นี่เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจ และดีใจมากๆในชีวิตการฟังเพลงของผมที่ผ่านมาก็ไม่รู้กี่ปีละ เป็นสิ่งพิเศษสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นกับผมไม่บ่อยมากนัก  เมื่อวันหนึ่งอยู่ๆผมก็ได้เป็นผู้เขียนบทความรีวิวเพลงใหม่ของ Cocktail วงที่ผมยอมรับเลยว่าถวายตัวเป็นสาวกแบบเต็มขั้นไปแล้วตั้งแต่โดน “วราลี” เข้าไปจาก In The Memory of Summer Romance ซึ่งผมเคยยอมรับไปแล้วเมื่อตอนเขียนรีวิวถึง Cocktail ตอนก่อนนู้นว่า แรกๆผู้ฟังอาจจะไม่คุ้นหรือรู้สึกแปลกๆหน่อยกับการฟัง Cocktail แต่พอจับจุดได้แล้วปุ๊บ  คุณจะหลงรักชนิดหัวปักหัวปำจริงๆ  และวันนี้ผมได้รับการมอบหมายโดยตรงให้มาฟังซิงเกิล “โปรดเถิดรัก”  ก่อนที่จะมีการพรีเมียร์เปิดตัวซิงเกิลแบบเต็มๆเพลง .. เป็นอะไรที่โคตรรู้สึกพิเศษมากๆ  ถ้ามันเป็นงานเพลงของคนอื่น หรือวงอื่น ผมก็อาจจะรู้สึกดีใจ  แต่นี่มันเป็นวงที่ผมยกย่องและชื่นชม รวมถึงหลงใหลเอามาก ที่สำคัญวงนี้มีความหมายที่เป็นความทรงจำของชีวิตตัวผู้เขียนอยู่ด้วย การได้ฟังเพลงนี้ก่อนใครๆ จึงถือเป็นเรื่องพิเศษที่น่าจดจำ และจะจดจำมันไว้อีกครั้งนึงในชีวิตเลยครับ ซึ่งเมื่อก่อนนี้ผมก็เคยรีวิวแบบเต็มข้อกับอัลบั้ม Ten Thousand Tears ไปแล้วในพันทิปซึ่งนั่นก็เป็นอีกหนึ่งบทความรีวิวที่ดีที่สุดและมีความสุขที่สุดเท่าที่เคยเขียนมาเลย..  ขอบคุณ Cocktail ด้วยที่มอบหมายงานนี้มาให้ผมลองฟังและรีวิวดูแบบที่ไม่กลัวคำติด้วย เพราะผมเองก็เขียนบทความรีวิวเพลงในลักษณะอัดไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมอยู่แล้วถ้างานมันไม่ดี  แบบนี้แสดงว่าเพลงดีจริงแน่ๆ

         ความรู้สึกแรก หลังจากที่ได้รู้ว่า Cocktail จะออกซิงเกิลใหม่มาถัดจาก น้ำตาสุดท้าย ผมก็รู้สึกดีใจและคาดหวังค่อนข้างมาก เนื่องจากของเดิมที่เป็นซิงเกิลแรกอย่าง คุกเข่า นั้น ทำเอาไว้ดีมากในระดับที่ขึ้นชั้นเป็นเพลงในตำนานของคนฟังเพลงยุคนี้ไปแล้ว ที่ไม่ว่าอีกนานแค่ไหน เพลงนี้จะยังติดตรึงอยู่แน่นอน เรียกว่าปรากฏการณ์เลยสำหรับคุกเข่า  พอมาซิงเกิลถัดมาอย่าง น้ำตาสุดท้าย  ความคาดหวังมันเลยสูงลิบลิ่วหนักกว่าเมื่อก่อนอีก  ซึ่งน้ำตาสุดท้ายนี่ พูดกันตรงๆเลยก็คือกระแสจะเบากว่าคุกเข่าหน่อย  แต่สำหรับผมมันก็แค่กระแสแต่ตัวเพลงยังเยี่ยมอยู่  โอเคในฐานะแฟนเพลง ผมอยากให้ทางวงได้กระแสเยอะๆและดังหนักๆกว่านี้อีก แม้ซิงเกิลนั้นกระแสเบาลงไปนิดนึงแต่ในส่วนของตัวเพลงนั้น ยังมีคุณภาพจัดๆเหมือนเดิม  คือเพลงดีมาก ถ้ามีคะแนน ผมก็ให้คะแนนเต็ม10 เหมือนคุกเข่าเลย เพราะมันสมบูรณ์แบบในอย่างที่ตัวมันเป็น และมันเป็น Cocktail ชัดเจนด้วย  ดังนั้น เรื่องกระแสในวงกว้างสำหรับผมไม่สำคัญเท่ากับว่าทางวงรักษามาตรฐานได้ไหม  (ซึ่งก็ทำได้)  ดังนั้นสิ่งที่จะพูดต่อไปก็คือ ความคาดหวังต่อซิงเกิลนี้นั่นก็คือ อยากให้กระแสแรงๆมันตีกลับมาที่ซิงเกิลถัดไปนี้ ไม่จำเป็นต้องเปรี้ยงมากเหมือนระดับคุกเข่าก็ได้ แต่อยากให้ทุกคนได้เห็นถึงความทุ่มเทที่ทางวงใส่ใจรายละเอียดและอัดลงไปในซิงเกิลนี้มากกว่า นี่คือสิ่งที่ผมคาดหวัง ..

            สัมผัสแรกที่ผมได้จาก “โปรดเถิดรัก” นั่นก็คือทีเซอร์เวอร์ชั่น2 ที่ได้ดูจากการแชร์ของทางหน้าแฟนเพจใน FB ซึ่งผมตามอยู่ตลอด .. สิ่งแรกที่ได้เห็นจากทีเซอร์นี้คือความอลังการของเพลง ที่ต้องบอกได้ว่านี่คือการจัดเต็มขั้นรุนแรงด้วยการไปนำวงออเคสตร้าที่มีเครื่องสายเป็นหลักมาร่วมบรรเลงเป็นส่วนประกอบในเพลง ซึ่งเป็นจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของ Cocktail อยู่แล้วที่จะมีส่วนผสมผสานพวกเครื่องดนตรีคลาสสิคหรือเสียงแบบวงออร์เคสตร้าอยู่ในตัวเพลงด้วย  คือเอาง่ายๆ ทันทีที่ผมดูทีเซอร์นั้นจบ  ผมรู้สึกเหมือนแฟนเพลงทุกท่านนั่นแหละครับตั้งแต่รอบแรกเลยว่า ขนลุก จริงๆ แค่ทีเซอร์ก็ทำให้แฟนเพลงฟินถึงความละเมียดอลังการของมันแล้ว .. ยิ่งดูยิ่งอยากฟังเพลงเต็มหนักเข้าไปอีก อาการเหมือนคนลงแดงอยากยาแบบนั้นเลย  คืองานดีมากขนาดทำให้ฟินได้ตั้งแต่ทีเซอร์เพราะมันเพราะมากจริงๆ ยิ่งรอที่จะฟังตัวเต็มไม่ไหวเลย

และก็นั่นแหละครับ เหมือนฟ้าจะเมตตา วันต่อมาผมได้รับการติดต่อให้ลองรีวิวรอบสื่อกับเพลงนี้เลย และแน่นอนว่าห้ามส่งต่อ มันแหงอยู่แล้วล่ะ!!! อารมณ์การมีเพลงdemoหรือเพลงที่พร้อมจะปล่อยนี่ผมก็เข้าใจนะเพราะทำเบื้องหลังเพลงเหมือนกัน แต่การได้ฟังของคนอื่นก่อนวันปล่อยนี่มันเจ๋งจริงๆ และสิ่งที่หลายๆคนอาจจะอยากรู้หรือทนรอไม่ไหวแล้วที่จะได้รู้นั่นก็คือ เพลงนี้เป็นยังไง เนื้อหา ดนตรี?  .. สิ่งแรกก่อนเลย เพลงนี้ผมให้คะแนนเต็ม 10/10 จากการที่ได้ฟังแล้ว  ให้คะแนนเต็มในฐานะที่มันเป็นเพลงช้าของ Cocktail แบบที่เราคุ้นเคยกันดี  ถ้าหากว่าคุณเคยหลงรักเพลง  เวลา , เธอทำให้ฉันเสียใจ หรือรวมถึงเพลงเก่าอย่าง อาจเพราะ  .. ถ้าคุณชอบเพลงพวกนี้  เพลงโปรดเถิดรัก คืออีกหนึ่งซิงเกิลที่คุณจะต้องฟังมันอีกไม่รู้กี่สิบรอบเลยล่ะ  ถ้าหากว่าคุณเจอเพลงไม่ถูกใจมาก่อนที่จะฟัง Cocktail แล้ว ผมขอบอกว่า นั่นคือการ “ฟังเพลงธรรมดาเป็นหมื่นครั้ง เพื่อมาเจอความอลังการของ Cocktail” นั่นเอง  

     แม้มันจะไม่ได้ยิ่งใหญ่จัดเต็มเรื่องดนตรีถึงขนาดเป็นพวก Progressive Rock หรือเป็น Classic Rock แบบเต็มตัว  แต่สิ่งที่ Cocktail ทำได้ยอดเยี่ยมเสมอคือ การนำมิติของเพลงระดับสูงอย่างพวกออร์เคสตร้า  คลาสสิคพวกนี้  มาผสมผสานในแนวดนตรีเพลงร็อคในแบบที่คนทั่วๆไปก็สามารถเสพได้ง่ายๆไม่ต้องลำบากปีนบันไดฟังขนาดนั้น  สิ่งนี้แหละคือความเหนือชั้นของคอคเทล เพราะเชื่อเหอะ  วงที่อัดเต็มมาแต่ดนตรี แต่ไม่คำนึงถึงคนฟังเลย เกิดได้ยากมากๆ แต่ Cocktail ทำลายกำแพงด้วยสิ่งที่เรียกว่า Balance ในเพลง  ดังนั้นเพลงนี้จึงเป็นเพลง Ballad Rock แบบที่มีสัดส่วนของเครื่องสายแบบวงออร์เคสตร้าเข้ามาผสมผสาน ในพื้นฐานที่ยังเป็นเพลงร็อคแบบเมนสตรีมที่คนทั่วๆไปสามารถมีความสุขและเสพมันได้โดยง่ายนั่นเอง  ในพาร์ทของดนตรีสิ่งเดียวที่ผมจะพูดได้ก็คือ มันผสมผสานกันแบบลงตัว แต่ยังคงอลังการและยิ่งใหญ่นั่นแหละ  เรื่องดนตรีนี่คอนเฟิร์มเลยว่าไม่ผิดหวัง  คะแนนมีเท่าไหร่ก็ให้เต็มแหละ .. ขอบอกไว้ก่อนว่า  ในการตัดสินงานของ Cocktail นั้น ผมใช้มาตรฐานที่ผิดปกติไปจากการรีวิวเพลงทั่วๆไป  ศิลปินทั่วๆไปก็ตัดสินตามเนื้อผ้า แต่ว่า Cocktail สร้างมาตรฐานให้ตัวเองไว้สูงระดับที่นกอินทรียังบินไม่ถึง  ดังนั้นการตัดสิน มาตรฐานจึงสูงขึ้นไปอีก  แต่ถึงกระนั้นแล้ว เพลงเค้าก็ยังผ่านมาตรฐานและได้คะแนนเต็มอยู่ดี ก็ไม่รู้จะหาอะไรติเหมือนกัน - -“

พวกเครื่องสายต่างๆที่เราได้เห็นในTeaser ตัวอย่างนั้น  ก็มาเต็มแบบนั้นแหละ แต่ว่ามันไม่ได้มาแย่งซีนเพลง แต่มา Support ให้ตัวเพลง และตัวโครงหลักของเพลงที่คุณโอมแต่งมานั้น  มันโดดเด่นมาก  กล่าวคือตัวดนตรีไม่ได้สุดโต่งจนรก แต่มันกลับทำให้เนื้อหาและทำนองของเพลงมันไพเราะมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก ทำให้เพลงมันสละสลวย มันซอฟท์ล่องลอย และรู้สึกว่า “ความรัก” ในเนื้อหาของเพลงนั้น  มันช่างเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่และทรงพลังโคตรๆ .. ดังนั้นในส่วนของตัวดนตรีนั้นก็ทำหน้าที่สนับสนุนเพลงได้ชนิดที่เรียกว่า perfect10เลยครับ สิ่งนี้เหมือนเป็นพัฒนาการของ Cocktail ด้วยส่วนหนึ่ง เพราะถ้าเป็นงานเก่าๆ อาจจะมีความเข้มข้นของดนตรีมากกว่านี้ด้วยจึงอาจจะฟังยาก แต่นี่คือการบาลานซ์ที่เยี่ยมเลยล่ะ / นอกจากเครื่องสายแล้วนั้น ไลน์อื่นๆก็ยังคงรักษามาตรฐานและมีกลิ่นอายของ Cocktail อยู่เต็มเปี่ยมเช่นเคย  ไม่ว่าจะเป็นกลอง ไลน์เบส หรือไลน์กีต้าร์ที่เราคุ้นเคยถึงกลิ่นอายของมัน  ยังคงสวยงามและคงความนุ่มนวลแบบVintageอยู่อย่างครบถ้วนเลย  ดังนั้น ซิงเกิลโปรดเถิดรักนี้  ถ้าคาดหวังว่าจะเอาดนตรีออร์เคสตร้าร็อคโหดๆนั้น  อาจจะไม่ได้ตามสไตล์พวกหูขาโหด  แต่ถ้าเป็นความอลังการที่supportเนื้อหาละก็  อันนี้ล่ะใช่เลย

          วกไปดูที่ส่วนของเนื้อหานั้น .. เรื่องของ Lyrics เพลงนี้ค่อนข้างเยี่ยมยอดในแง่ของความ Simple ของมันเลย  ถ้าเป็นแฟนเพลง Cocktail เราจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า เนื้อร้องของ Cocktailโดยตาโอมนั้น  อยู่ในระดับของมือเขียนพวก Perfectionism คนนึงเลยที่ชอบเขียนเพลงโดยใช้ภาษาที่อลังการที่สุดเท่าที่จะทำได้ (ซึ่งมันก็รับกับดนตรีที่ขึ้นมาถึงขีดสุดเช่นกัน  ตรงนี้ผมว่าดี เพราะถ้าดนตรีแรง แต่เนื้อร้องกากๆธรรมดาๆ ผมว่าเพลงจะเข้าไม่ถึงเอา) อีกรายที่ภาษาคล้ายๆแบบนี้ก็ตาเฟิร์สวงสล็อทฯนั่นแหละแต่สองคนนี้ก็ไม่ได้คล้ายกันเลย เพราะเนื้อร้องนั้นมีลายเซ็นของใครของมัน  ซึ่งคุณโอมเขียนเนื้อเพลงได้สวยงามและแน่นอนในด้านการใช้ภาษาเก่าที่มีสัมผัส มีความคล้องจองแบบร่วมสมัย  เหมือนกับว่า เพลงของแกนี่เป็น Contemporary ทุกเพลงเลย ยิ่งเพลงไหนดนตรีเสริมๆอย่างเพลง วัย นี่  ฟังกันอร่อยเลยแหละ .. ทีนี้ ทีนี้  สิ่งที่จะพูดคือ “โปรดเถิดรัก” นี่เป็นอีกเพลงที่คุณโอมเขียนเนื้อร้องในแบบที่ไม่ได้เล่นคำสวยๆแปลกๆเยอะมากเหมือนบางเพลง  แต่เน้นในเรื่องของฟีลลิ่ง อารมณ์เพลงของคนที่ติดหล่มอยู่ในความรู้สึกต่อคนๆหนึ่ง ..และสิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือ “ความสวยงามของความรัก” ที่คุณโอมถ่ายทอดมาไม่ว่ามันจะเป็นความรักสีแดง สีดำ สีเทา สีขาวใดๆก็ตาม .. เนื้อเพลงของโปรดเถิดรักนั้น โดยรวมแล้ว เข้าใจง่าย  ฟังง่าย  ไม่ได้ใช้ภาษาซับซ้อนหรืออลังการมาก  ซึ่งผมก็ว่าดีไปอีกแบบ ดังนั้นเรื่อง Lyrics นั้นผมก็ให้คะแนนเต็มเช่นกัน  ไม่มีจุดไหนติเลยเพราะว่ามันยอดเยี่ยมมาก  

         เมโลดี้ของเพลงนั้น  มีหลายจุดเลยโดยเฉพาะช่วงimproviseช่วงท้ายๆเพลงที่ไม่ใช่verseปกติ  แฟนCocktailจะคุ้นเคยได้อย่างดีเลยหลายๆจุดว่า  เฮ้ย เมโลดี้ท่อนนี้แหละ  Cocktail แน่นอน  ไม่ใช่ว่ามันซ้ำกับของเก่า แต่มันมีกลิ่นอายเก่าๆในแบบที่เป็นCocktail ที่ไม่มีวงไหนหรือใครในโลกที่ทำได้แบบนี้อยู่แล้ว  เพราะในฐานะคนเขียนเพลงเช่นกัน  ถ้าหากใครที่ตั้งใจแต่งเพลงหรือเขียนเพลงด้วยตัวเองแล้วนั้น  แต่ละคนจะมีวิธีการคิดหรือการตกตะกอนจากสิ่งที่ตัวเองเจอ และออกมาเป็นงานที่แตกต่างกันไปแต่ละคน .. คุณโอมสร้างงานของตัวเองมานานแล้ว ทุกวันนี้มันตกตะกอนเป็นCocktailที่ข้นคลั่กไปแล้ว  ดังนั้น ทุกๆคนจะสัมผัสถึงเอกลักษณ์ของแกได้  และเมโลดี้ก็เช่นกัน  ลองไปหาฟังดูครับ  มันเป็นแบบที่ผมว่าจริงๆ  ส่วนภาพรวมนั้น  เมโลดี้เพลงนี้ยังสวยงามและนุ่มละมุนเอามากๆ คือฟังเพลิน สบาย มีความสุข  แม้ว่าเรนจ์ของมันจะไม่ได้กว้างหรือว่าขึ้นๆลงๆแบบกะทันหันเหมือนรถไฟเหาะ ตามปกติเมื่อก่อนที่Cocktailเคยทำ  แต่ทำนองมันไหลลื่นและFlowโคตรๆ  ที่สำคัญมันสวยงามและได้อารมณ์วินเทจจริงๆ บวกกับเสียงร้องที่ไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้วว่า  เนื้อเสียงบางๆของตาโอมที่แรกๆก็ไม่มีใครคิดว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้  แต่ทุกวันนี้แล้ว นี่คือเสียงเอกลักษณ์ วิธีการร้องเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือนแล้วจริงๆ..

มีต่อ คห.1 ด้านล่างครับ เนื่องจากยาวมาก กล่องข้อความพันทิปรับความเยอะของผมไม่ไหว