เรียกว่าไฟล์ทนี้บินแล้วกินคุ้มครับ ฮ่าๆๆ คุยกันสนุกครับแอร์การบินไทยบริการทุกระดับประทักใจเหมือนสโลแกน รักคุณเท่าฟ้า ตริงๆ สักพักใหญ่ๆเริ่มอิ่มหนังท้องตรึงหนังตาหย่อน พี่แอร์เขาก็ยังบอกเราว่า เหมือนน้องจะง่วงนอนแล้วไปพักผ่อนดีไหมคะ ตื่นมาอีกทีจะได้ทานอีกมื้อก่อนเครื่องลง พี่แอร์น่ารักครับบอกเราก่อนเดินไปที่นั่งของเราด้วยว่า ระหว่างหลับอย่าลืมคาดเข็มขัดด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัยหากเครื่องตกหลุมอากาศค่ะ ถ้าห่มผ้าให้ผ้าห่มอยู่ใต้เข็มขัดนะคะ พี่เขาปรารถนาดีกับผุ้โดยสารครับ
มื้อที่2 (สำหรับผมมื้อ3)ฮ่าๆ
และเราก็เดินทางมาถึงปารีส CDG กันประมาณตีห้ากว่าๆ อากาศหนาวครับ แต่ที่ประทับใจคือการลงจอดนุ่มมากๆครับ และทิวทัศน์ของรันเวยืกับสนามบินก้ดูโอ่อ่า โดยเฉพาะรันเวย์ผมประทับใจมากๆๆครับ ใต้รันเวย์มีอุโมงค์เยอะแยะเลยทีเดียวให้รถวิ่งผ่านด่านล่าง ดูแล้วสวยงามดีครับผมว่านะ!
เมื่อผมลงจากเครื่องเสร็จปุ๊บ ก็ต้องรีบทำการเดินเปลี่ยนGateและอาคารผู้โดยสารครับเพราะผมต้องไปต่อเครื่องไปอีกเมืองโดยสายการบิน Air France ซึ่งสนามบินParis CDGใหญ่มากๆครับ สังเกตุจากเส้นทางสิครับ อุโมงค์นี่ก็ใช้เวลากับบันไดเลื่อนไปกว่า2-4นาทีแล้วครับ
แล้วแถมมาถึงเช้าๆหา จนท. ก็ยาก โชคดีมีความรู้ภาษาฝรั่งเศสติดสมองเอาตัวรอดได้เบาๆ เหลือเชื่อว่าเส้นทางคดเขี้ยววโน่น นี่ นั่นไปโผล่หารถเวียนในสนามบินโดยที่เราไม่ต้องเดินไป ตม ก่อนแล้วเช็คอินกลับเข้ามาใหม่ได้ คลำๆทางกันไปแต่ไปถูกมีหลงบ้างนิดๆ
และแล้วก็มาถึงด่าน ตม (ตรวจคนเข้าเมือง หรือตรวจเอเลี่ยนอ่ะครับเพราะเราคือชาวต่างชาติ ศัพท์ที่เขาใช้ก็เอเลี่ยนนั่นเอง)
อาคารผู้โดยสารครับ
ร้านนี้ดังครับ ขนมปัง หรือครัวซองต์อร่อยมากๆ ครัซองต์ช็อกโกแลตก็อร่อย มีจำหน่ายตามสถานีรถไฟทั่วฝรั่งเศสครับ( Gare) หรือตามห้างก็มีครับราคาย่อมเยา เพราะของกินในสนามบินราคาสูงมาก น้ำเปล่าก็ราคาสูงแต่ผมมีทางเลือกครับเราซื้อน้ำเปล่าสักขวดก็พอถ้าดื่มหมดยังหิวอยู่เขามีน้ำดื่มสะอาดมีจุดบริการ
นี่เลยครับ จุดบริการน้ำดื่ม ฟรี!!!!!!! แรกๆๆคนไทยอาจไม่คุ้นชิกับการดื่มน้ำที่นี่ ค่อนข้างกลืนยากครับ แต่อยู่ๆไปผมก็ชินแล้วล่ะ
ตู้กดขนมและเครื่องดื่ม รองท้องในสนามบินถือว่าราคากลางๆครับ
และนี่ก็เป็นความประทับใจกับการเดินทางที่ Smooth as silkกับสายการบินแห่งชาติของคนไทย บริการแบบไทย รักเราเท่าฟ้า
[CR] บินไปParis CDGกับการบินไทย ลงจอดนุ่มมากๆครับและบรรยากาศสนามบินCDG
ระหว่างรอผู้โดยสารท่านอื่นๆขึ้นเครื่องขอสักภาพเบาๆ
ไม่เบื่อแล้วครับมีสื่อบันเทิงบนเที่ยวบิน นานกว่า13ชั่วโมงบินตรงสู่ปารีส Smooth as silk จริงๆครับ
เมื่ออาหารมาเสริ์ฟมื้อแรก
ในระหว่างทำการบิน นอนไม่หลับครับเนื่องจากคนข้างๆนอนกรนนิดนึงส์ เลยเดินมาท้ายลำกะว่าจะมาดูสจ๊วตหล่อๆเพราะส่วนมากหล่อๆมักอยู่ท้ายลำ แต่เดินมาแล้วไม่เจอครับเพราะลูกเรือต้องสลับกันเข้าไปนอนพักตามหลักการบิน เลยเจอพี่แอรืคนนึงส์อายุก็ค่อนข้างมากแล้วคุยกันอยู่ท้ายลำจนหิวพี่เขาก็ใจดีมีอาหารบริการให้อีก ในขณะที่ท่านอื่นหลับ เรียกว่าไฟล์ทนี้บินแล้วกินคุ้มครับ ฮ่าๆๆ คุยกันสนุกครับแอร์การบินไทยบริการทุกระดับประทักใจเหมือนสโลแกน รักคุณเท่าฟ้า ตริงๆ สักพักใหญ่ๆเริ่มอิ่มหนังท้องตรึงหนังตาหย่อน พี่แอร์เขาก็ยังบอกเราว่า เหมือนน้องจะง่วงนอนแล้วไปพักผ่อนดีไหมคะ ตื่นมาอีกทีจะได้ทานอีกมื้อก่อนเครื่องลง พี่แอร์น่ารักครับบอกเราก่อนเดินไปที่นั่งของเราด้วยว่า ระหว่างหลับอย่าลืมคาดเข็มขัดด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัยหากเครื่องตกหลุมอากาศค่ะ ถ้าห่มผ้าให้ผ้าห่มอยู่ใต้เข็มขัดนะคะ พี่เขาปรารถนาดีกับผุ้โดยสารครับ
มื้อที่2 (สำหรับผมมื้อ3)ฮ่าๆ
และเราก็เดินทางมาถึงปารีส CDG กันประมาณตีห้ากว่าๆ อากาศหนาวครับ แต่ที่ประทับใจคือการลงจอดนุ่มมากๆครับ และทิวทัศน์ของรันเวยืกับสนามบินก้ดูโอ่อ่า โดยเฉพาะรันเวย์ผมประทับใจมากๆๆครับ ใต้รันเวย์มีอุโมงค์เยอะแยะเลยทีเดียวให้รถวิ่งผ่านด่านล่าง ดูแล้วสวยงามดีครับผมว่านะ!
เมื่อผมลงจากเครื่องเสร็จปุ๊บ ก็ต้องรีบทำการเดินเปลี่ยนGateและอาคารผู้โดยสารครับเพราะผมต้องไปต่อเครื่องไปอีกเมืองโดยสายการบิน Air France ซึ่งสนามบินParis CDGใหญ่มากๆครับ สังเกตุจากเส้นทางสิครับ อุโมงค์นี่ก็ใช้เวลากับบันไดเลื่อนไปกว่า2-4นาทีแล้วครับ
แล้วแถมมาถึงเช้าๆหา จนท. ก็ยาก โชคดีมีความรู้ภาษาฝรั่งเศสติดสมองเอาตัวรอดได้เบาๆ เหลือเชื่อว่าเส้นทางคดเขี้ยววโน่น นี่ นั่นไปโผล่หารถเวียนในสนามบินโดยที่เราไม่ต้องเดินไป ตม ก่อนแล้วเช็คอินกลับเข้ามาใหม่ได้ คลำๆทางกันไปแต่ไปถูกมีหลงบ้างนิดๆ
และแล้วก็มาถึงด่าน ตม (ตรวจคนเข้าเมือง หรือตรวจเอเลี่ยนอ่ะครับเพราะเราคือชาวต่างชาติ ศัพท์ที่เขาใช้ก็เอเลี่ยนนั่นเอง)
อาคารผู้โดยสารครับ
ร้านนี้ดังครับ ขนมปัง หรือครัวซองต์อร่อยมากๆ ครัซองต์ช็อกโกแลตก็อร่อย มีจำหน่ายตามสถานีรถไฟทั่วฝรั่งเศสครับ( Gare) หรือตามห้างก็มีครับราคาย่อมเยา เพราะของกินในสนามบินราคาสูงมาก น้ำเปล่าก็ราคาสูงแต่ผมมีทางเลือกครับเราซื้อน้ำเปล่าสักขวดก็พอถ้าดื่มหมดยังหิวอยู่เขามีน้ำดื่มสะอาดมีจุดบริการ
นี่เลยครับ จุดบริการน้ำดื่ม ฟรี!!!!!!! แรกๆๆคนไทยอาจไม่คุ้นชิกับการดื่มน้ำที่นี่ ค่อนข้างกลืนยากครับ แต่อยู่ๆไปผมก็ชินแล้วล่ะ
ตู้กดขนมและเครื่องดื่ม รองท้องในสนามบินถือว่าราคากลางๆครับ
และนี่ก็เป็นความประทับใจกับการเดินทางที่ Smooth as silkกับสายการบินแห่งชาติของคนไทย บริการแบบไทย รักเราเท่าฟ้า