สวัสดีเพื่อนๆ พี่น้องชาวบลูแพลนเน็ตครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบเข้ามาหาข้อมูลเที่ยวที่ห้องนี้ และมักจะได้ข้อมูลดีๆ เพื่อเป็นแนวทางไปเที่ยวที่ต่างๆ และคราวนี้ก็ถึงคราวที่จะมารีวิวกะเค้าบ้าง เริ่มจากเมื่อวันที่ 6-8 กันยา 56 มีโอกาสได้มาเที่ยวเกาะช้างเป็นครั้งแรก ก็อาศัยลายแทงและข้อมูลจากห้องนี้ การเดินทางเริ่มต้นที่ซอยตากสิน 34 ไม่เอาดีกว่า เริ่มกันที่ออกจากกรุงเทพด้วยถนนมอเตอร์เวย์ และเลี้ยวซ้ายเข้า บ้านบึง-แกลง วิ่งมาตาม ทางหลวงหมายเลข 344 วิ่งตามป้าย จันทบุรี -> ตราด และก็วิ่งมาเรื่อยๆ จะเห็นป้ายเลี้ยวขวาเข้าท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติ เดินทางไมยากครับ ถนนค่อนข้างดี จะมีขรุขระนิดหน่อย ช่วงจันทบุรีเข้าตราด แต่ก็อาศัยขับตามไลน์รถเจ้าถิ่นที่รู้จักหลุมบ่อที่นี่เป็นอย่างดี

ถนนวิ่งเข้าสู่ท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติ เริ่มสัมผัสความสวยของธรรมชาตินิดๆ

ค่าใช้จ่ายแรกในการเดินทาง ค่าโดยสารเรือข้ามฟาก รถยนต์ 120 บาท ผู้โดยสาร 2 คนๆ ละ 80 บาท = 280 บาท ซึ่งเราไม่รู้ว่าถ้าซื้อ ไป-กลับ จะถูกลงอีกตามที่เรามารู้ทีหลัง T_T

ใช้เวลาบนเรือข้ามฟากไม่นาน ประมาณ 20 นาที่ก็ถึงเกาะช้าง ลงมาจากท่าเลี้ยวขวาและก็วิ่งดิ่งไปที่หาดทรายขาวรีสอร์ท อาศัย GPS จาก iPhone ขับมาประมาณ 10 นาที หาดทรายขาวก็แล้ว อ่าวพร้าวก็แล้ว ละไหนรีสอร์ทฉันล่ะ เลยครับ 3G กระตุก GPS ต๊อง มันจะพาเราไปไหนก็ไม่รู้ เลยวนกลับ ก่อนหน้านี้เคยมีเพื่อนๆ ในห้องนี้บอกกันว่าป้ายรีสอร์ทเล็กมาก ก็ว่าเตรียมตัวมาดีละนะ ขับช้า มองทุกป้ายยังเลย คราวนี้ก็ต้องโทรถามกับทางรีสอร์ท เค้าบอกว่า "อยู่ระหว่างเนินเขา ยังไม่ลงไปในเมืองค่ะ" อิอิ ถามแต่ทีแรกก็หมดเรื่อง และก็วิ่งย้อนไป กลางๆ เนินเขาที่เราผ่านมาทีแรก แล้วก็เห็นป้ายรีสอร์ท (เล็กจริงแต่ก็ไม่มาก แต่ก็พอที่จะทำให้เราสังเกตุเห็นได้ยาก) ทางลงมาที่รีสอร์ทมันส์มาก เล็ก แคบ ลาด ชัน ลื่น และเข้าออกทางเดียว ถ้ามีรถสวนมา ขับไม่แข็ง กะไม่ดี ก็มีโอกาสลงเหวไม่น้อย และแล้วก็มาถึง

ห้องของเรา A2 Beach View + อาหารเช้า 2 คืน จองผ่านอาโก 3222 บาท บังกะโลติดหาด ประมาณอารมณ์เดียวกับ ริมทะเล@เกาะล้าน (เข้าไปทักกันได้นะครับ^^*)โดยส่วนตัวชอบที่พักแบบนี้ ติดหาด ไม่ต้องเดินทางไปเล่นทะเลไกล ไม่ต้องมีอะไรมาอำนวยความสะดวกมากนัก แอร์+TV ก็พอ ที่สำคัญราคาเบาๆ

เนื้อที่ในห้องสำหรับ 2 คนเหลือเฟือ แอร์ CableTV ตู้เย็น ห้องน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น(สภาพใหม่มาก)

ทีเด็ดของที่นี่สำหรับห้องพักราคา 1,600 บาท คือ LCD รุ่นใหม่ที่สามารถอ่าน SD Card และช่องเสียบ USB ขอบอกว่ามีความสุขมากกก เพราะถ่ายรูปเสร็จเราเอาการ์ดมาเสียบที่วีนอนดูกันได้เลย และใครที่เอาหนังใส่ Ex Hdd มาก็เสียบดูกันยาวๆ เลย แต่ช่องเคเบิลเค้าก็มีหลายช่องนะ ดูกันเพลินๆ

ห้องเยอะพอควร

วิวหน้าห้องพัก เงียบ สงบ (เงียบไป มาพัก 3 วัน ศ ส อา เจอคนอื่นมาพักแค่ 2 ห้อง)

มื้อแรกทานกันที่รีสอร์ท เพราะตามข้อมูลบอกว่าที่นี่อาหารใช้ได้ ราคาไม่แพง

แต่ดูจากเมนูแล้วราคาก็ เท่ากับอาหารรีสอร์ททั่วไป เลยสั้งมากินแค่อิ่ม กะว่าจะออกไปหา กุ้ง ปู ทานข้างนอกกันต่อ
ชุดแรก คลับแซนวิช ยำตะไคร้กุ้งสด ขนมปังหน้าหมู โค้กลิตร ค่าเสียหายเกือบ 400 บาท (ทริปนี้จำราคาอาหารไม่ค่อยได้) ก็โอเคนะ รสชาติจัดจ้านดีระดับนึง

เจ้าถิ่นมาทักละ

อิ่มแล้ว แล้วก็ถึงเวลาบรรเลงชัตเตอร์

ถ้าพักห้อง A2 ต้นมะพร้าวต้นนี้ ก็จะเป็นของคุณโดยชอบธรรม ทรงมันประมาณต้นมะพร้าวที่อยู่บนเกาะหรูๆ ถ่ายรูปด้วยละออกมาสวย

งั้นเจิมก่อนเลย

แอคนี้ที่ขาดไม่ได้ ไม่งั้นทริปจะไม่สมบูรณ์

วันแรกปิดท้ายด้วยการออกไปขับรถและเดินเล่นซื้อของเล็กๆ น้อยๆ กับความเงียบเหงาของเกาะช้าง คงเป็นเพราะคืนวันศุกร์ เดี๋ยวพรุ่งนี้วันเสาร์คงจะคึกคักกว่านี้น่ะ กลับที่พัก นอน

เช้าวันเสาร์ ตื่นมาเริ่มเห็นเพื่อนบ้าน มาพักห้องข้างๆ ในใจคิดวันนี้คงเต็มน่ะ เพราะตอนจอง อาโกมันบอกว่าเหลือ 3 ห้องสุดท้าย ละก็เดินมาทานอาหารเช้า ที่นี่เค้ามีชุดอาหารเช้าให้เลือกประมาณ 5-6 อย่าง มีเป็นชุดข้าวต้ม, ชุดแพนงทูน่า, ชุดแพนเค้ก, ชุดออมเล็ต เราสั่งแพนงทูน่ากับแพนเค้ก เสริฟพร้อมกาแฟและโกโก้ร้อน น้ำส้มคั้น และตบด้วยผลไม้ 1 จาน สนนราคาชุดละ 150 บาท แต่ของเราเป็นราคารวมอาหารเช้าเลยไม่ต้องจ่าย รสชาติก็โอเคอีกล่ะ เสร็จแล้วก็เตรียมตัวลงทะเลเล่นน้ำ ชุ่มฉ่ำๆ

น้ำทะเลใสสะอาด ไม่คัน คลื่นลมพอประมาณ ชอบๆ

ที่ล้างเท้าก่อนขึ้นบันไดที่พัก น้ำแรงดี ล้างทรายได้เกลี้ยงเกลา

เล่นน้ำเสร็จเริ่มตระเวนเที่ยว หาของกิน

จากที่พักมาประมาณ 10 นาที ก็มาถึงจุดชมวิวเกาะช้าง วิวสวยมาก ขอบอก

บันเทิงเริงใจ

พาลูกบุญธรรมมาถ่ายรูปด้วย อิอิ

ตู้แดง โดดเด่น สิ่งที่พลาดไม่ได้

และก็ขับรถมาอีก ประมาณ 10 กว่าโล ผ่านอ่าวไก่แบ้ อ่าวLonley มาถึงชุมชนบางเบ้า มาถึงที่จอดรถตลาดบางเบ้า ค่าที่จอด 40 บาท พร้อมกับโปรโมชั่น ทานอาหารที่ร้านซีฟู้ดแห่งหนึ่งลด 10% ทานครบ 600 บาท คืนค่าจอดรถ!!! ด้วยความโลภจึงรีบไปร้านที่ว่า ก็ไม่แปลก เพราะราคาทุกอย่างก็บวกไปในตัว(แน่นอน) เลย เดินๆ ดูของ (เวลาประมาณบ่ายสอง) เงียบจริงๆ ไม่มีคนเลย เป็นเพราะเรามาไม่ถูกเวลาหรือป่าวก็ไม่รู้ เลยไม่ค่อยประทับใจสักเท่าไหร่กับที่นี่ เพราะว่าไกลและทางขับยากมาก

แวะกินขนมก่อน

เดินมาสุดชุมชน ก็เห็นบ้านเรือนของที่นี่ ชิลดี

***ที่นี่จะทีร้านนึงขายอาหารทะเลสดราคาถูก ปูม้าเป็นไซส์กำลังกิน โลละ 350 บาท กุ้งแชบ๊วยตัวใหญ่ โลละ 300 บาท เผื่อเพื่อนๆ มองหาอยู่ล่ะก็ ที่นี่มี

ขากลับถามแม่ค้าว่า ถนนที่นี่วนรอบเกาะหรือป่าว เค้าบอกว่าไม่อะ ไปอีก 3 กิโลก็สุดละ เลยต้องขับย้อนกลับไปทางเดิม แต่ก็มันดีเพราะทางโค้งเยอะ และเริ่มชินกับสภาพเส้นทาง แต่สงสารรถที่ต้องคอยปีนทางลาดชัน เปลืองน้ำมันด้วย

ขับหาของกินมาเรื่อยๆ ก็เจอร้านที่น่าจะเหมาะกับเพื่อนๆ ที่จะซื้อของไปทานกันเองที่ๆ พัก ร้านของทะเล จะมีอยู่ 2-3 ร้าน มีร้านนึงชื่อ เล เล ตอง ขายพวก กุ้ง หอย ปู ปลา (แช่) (บนเกาะนี้จะมีแต่กุ้งแชบ๊วย และลายเสือ ซึ่งราคาแต่ละอย่างจะค่อนค้างสูงกว่าเกาะล้านและเสม็ดมากๆ) และก็จะมีร้านเซอร์วิสปิ้งย่างอยู่ข้างๆ เลย แต่ไม่ได้ถามราคามาว่าเท่าไหร่ เพราะดูแล้วราคา ไปนั่งกินร้านซีฟู้ด หรือที่รีสอร์ทราคาน่าจะพอๆ กัน งั้นกลับไปกินที่รีสอร์ทดีกว่า

ไหนๆ ก็ไหนๆ แวะร้าน Coffee & Bakery กินของหวานกันซะหน่อย

ที่นี่จัดร้านได้น่ารักมักๆ

กลับที่พักมาชิลกันดีกว่า












ปลดปล่อยความเครียด จากงานนนนน!!!!


ละก็ฟินค่ะ

Dinner วันนี้จบลงด้วยอาหารกร่อยๆ เพราะทางรีสอร์ทไม่ได้เตรียมกุ้งเผาไว้ เลยอดกินกันเลย ก็เลยสั่งอาหารธรรมดามา ข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาว กุ้งชุบแป้งทอด และกับข้าวอีกอย่าง แต่ครัวบอกใช้เวลาทำนาน ก็เลยไม่เอา สั่งมาแค่สอง กินกันไปเพราะไม่หิวมาก ***ถึงตอนคิดเงิน 355 บาท!!?? สองอย่าง 355??? เลยขอดูบิล เค้าคิดมา 3 อย่าง เพราะทางเด็กเสริฟไม่ได้บอกทางเาเตอร์ว่าอาหารไม่ออก 1 อย่าง และน้องเค้าก็มาขอโทษเรา (ในใจคิดว่าไม่เป็นไร แต่ที่เล่าก็คืออยากให้เพื่อนๆ ตรวจบิลกันทุกครั้ง ของงี้มันพลาดกันได้)^^*

ข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาว ถือว่ารสจัด อร่อยเลยแหล่ะ

กุ้งชุบ กรอบ อร่อย ผ่านๆ

ยังมีวันสุดท้ายที่น้ำตกคลองพลูเดี๋ยวจะมารีวิวต่อน๊าาาาา