ถ้าเป็นนักกีฬา จะประเภทไหนก็แล้วแต่ หากยิ่งเล่นแล้วหาผลชนะไม่ได้ ก็คงถือว่านักกีฬาคนนั้นสมรรถนะกีฬาเริ่มถดถอย บางคนก็จะเลิกเล่นไปประกอบอาชีพอื่น หรือบางคนมีภูมิรู้มาก ประสบการณ์สูงก็เปลี่ยนไปเป็นผู้ฝึกสอน ทำนองนี้มีให้เห็นเนืองๆ...!!!
ถ้าเป็นดารา หลังจากหลุดวงจรฟรีเวอร์แล้วก็มักจะค่อยๆหายหน้าหายตาไป แต่บางคนก็ซุ่มฟิตซ้อมเพื่อกลับมาใหม่ ที่กลับมาได้ก็มี บางคนก็เปลี่ยนไปเป็นผู้จัด ผู้กำกับ หรือบางคนก็หลุดออกจากวงโคจรหายหน้าไปเลยก็มาก ได้ข่าวอีกที เอ้าป่วยซะแล้ว..!!!!
ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา ดาราการแสดง หรืออาชีพอะไรก็ตามที่ต้องพึ่งปริมาณคนจำนวนมาก คนที่อยู่ยงคงกระพันได้นานที่สุด ถ้าเป็นนักกีฬาก็จะเป็นประเภทขยันฝึก ขยันซ้อม ไม่มีเรื่องด่างพล้อย หรืออย่างดาราก็รับเล่นบทที่เหมาะกับคาแร๊คเตอร์ ดูแล้วทำให้แฟนๆอินไปกับบทบาทเหล่านั้นมากที่สุด นานที่สุด และผลงานออกมาดีที่สุดอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญคือหาเรื่องมัวหมองไม่มี....!!!!
ย้อนกลับมาที่ราชดำเนินแห่งนี้
วันนี้การเมืองแบ่งออกเป็นสองซีก
ซีกหนึ่งสำหรับคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
อีกซีกหนึ่งสำหรับคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี
ทั้งสองซีก ต่างก็มีแฟนคลับเป็นของตนเองอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง..!!
ทั้งสองซีกต่างก็พยายามที่จะเพิ่มปริมาณฐานมวลชนให้กับตนเอง..!!
และทั้งสองซีก ต่างก็กำลังทำสงครามแย่งชิงมวลชนกันอย่างถึงพริกถึงขิง..!!
ไม่แปลกอะไรเลยสำหรับการเมืองในระบอบประชาธิปไตย
เพราะฐานเสียงจากมวลชนเป็นทรัพยากรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับการดำรงอยู่ทางบทบาททางการเมืองของพรรคการเมือง
แต่วันนี้ รู้สึกแปลกใจ และประหลาดใจจนอดไม่ไหวที่จะต้อวงมาตั้งกระทู้สนทนา
เพรียกหาคนคิดเหมือนหรือคิดต่าง ด้วยคำถามว่า ทำไม????
หากเปรียบเทียบ ด้วยผลและพฤติกรรมที่ผ่านมาของทั้งสองซีกในด้านจุดแข็ง
1.ว่าด้วยเรื่องฐานเสียง
คุณอภิสิทธิ์ เหนือกว่าคุณยิ่งลักษณ์หลายขุม "ในด้านความสัมพันธ์กับคนระดับสูงของสังคม" นับว่าเป็น จุดแข็งของคุณอภิสิทธิ์
คุณยิ่งลักษณ์ เหนือกว่าคุณอภิสทธิ์หลายขุม "ในด้านการครองใจคนระดับฐานล่างของสังคม" นับเป็นจุดแข็งของคุณยิ่งลักษณ์
2.ว่าด้วยเรื่องพฤติกรรมส่วนตัว
คุณอภิสิทธิ์ เหนือกว่าคุณยิ่งลักษณ์หลายขุม "ในด้านการพูด จนเกิดเป็นความเชื่อมั่นในตนเอง" เป็นจุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณ
อภิสิทธิ์
คุณยิ่งลักษณ์ เหนือกว่าคุณอภิสิทธิ์หลายขุม "ในเรื่องกริยามารยาท ความอ่อนน้อมถ่อมตน" เป็นจุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ของคุณยิ่งลักษณ์
3.ว่าด้วยกระบวนการบริหารจัดการ
คุณอภิสิทธิ์ เหนือกว่าคุณยิ่งลักษณ์ ที่สามารถนำเสนอเนื้องานได้อย่างเป็นระบบ
คุณยิ่งลักษณ์ เหนือกว่าคุณอภิสิทธิ์ ที่สามารถบริหารจัดการได้อย่างรวดเร็วเห็นผลทันที
เมื่อพิจารณาจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย แต่ละฝ่ายก็จะสามารถเรียนรู้แบบ "รู้เขา"ได้เป็นอย่างดี และนำจุดเหล่านี้มาพัฒนาตนเองเพื่อ"กำจัดจุดอ่อนของตนเองออกไป"
คำถามที่เกิดจากความข้องใจอย่างมากก็คือ ทำไม????
ถามซีกฝ่ายรัฐบาล....สัก 3 ข้อ??
1. รู้ทั้งรู้ว่าอีกซีกเขาโจมตีเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่ ทำไมไม่รีบแก้ไข ยกตัวอย่างเช่น การแถลงผลงานรายปีของรัฐบาล รู้ทั้งรู้ว่าเป็นหน้าที่ ทำไมไม่รีบทำ ทำไมถึงปล่อยให้คาราคาซังมาจนป่านนี้
2. รู้ทั้งรู้ว่าการ นอกจากการขยันทำงานแล้วต้องขยันทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกสภาด้วย ก่อนจะไปทำอย่างอื่น ทำไมไม่ไปสภาซะก่อนถ้าในวันนั้นมีการประชุม จะไปไหนก็บอกกล่าวเป็นเรื่องเป็นราวซะ
3. รู้ทั้งรู้ว่าเป็นนายกรัฐมนตรี มีความจำเป็นต้องใช้ทักษะการพูด ทำไมไม่พัฒนาทักษะการพูดให้มันดีกว่านี้
มีเรื่องให้ฝ่ายค้านเขาเล่นอยู่ไม่กี่เรื่อง...ทำไมไม่แก้ไขซะ ทำอย่างอื่นก็ดูดีอยู่หรอกนะ โดยเฉพาะการตั้งใจทำงาน ตั้งใจแก้ปัญหาและเดินเข้าไปหาทุกฝ่ายเพื่อขอความร่วมมือ เรื่องใหญ่ๆทั้งนั้น กะเรื่องแค่ไม่กั่เรื่องนี่ ทำไมไม่แก้ไขซะที .มันติดขัดอะไรนักหนา...
ใครรู้ช่วยตอบหน่อย..สงสัยจริงๆ
ถามซีกฝ่ายค้านบ้าง.......สัก 3 ข้อ??
1. รู้ทั้งรู้ว่าเป็นพรรคการเมือง ต้องสร้างมวลชน แต่ทำไมจึงขยัน "ทำลายมวลชน" กันจัง กลยุทธ์โจมตีรัฐบาลเพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตนเองนั้น รู้ทั้งรู้ มันเล่นได้เป็นบางเรื่องเท่านั้นแหละ.....ทำไมไม่คิด...ทำไม???
2. เป็นหัวหน้าพรรค ทำไมไม่สร้างบรรทัดฐาน ในการพัฒนา ยกระดับพรรค ทำไมขยันทำลายพรรคด้วยการสนับสนุนให้ลูกพรรคแสดงพฤติกรรมถ่อยๆเถื่อนๆบ่อยมากเหลือเกิน...ทำไม.???
3.เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี การค้านรัฐบาลถือเป็นเรื่องปกติ เอานโยบายมาค้านไม่ได้หรือ ทำไมชอบที่จะใช้คำกล่าวหาไปดูถูกดูหมิ่นนากรัฐมนตรีถึงขนาดเย้ยหยันเขาว่า"โง่" เป็นลูกผู้ชายขนาดนี้ ทำไปได้อย่างไร...ทำทำไม????
รู้...ใครๆเขาก็เข้าใจ ว่าอยากเป็นรัฐบาล.....สิ่งอันใดที่มันทำไปแล้วดูไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตีรวนในสภา การกล่าวหาผู้หญิง (ซึ่งมันไม่ควรที่คุณอภิสิทธิ์จะออกมาแสดงเองขนาดนั้น)..ทำแบบนี้มันจะได้ใจใคร อย่าบอกเลยว่าเอาใจแฟนๆ แฟนๆของคุณมีอยู่กี่คนเชียว...รู้ไม๊ว่าเพราะพฤติกรรมของคุณและพรรค แฟนคลับของคุณหายไปเยอะขนาดไหน ทำไมไม่รู้จักคิด...ทำทำไม????
ถามหน่อยเถอะ...ที่ผ่านมาภาพดีๆก็ไม่ค่อยจะมีให้เห็นอยู่แล้ว ถ้านับกันตั้งแต่ก่อนเป็นรัฐบาลสองสามปี จนเป็นรัฐบาลและเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายค้านในวันนี้ ..
แล้วนี่ยังจะขยันสร้างภาพที่เป็นผลเสียกับพรรคอยู่ทำไม... มันกลายเป็นว่า คุณยิ่งเล่นการเมืองคุณยิ่งแย่ลงทุกวันๆ เหนืออื่นใด มันทำให้ภาพของประเทศแย่ลงไปมากขึ้นทุกที....สำเหนียกรู้สักนิดหรือเปล่า........คุณทำ...ทำไม???
ใครรู้ช่วยตอบที..สงสัยจริงๆ??
ยิ่งเล่นยิ่งแย่
ถ้าเป็นดารา หลังจากหลุดวงจรฟรีเวอร์แล้วก็มักจะค่อยๆหายหน้าหายตาไป แต่บางคนก็ซุ่มฟิตซ้อมเพื่อกลับมาใหม่ ที่กลับมาได้ก็มี บางคนก็เปลี่ยนไปเป็นผู้จัด ผู้กำกับ หรือบางคนก็หลุดออกจากวงโคจรหายหน้าไปเลยก็มาก ได้ข่าวอีกที เอ้าป่วยซะแล้ว..!!!!
ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา ดาราการแสดง หรืออาชีพอะไรก็ตามที่ต้องพึ่งปริมาณคนจำนวนมาก คนที่อยู่ยงคงกระพันได้นานที่สุด ถ้าเป็นนักกีฬาก็จะเป็นประเภทขยันฝึก ขยันซ้อม ไม่มีเรื่องด่างพล้อย หรืออย่างดาราก็รับเล่นบทที่เหมาะกับคาแร๊คเตอร์ ดูแล้วทำให้แฟนๆอินไปกับบทบาทเหล่านั้นมากที่สุด นานที่สุด และผลงานออกมาดีที่สุดอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญคือหาเรื่องมัวหมองไม่มี....!!!!
ย้อนกลับมาที่ราชดำเนินแห่งนี้
วันนี้การเมืองแบ่งออกเป็นสองซีก
ซีกหนึ่งสำหรับคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
อีกซีกหนึ่งสำหรับคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี
ทั้งสองซีก ต่างก็มีแฟนคลับเป็นของตนเองอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง..!!
ทั้งสองซีกต่างก็พยายามที่จะเพิ่มปริมาณฐานมวลชนให้กับตนเอง..!!
และทั้งสองซีก ต่างก็กำลังทำสงครามแย่งชิงมวลชนกันอย่างถึงพริกถึงขิง..!!
ไม่แปลกอะไรเลยสำหรับการเมืองในระบอบประชาธิปไตย
เพราะฐานเสียงจากมวลชนเป็นทรัพยากรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับการดำรงอยู่ทางบทบาททางการเมืองของพรรคการเมือง
แต่วันนี้ รู้สึกแปลกใจ และประหลาดใจจนอดไม่ไหวที่จะต้อวงมาตั้งกระทู้สนทนา
เพรียกหาคนคิดเหมือนหรือคิดต่าง ด้วยคำถามว่า ทำไม????
หากเปรียบเทียบ ด้วยผลและพฤติกรรมที่ผ่านมาของทั้งสองซีกในด้านจุดแข็ง
1.ว่าด้วยเรื่องฐานเสียง
คุณอภิสิทธิ์ เหนือกว่าคุณยิ่งลักษณ์หลายขุม "ในด้านความสัมพันธ์กับคนระดับสูงของสังคม" นับว่าเป็น จุดแข็งของคุณอภิสิทธิ์
คุณยิ่งลักษณ์ เหนือกว่าคุณอภิสทธิ์หลายขุม "ในด้านการครองใจคนระดับฐานล่างของสังคม" นับเป็นจุดแข็งของคุณยิ่งลักษณ์
2.ว่าด้วยเรื่องพฤติกรรมส่วนตัว
คุณอภิสิทธิ์ เหนือกว่าคุณยิ่งลักษณ์หลายขุม "ในด้านการพูด จนเกิดเป็นความเชื่อมั่นในตนเอง" เป็นจุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณ
อภิสิทธิ์
คุณยิ่งลักษณ์ เหนือกว่าคุณอภิสิทธิ์หลายขุม "ในเรื่องกริยามารยาท ความอ่อนน้อมถ่อมตน" เป็นจุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ของคุณยิ่งลักษณ์
3.ว่าด้วยกระบวนการบริหารจัดการ
คุณอภิสิทธิ์ เหนือกว่าคุณยิ่งลักษณ์ ที่สามารถนำเสนอเนื้องานได้อย่างเป็นระบบ
คุณยิ่งลักษณ์ เหนือกว่าคุณอภิสิทธิ์ ที่สามารถบริหารจัดการได้อย่างรวดเร็วเห็นผลทันที
เมื่อพิจารณาจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย แต่ละฝ่ายก็จะสามารถเรียนรู้แบบ "รู้เขา"ได้เป็นอย่างดี และนำจุดเหล่านี้มาพัฒนาตนเองเพื่อ"กำจัดจุดอ่อนของตนเองออกไป"
คำถามที่เกิดจากความข้องใจอย่างมากก็คือ ทำไม????
ถามซีกฝ่ายรัฐบาล....สัก 3 ข้อ??
1. รู้ทั้งรู้ว่าอีกซีกเขาโจมตีเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่ ทำไมไม่รีบแก้ไข ยกตัวอย่างเช่น การแถลงผลงานรายปีของรัฐบาล รู้ทั้งรู้ว่าเป็นหน้าที่ ทำไมไม่รีบทำ ทำไมถึงปล่อยให้คาราคาซังมาจนป่านนี้
2. รู้ทั้งรู้ว่าการ นอกจากการขยันทำงานแล้วต้องขยันทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกสภาด้วย ก่อนจะไปทำอย่างอื่น ทำไมไม่ไปสภาซะก่อนถ้าในวันนั้นมีการประชุม จะไปไหนก็บอกกล่าวเป็นเรื่องเป็นราวซะ
3. รู้ทั้งรู้ว่าเป็นนายกรัฐมนตรี มีความจำเป็นต้องใช้ทักษะการพูด ทำไมไม่พัฒนาทักษะการพูดให้มันดีกว่านี้
มีเรื่องให้ฝ่ายค้านเขาเล่นอยู่ไม่กี่เรื่อง...ทำไมไม่แก้ไขซะ ทำอย่างอื่นก็ดูดีอยู่หรอกนะ โดยเฉพาะการตั้งใจทำงาน ตั้งใจแก้ปัญหาและเดินเข้าไปหาทุกฝ่ายเพื่อขอความร่วมมือ เรื่องใหญ่ๆทั้งนั้น กะเรื่องแค่ไม่กั่เรื่องนี่ ทำไมไม่แก้ไขซะที .มันติดขัดอะไรนักหนา...
ใครรู้ช่วยตอบหน่อย..สงสัยจริงๆ
ถามซีกฝ่ายค้านบ้าง.......สัก 3 ข้อ??
1. รู้ทั้งรู้ว่าเป็นพรรคการเมือง ต้องสร้างมวลชน แต่ทำไมจึงขยัน "ทำลายมวลชน" กันจัง กลยุทธ์โจมตีรัฐบาลเพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตนเองนั้น รู้ทั้งรู้ มันเล่นได้เป็นบางเรื่องเท่านั้นแหละ.....ทำไมไม่คิด...ทำไม???
2. เป็นหัวหน้าพรรค ทำไมไม่สร้างบรรทัดฐาน ในการพัฒนา ยกระดับพรรค ทำไมขยันทำลายพรรคด้วยการสนับสนุนให้ลูกพรรคแสดงพฤติกรรมถ่อยๆเถื่อนๆบ่อยมากเหลือเกิน...ทำไม.???
3.เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี การค้านรัฐบาลถือเป็นเรื่องปกติ เอานโยบายมาค้านไม่ได้หรือ ทำไมชอบที่จะใช้คำกล่าวหาไปดูถูกดูหมิ่นนากรัฐมนตรีถึงขนาดเย้ยหยันเขาว่า"โง่" เป็นลูกผู้ชายขนาดนี้ ทำไปได้อย่างไร...ทำทำไม????
รู้...ใครๆเขาก็เข้าใจ ว่าอยากเป็นรัฐบาล.....สิ่งอันใดที่มันทำไปแล้วดูไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตีรวนในสภา การกล่าวหาผู้หญิง (ซึ่งมันไม่ควรที่คุณอภิสิทธิ์จะออกมาแสดงเองขนาดนั้น)..ทำแบบนี้มันจะได้ใจใคร อย่าบอกเลยว่าเอาใจแฟนๆ แฟนๆของคุณมีอยู่กี่คนเชียว...รู้ไม๊ว่าเพราะพฤติกรรมของคุณและพรรค แฟนคลับของคุณหายไปเยอะขนาดไหน ทำไมไม่รู้จักคิด...ทำทำไม????
ถามหน่อยเถอะ...ที่ผ่านมาภาพดีๆก็ไม่ค่อยจะมีให้เห็นอยู่แล้ว ถ้านับกันตั้งแต่ก่อนเป็นรัฐบาลสองสามปี จนเป็นรัฐบาลและเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายค้านในวันนี้ ..
แล้วนี่ยังจะขยันสร้างภาพที่เป็นผลเสียกับพรรคอยู่ทำไม... มันกลายเป็นว่า คุณยิ่งเล่นการเมืองคุณยิ่งแย่ลงทุกวันๆ เหนืออื่นใด มันทำให้ภาพของประเทศแย่ลงไปมากขึ้นทุกที....สำเหนียกรู้สักนิดหรือเปล่า........คุณทำ...ทำไม???
ใครรู้ช่วยตอบที..สงสัยจริงๆ??