[แชร์เหตุผล] ประเด็นเรื่องความชอบธรรมของเครื่องแบบ

ช่วงนี้เห็นกระทู้เกี่ยวกับเรื่องชุดนศ.บ่อย วันนี้ผมเลยมาให้ข้อคิดเห็นของตัวผมเองเกี่ยวกับเรื่องการบังคับ/ไม่บังคับชุดนศ.กันนะครับ
ผมยอมรับเลยว่าผมไม่ยอมรับการแต่งชุดนิสิต/นักศึกษาด้วยเหตุผลหลายอย่างดังนี้

1) ผมยังเชื่อว่ากฎเกณฑ์ทางสังคมเป็นสิ่งต้องมี เพื่อให้ลดการใช้สิทธิของตัวเองแล้วไปละเมิดคนอื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นกฎหลายอย่างจึงถูกยอมรับเป็นกฎหมายในระดับสากล เช่น การห้ามฆ่าคน, การห้ามโจรกรรม, การห้ามค้าหรือเสพยาเสพย์ติด ฯลฯ แต่สำหรับเรื่องเครื่องแต่งกายเองเป็นสิทธิบนร่างกายตัวเองที่ไม่ไปกระทบสิทธิของคนอื่นแน่นอน ถ้าในประเด็นเรื่องสังคมต้องมีกฎผมว่าตรงนี้ยังไม่ชัดพอ

2) เครื่องแบบเองสามารถถูกมองได้ว่าเป็นเครื่องมือหนึ่งขององค์กร (หรือแม้กระทั่งรัฐชาติ ขึ้นอยู่ว่าใครเอามาบังคับ) ในการปลูกสร้างตัวตนของ"องค์กร/รัฐ"เหนือตัวตนของปัจเจก ซึ่งขัดกับคุณค่าของวิธีคิดแบบเสรีนิยมสมัยใหม่ที่เคารพ(หรือแม้กระทั่งอดทน)ในความต่าง/ความเป็นปัจเจกของสังคมแทน

3) ชุดเครื่องแบบทุกชุดไม่เคยสร้างความเท่าเทียม อย่าลืมว่าต่อให้บังคับคนในองค์กรในแต่งเครื่องแบบได้ การประชันทรัพย์สินอวดร่ำรวยก็กระทำได้ผ่านทางมือถือ, ของใช้ไฮเทค, กระเป๋า, เครื่องประดับ, รถ, ฯลฯ อยู่ดี เครื่องแบบจึงแก้ปัญหาไม่ได้อยู่ดี หรือถ้ามองลึกๆแล้วจะเห็นว่าเครื่องแบบเองก็คือตัวแบ่งคำว่า"พวกเรา (คนที่ใส่เครื่องแบบนั้นๆ)"และ"พวกเขา (คนที่อยู่นอกเครื่องแบบ) ซึ่งสุดท้ายเครื่องแบบเองจะย้อนแย้งจุดประสงค์ในการสร้างความเท่าเทียม

4) นิสิต/นศ.สามารถให้เกียรติต่อสถาบันของตัวเองและครูบาอาจารย์ที่สอนได้โดยการตั้งใจเรียน ไม่เกี่ยวกับเรื่องชุดนศ.แน่นอน ซึ่งเหตุผลนี้ใช้ได้กับทั้งคนสนับสนุนและไม่ยอมรับชุดนศ. เพราะคนที่สนับสนุนก็บอกได้ว่า"ตั้งใจเรียนไปสิ แต่งชุดนศ.ก็ตั้งใจเรียนได้" ฝั่งคนแย้งก็บอกได้ว่า "ตั้งใจเรียนต่อให้นุ่งเตี่ยวเสื้อกล้ามก็ตั้งใจเรียนได้" ผมเลยว่าเหตุผลเรื่องนี้เองก็ไม่สามารถสนับสนุนการบังคับชุดนศ.ได้

5) ถ้าเอาเรื่องความต่างระหว่างวัฒนธรรมไทยกับวัฒนธรรมตะวันตกเองและอ้างว่าวัฒนธรรมของชาวบ้านก็ไม่ได้ดีทุกอย่าง ผมก็พอสามารถมองได้โดยไม่ผิดตรรกะเช่นกันว่าวัฒนธรรมไทยเองก็ใช่ว่าจะดีทุกอย่าง เช่น ระบบอาวุโสและระบอบอุปถัมภ์ที่ทำให้สังคมไทยไม่สามารถไปข้างหน้าได้เกินกว่าการที่คนซักคนจะก้าวหน้าก็ต้องยอมเคารพผู้ใหญ่ทั้งๆที่ทุกคนใช่ว่าน่าเคารพ, การตัดสินคนอย่างฉาบฉวยจากข้าวของเครื่องใช้เสื้อผ้าหน้าผมต่างๆแทนที่จะสนใจอุปนิสัยกับความสามารถจริงๆที่มี, นิสัยกลัวความขัดแย้งจนเกินเหตุของคนไทยที่อุดปากคนไทยไม่ให้วิจารณ์ใครเพราะกลัวทะเลาะกันทั้งที่เอาจริงๆแล้วความขัดแย้งทางความคิดเป็นเรื่องที่เห็นได้เป็นปกติในสังคมประชาธิปไตย (อย่างน้อยถ้าการมีความต่างทางความคิดได้ก็เป็นตัวบ่งบอกได้ว่าคนชาตินั้นไม่ถูกปิดกั้นทางความคิด), ความหัวโบราณในการมองเรื่องเพศทั้งที่ความจริงเป็นเรื่องธรรมชาติที่เด็กๆชาติอื่นสามารถพูดคุยได้อย่างเปิดเผย (และพอคุยได้เปิดเผยไม่ต้องหลบๆซ่อนๆก็เลยทำให้การสอนเรื่องเพศอย่างถูกวิธีเป็นไปได้ง่าย ไม่ขัดเขินแต่อย่างใด) ฯลฯ

6) ถ้าจะบอกว่าเครื่องแบบเป็นตัวปลูกฝังวินัยจริง ประเทศไทยเองบังคับชุดนร.และนศ.มาตลอดที่มีการศึกษาทั้งก่อนระดับมหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเองก็ตามแต่ก็อย่างที่ทุกๆคนคงเห็นกันดีว่าคนไทยเองระเบียบวินัยมีปัญหาแค่ไหน เอาง่ายๆขนาดขึ้นรถไฟฟ้า, จ่ายเงินเซเว่น, ต่อคิวซื้อของ ฯลฯ ยังมีระเบียบไม่ได้เลย ในขณะที่ญี่ปุ่นเองที่บังคับชุดนร.เท่านั้นหรือตะวันตกกลับสร้างคนที่มีวินัยได้เยอะกว่า ผมจึงมีสิทธิตั้งคำถามได้ว่าถ้ามันดีจริง ทำไมสุดท้ายคนไทยก็ยังไร้ระเบียบอยู่ดี

7) อย่ามองว่าคุณคิดว่าของอะไรดีแล้วจะไปยัดให้อีกฝ่ายบอกว่าดีตามได้เลย การที่คนจะบอกว่าอะไรดีไม่ดีก็ควรให้เค้าตัดสินใจได้เอง ถ้ามันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเค้าต่อให้คุณไม่บังคับหรือคิดแทนเค้าตัวเค้าเองก็เลือกอยู่ดี แต่ถ้าเค้าเห็นว่ามันไม่ได้ดีสำหรับเค้า ตัวเค้าเองก็มีสิทธิไม่เอาเช่นกัน การให้คนมีทางเลือกเป็นหลักการสำคัญของเสรีนิยม (หรือแม้กระทั่งประชาธิปไตย) เลยนะครับ

ทั้งนี้ผมไม่เคยบอกว่าห้ามสนับสนุนชุดนศ. ใครที่เห็นว่าชุดนศ.น่ารักน่าเอ็นดู, ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย (หรือแม้กระทั่งชวนอารมณ์กำหนัดสำหรับสุภาพบุรุษบางท่าน) ฯลฯ คุณก็ใส่ได้ หรือให้ลูกหลานใส่ก็ไม่เป็นไร (ถ้าเค้าเต็มใจ) แต่พวกผมก็มีสิทธิที่จะไม่ยอมรับการแต่งชุดนศ.ด้วยเหตุผลที่บอกไปข้างต้นครับ ผมคงไม่ก้าวก่ายหรือคิดแทนให้คุณใส่แต่ขอให้คุณไม่ก้าวก่ายพวกผมเช่นกัน

ป.ล. เรื่องโปสเตอร์ที่มธ.ผมรู้เรื่องแล้วล่ะ เอาจริงๆโปสเตอร์แบบนี้มันดูแรงจริง แต่มันก็ถือว่าเป็นการเสียดสีประชดประชันความศักดิ์สิทธิ์ของชุดนศ.ได้อย่างหนักหน่วง (จนคนอื่นเป็นฟืนเป็นไฟเอา) ด้วยของที่วัฒนธรรมไทยผลักไสให้เป็นเรื่องหยาบคายอย่างเพศทั้งที่เรื่องเพศเองเป็นเรื่องธรรมชาติพื้นฐานที่สุดอย่างหนึ่งของมนุษย์ชาติทั้งในแง่การสืบพันธุ์ทางชีววิทยากับทาง aesthetic สารที่โปสเตอร์บอกเอง (ถ้าก้าวข้ามความโกรธที่ชุดนศ.ถูกเอามาเสียดสีแรงขนาดนี้ได้) ก็คือการที่บอกว่าชุดนศ.เองก็ไม่ได้ธำรงความศักดิ์สิทธิ์(แบบไทย)ได้อยู่ดีถ้าคนใส่มันจะแต่งไปทำอะไรอย่างที่เห็นในภาพอยู่ดี (อันนี้ขนาดตีความผ่านกรอบคิดแบบวัฒนธรรมไทยแล้วด้วยซ้ำ)

ป.ล.2 ความจริงผมเองก็พ้นวัยที่ต้องใส่ของพวกนี้แล้ว แต่ประเด็นนี้เป็นหนึ่งในประเด็นที่น่าถกเถียงอันหนึ่งมาโดยตลอดตราบเท่าที่เรายังถูกบังคับแต่งเครื่องแบบอยู่ ประเด็นเรื่องเครื่องแบบก็เป็นเรื่องหนึ่งที่วงวิชาการหลายสาขานำมาถกเถียงในหลายๆมิติอยู่ ผมเลยคิดว่าคนไทยเองก็มีสิทธิในการมองเรื่องเครื่องแบบได้ในหลากหลายทางโดยไม่จำเป็นต้องมองว่าเป็นความศักดิ์สิทธิ์, ความน่ารักน่าเอ็นดูประสาผู้ใหญ่มองเด็กเสมอไปครับ

ป.ล.3 ถ้าใครที่เคยเห็นผมในกระทู้ชุดนศ.อันอื่นแล้วมองว่าผมแรงไปในบางจุดก็ขอโทษมา ณ ที่นี้ครับ กระทู้นี้ผมจะพยายามระมัดระวังการคิดมากขึ้น กะว่ากระทู้นี้ขอดีเบตแบบเอาหลักการเป็นหลักนะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  มหาวิทยาลัย ชีวิตวัยรุ่น การศึกษา
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่