ย้อนอดีต ทาสีทับโลโก้สายการบิน"วิถีปฏิบัติ"หรือแค่"ปกปิดความจริง" (รูปของสายการบินอื่นในอดีต)

กระทู้สนทนา
ตอนนี้ดูจะเป็นที่ฮือฮาในหลายๆสำนักข่าวต่างประเทศมากค่ะ
ถึงแทบสีดำ ที่ทาทับโลโก้ดอกจำปีสีม่วงทอง บนตัวเครื่องบิน Airbus A330-300
หลังเกิด อุบัติเหตุ  เราว่าข่าวนี้ได้รับความสนใจมากกว่าตัวอุบัติเหตุเองซะอีก
และนี้เป็นข้อความบางส่วนจาก website ต่างประเทศค่ะ



CNN - Thai Airways blacks out logos after accident  
(สายการบินไทยขีดฆ่าโลโก้หลังเกิดอุบัติเหตุ)

The guardian - Thai Airways and that logo – just part of post-plane-crash etiquette?
(สายการบินไทยกับโลโก้ เป็นหนึ่งในขั้นตอนปฏิบัติหลังเครื่องตกจริงหรือ ?)

Business week - After an Airline Mishap, Painting Over Your Logo Isn't Terribly Effective
(เมื่อเครื่องตก การทาสีทับโลโก้ช่างได้ผลอย่างเลวร้ายใช่หรือไม่)

The Australian - Thai Airways tries logo cover-up after A330-300 skids off runway
(สายการบินไทยพยายามปกปิดโลโก้หลังA330-300 ไถลออกนอกรันเวย์)

The economist - A strange cover-up  (การปกปิดที่แปลกประหลาด)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ซึ่งหลังจากรายงานข่าว เจ้าหน้าที่ของการบินไทยชี้แจงว่า
“เป็นกฏการสื่อสารในภาวะวิกฤต ที่แนะนำโดย สตาร์อลิอันซ์ (เครือข่ายพันธมิตรสายการบิน)”
และแน่นอนค่ะโฆษกของสตาร์อลิอันซ์ให้สัมภาษณ์ตีแสกเข้ากลางหน้าเลยทีเดียว
ว่า…..ไม่เค๊ย ไม่เคยและไม่มีกฏระเบียบข้อไหนที่ระบุว่าให้ซ่อนเร้นอำพรางโลโก้==>ที่มา : CNN

แต่จากความคิดเห็นจากผู้รู้หลายๆท่านในพันทิปก็เลยให้กระจ่างว่า
สายการบินต่างๆเขาทำกันมานานแล้วค่ะ โดยวัตถุประสงค์เพื่อการลดความเสียหายของภาพลักษณ์องค์กร
เพราะผู้บริโภคก็จะติดตาแล้วเกิดรู้สึกไม่ดีเมื่อจะซื้อตั๋วเครื่องบินครั้งต่อไป (อันนี้เราก็เห็นด้วยค่ะ)

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนี่เป็นครั้งแรกค่ะ ที่สายการบินลบโลโก้ ได้โฉ่งฉ่างและเป็นเป้าสายตาหนักกว่าเดิม -*-

ด้วยความสงสัยส่วนตัว เราเลยลองขุดคุ้ยดูค่ะ ว่าจุดเริ่มต้นของการลบโลโก้หลังอุบัติเหตุมีที่มาตั้งแต่เมื่อไหร่

ปล1. รูปภาพข้างล่างต่อไปนี้ เป็นรูปภาพจากเหตุการณ์จริง ซึ่งล้วนเป็นโศกนาฎกรรมที่เศร้าสลด
อาจจะต้องทำใจก่อนดู และเราขอภาวนาให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกคนด้วยนะคะ

ปล2. ถ้าพอจะเห็นว่ากระทู้นี้ดีและมีประโยชน์ และไม่เป็นการรบกวนเกินไป  ชอบกดไลค์ใช่กดโหวตให้ด้วยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่