คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
ผมเป็นผู้นึงที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับ"โรฮิงยา"
จึงขอแย้งกับคห.ที่ 5 นะครับที่มาออกความเห็น
แบบขาดพื้นฐานความรู้ความเข้าใจอย่างไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่เดิมก็เข้าใจคล้ายกับคห.ที่ 5 นั่นแหละ
เพราะจากรูปพรรณสัณฐาน ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าน่าจะอพยพมาจากบังคลาเทศ
เมื่อไปศึกษาดู พร้อมกับได้เห็นการสัมภาษณ์คนฒ่าคนแก่ชาวโรฮิงยาด้วยแล้ว
"โรฮิงยา"คือ"โรฮิงยา" มิใช่บังคลาเทศ
ขอเล่ายาวหน่อยนะครับเพื่อจะได้รู้ต้นรู้ปลายพอสังเขป และจะไม่ลงไปในรายละเอียดมากนัก
ถ้าอยากทราบจริงๆก็คงต้องไปค้นเอาจากอากู๋ ซึ่งผมก็หาเอาจากนั่นเหมือนกัน
ต้นตอของปัญหาคือนักล่าอาณานิคมอังกฤษเจ้าประจำที่ไปขี้กองเหม็นไว้ทั่วโลก
จากนั้นบ้านใครก็เช็ดล้างกันเอาเอง
เดิมภูมิภาคนี้ถูกอารยธรรม และอิทธิของอาหรับขยายเข้ามาถึง ชึ่งประกอบไปด้วยชนเผ่าต่างๆหลายเผ่า
แคว้นยะไข่ก็เป็นส่วนนึงที่ได้รับอิทธิพลสืบเชื้อสายจากชาวอาหรับ ตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโมกุล คือโรฮิงยานี่แหละครับ
พม่าสมัยนั้นนอกจากสู้รบกับไทย (พระนเรศวร)แล้ว ก็ยังต้องสู้รบกับชนแคว้นต่างๆที่อยู่ตอนบนของประเทศ
โรฮิงยาสมัยนั้นมีประวัติการบที่เก่งกาจเป็นที่หวาดระแวงไปถึงอินเดีย
เมื่ออังกฤษเข้ามาปกครอง ก็พยายามรวมเอาแคว้นต่างๆด้านบนไปด้วยทั้งหมด
นายพลอูอองซาน(บิดาของอองซานซูจี) ได้ร่วมมือกับกองทัพญี่ปุ่น และรวบรวมชนชาติต่าง ๆ
ในพม่าที่ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เข้าร่วมกันต่อสู้เพื่อประกาศอิสรภาพ
โดยมี "สนธิสัญญาปางโหลง" เป็นเครื่องรับประกันในการได้รับชนชาติต่าง ๆ
จะได้รับเอกราช หลังจากได้รับชัยชนะ และ "แคว้นยะไข่" ก็คือหนึ่งในชนชาติที่เข้าร่วมต่อสู้
เพื่อประกาศอิสรภาพของพม่าในครั้งนั้น
นายพลอองซาน ได้ถูกลอบสังหารพร้อมกับสมาชิกสภาอีก 6 คน
โดยมิทันได้เห็นการประกาศเอกราชของพม่า ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2491
และ "สนธิสัญญาปางโหลง" ได้ถูกนายพลเนวิน ที่กระทำรัฐประหารฉีกข้อตกลงนี้ทิ้งไป
ทำให้ดินแดนยะไข่ และดินแดนของชนชาติอื่น ๆ ในพม่ามิได้รับอิสรภาพอย่างแท้จริง
พื้นที่ทั้งหมดจึงได้ชื่อเป็นประเทศพม่าไปโดยปริยาย
พม่าไม่ต้องการชนชาติยะไข่สายโรฮิงยา ซึ่งถือว่าเป็นปรปักษ์โดยตรงกับรัฐบาล
จะขับไล่ก็ไม่รู้จะให้ไปที่ไหน เคยใช้กำลังทหารกวาดต้อนข้ามไปฝั่งบังคลาเทศ
โดยเข้าใจว่าน่าจะอยู่ด้วยกันได้ แต่ถูกทหารบังคลาเทศยิงล้มตายกลางแม่น้ำเสียมากมาย
เพราะพูดกันคนละภาษา เนื่องจากพื้นฐานที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
พม่ากดดันทุกวิถีทาง ไม่ให้เด็กเรียนหนังสือ หรือหาความรู้ใดๆ อยู่ในพื้นที่จำกัด
เราจึงเห็นชาวโรฮิงยาตามข่าวภาพต่างๆ เหมือนกับพวกทีมาจากสังคมที่ขาดความเจริญ
ไม่ให้ทำบัตรประชาชน เพราะถือว่าไม่ใช่คนพม่า ซึ่งอันนี้ทำให้ชาวโรฮิงยาทุกคนกลายเป็นคนเถื่อน
แม้แต่ในประเทศพม่าเอง ไทยเราพยายามผลักดันกลับเมื่อพบว่าหลบหนีเข้ามา
พม่าก็ไม่ยอมรับเพราะถือว่าเป็นพวกคนเถื่อนไม่มีเอกสารหลักฐานใดๆทั้งสิ้น
พม่าพยายามใช้ทุกวิถืทางแม้แต่ให้ประชาชนฆ่ากันเอง โดยยืมมือชาวยะไข่ที่เป็นชาวพุทธ
ทหารพม่ายืนดูเฉยๆ ด้วยความสะใจ พม่าไม่อยากได้ครับคนเหล่านี้
แม้กระทั่งอองซานซูจี ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญในเรื่องมนุษยชน กลับเงียบเป็นเป่าสากเอาพอประมาณแค่นี้
****ผิด ตก บกพร่องขอน้อมรับ และช่วยแก้ไขให้ผมด้วยนะครับ
ป.ล.แม้กระทั่ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็มีที่มาที่ไปน่าสนใจไม่นัอย ถ้ามีโอกาสคงได้มาเล่าให้ฟัง
และมีหลายคนชอบต่อว่าคนพวกนี้ว่ามาอาศัยบ้านเมืองเค้าอยู่ ยังจะมาทำตัวน่ารังเกียจ และไล่ให้ออกไป
ขอบอกว่าคนเหล่านี้เค้าอยู่ที่ตรงนั้นมาก่อน ที่(สยาม)ไทยจะไปครอบครองยึดดินแดน มีการเมืองการปกครองของตนเอง
เรื่องราวละเอียดอ่อนพอสมควร เพราะมันมีการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง ขอฝากไว้ก่อนนะครับ
จึงขอแย้งกับคห.ที่ 5 นะครับที่มาออกความเห็น
แบบขาดพื้นฐานความรู้ความเข้าใจอย่างไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่เดิมก็เข้าใจคล้ายกับคห.ที่ 5 นั่นแหละ
เพราะจากรูปพรรณสัณฐาน ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าน่าจะอพยพมาจากบังคลาเทศ
เมื่อไปศึกษาดู พร้อมกับได้เห็นการสัมภาษณ์คนฒ่าคนแก่ชาวโรฮิงยาด้วยแล้ว
"โรฮิงยา"คือ"โรฮิงยา" มิใช่บังคลาเทศ
ขอเล่ายาวหน่อยนะครับเพื่อจะได้รู้ต้นรู้ปลายพอสังเขป และจะไม่ลงไปในรายละเอียดมากนัก
ถ้าอยากทราบจริงๆก็คงต้องไปค้นเอาจากอากู๋ ซึ่งผมก็หาเอาจากนั่นเหมือนกัน
ต้นตอของปัญหาคือนักล่าอาณานิคมอังกฤษเจ้าประจำที่ไปขี้กองเหม็นไว้ทั่วโลก
จากนั้นบ้านใครก็เช็ดล้างกันเอาเอง
เดิมภูมิภาคนี้ถูกอารยธรรม และอิทธิของอาหรับขยายเข้ามาถึง ชึ่งประกอบไปด้วยชนเผ่าต่างๆหลายเผ่า
แคว้นยะไข่ก็เป็นส่วนนึงที่ได้รับอิทธิพลสืบเชื้อสายจากชาวอาหรับ ตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโมกุล คือโรฮิงยานี่แหละครับ
พม่าสมัยนั้นนอกจากสู้รบกับไทย (พระนเรศวร)แล้ว ก็ยังต้องสู้รบกับชนแคว้นต่างๆที่อยู่ตอนบนของประเทศ
โรฮิงยาสมัยนั้นมีประวัติการบที่เก่งกาจเป็นที่หวาดระแวงไปถึงอินเดีย
เมื่ออังกฤษเข้ามาปกครอง ก็พยายามรวมเอาแคว้นต่างๆด้านบนไปด้วยทั้งหมด
นายพลอูอองซาน(บิดาของอองซานซูจี) ได้ร่วมมือกับกองทัพญี่ปุ่น และรวบรวมชนชาติต่าง ๆ
ในพม่าที่ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เข้าร่วมกันต่อสู้เพื่อประกาศอิสรภาพ
โดยมี "สนธิสัญญาปางโหลง" เป็นเครื่องรับประกันในการได้รับชนชาติต่าง ๆ
จะได้รับเอกราช หลังจากได้รับชัยชนะ และ "แคว้นยะไข่" ก็คือหนึ่งในชนชาติที่เข้าร่วมต่อสู้
เพื่อประกาศอิสรภาพของพม่าในครั้งนั้น
นายพลอองซาน ได้ถูกลอบสังหารพร้อมกับสมาชิกสภาอีก 6 คน
โดยมิทันได้เห็นการประกาศเอกราชของพม่า ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2491
และ "สนธิสัญญาปางโหลง" ได้ถูกนายพลเนวิน ที่กระทำรัฐประหารฉีกข้อตกลงนี้ทิ้งไป
ทำให้ดินแดนยะไข่ และดินแดนของชนชาติอื่น ๆ ในพม่ามิได้รับอิสรภาพอย่างแท้จริง
พื้นที่ทั้งหมดจึงได้ชื่อเป็นประเทศพม่าไปโดยปริยาย
พม่าไม่ต้องการชนชาติยะไข่สายโรฮิงยา ซึ่งถือว่าเป็นปรปักษ์โดยตรงกับรัฐบาล
จะขับไล่ก็ไม่รู้จะให้ไปที่ไหน เคยใช้กำลังทหารกวาดต้อนข้ามไปฝั่งบังคลาเทศ
โดยเข้าใจว่าน่าจะอยู่ด้วยกันได้ แต่ถูกทหารบังคลาเทศยิงล้มตายกลางแม่น้ำเสียมากมาย
เพราะพูดกันคนละภาษา เนื่องจากพื้นฐานที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
พม่ากดดันทุกวิถีทาง ไม่ให้เด็กเรียนหนังสือ หรือหาความรู้ใดๆ อยู่ในพื้นที่จำกัด
เราจึงเห็นชาวโรฮิงยาตามข่าวภาพต่างๆ เหมือนกับพวกทีมาจากสังคมที่ขาดความเจริญ
ไม่ให้ทำบัตรประชาชน เพราะถือว่าไม่ใช่คนพม่า ซึ่งอันนี้ทำให้ชาวโรฮิงยาทุกคนกลายเป็นคนเถื่อน
แม้แต่ในประเทศพม่าเอง ไทยเราพยายามผลักดันกลับเมื่อพบว่าหลบหนีเข้ามา
พม่าก็ไม่ยอมรับเพราะถือว่าเป็นพวกคนเถื่อนไม่มีเอกสารหลักฐานใดๆทั้งสิ้น
พม่าพยายามใช้ทุกวิถืทางแม้แต่ให้ประชาชนฆ่ากันเอง โดยยืมมือชาวยะไข่ที่เป็นชาวพุทธ
ทหารพม่ายืนดูเฉยๆ ด้วยความสะใจ พม่าไม่อยากได้ครับคนเหล่านี้
แม้กระทั่งอองซานซูจี ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญในเรื่องมนุษยชน กลับเงียบเป็นเป่าสากเอาพอประมาณแค่นี้
****ผิด ตก บกพร่องขอน้อมรับ และช่วยแก้ไขให้ผมด้วยนะครับ
ป.ล.แม้กระทั่ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็มีที่มาที่ไปน่าสนใจไม่นัอย ถ้ามีโอกาสคงได้มาเล่าให้ฟัง
และมีหลายคนชอบต่อว่าคนพวกนี้ว่ามาอาศัยบ้านเมืองเค้าอยู่ ยังจะมาทำตัวน่ารังเกียจ และไล่ให้ออกไป
ขอบอกว่าคนเหล่านี้เค้าอยู่ที่ตรงนั้นมาก่อน ที่(สยาม)ไทยจะไปครอบครองยึดดินแดน มีการเมืองการปกครองของตนเอง
เรื่องราวละเอียดอ่อนพอสมควร เพราะมันมีการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง ขอฝากไว้ก่อนนะครับ
แสดงความคิดเห็น
มุสลิมเป็นพี่น้องกัน เปรียบประดุจเรือนร่างเดียวกัน จริงหรือ ???
แล้วทำไมถึงไม่มีใครช่วยพวกเขาเลย