มาย่อยเรื่อง MotoGP ภาค 2

กระทู้สนทนา
สวัสดีเพื่อนๆชาวสองล้อและผู้ที่สนใจกีฬาสองล้อทุกคนครับ กลับมาเจอกันอีกครั้งแล้วครับกับกระทู้เมาท์แตกเกี่ยวกับ MotoGP สำหรับคราวนี้จะมีอะไรมาเล่าอีก? ก็คงจะลงลึกถึงรายละเอียดทางเทคนิคมากขึ้นกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมไปถึงปัญหาต่างๆที่น่าสนใจครับ



สำหรับใครที่ยังไม่ค่อยรู้จักรายการ MotoGP มากนัก สามารถเข้าไปหาอ่านได้จากกระทู้เดิม (ภาค1) ตามนี้ได้เลยครับ http://ppantip.com/topic/30779821
ส่วนใครที่พร้อมแล้วจะรอช้าอยู่ใย มาเริ่มกันเลยครับ

ฟอร์มปัจจุบันของนักแข่งเป็นไงมั่งครับ?
ณ ตอนนี้แข่งมาครบ 12 สนาม จากทั้งหมด 18 สนามแล้ว เรามาดูฟอร์มของนักแข่งแต่ละคนกันครับ ขอสรุปเป็นรายๆ ซัก 6 คนตามข้างล่างนี้


1.    Marc Marquez (Repsol Honda) ต้องบอกว่าหยุดไม่อยู่จริงๆ สำหรับหนุ่มน้อยอนาคตไกลคนนี้ครับ เพราะผลงานปัจจุบันนั้นน่าจับตามองมากๆ ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่ทุกคนต่างต้องตกตะลึงกับฟอร์มอันร้อนแรงของเขา เราอาจจะยอมรับว่า Lorenzo เป็นนักสู้ที่ดี และมีสมาธิค่อนข้างสูง แต่สำหรับเด็กคนนี้ เขาอาจมีมากกว่านั้นครับ เขามีขีดจำกัดที่เราไม่อาจคาดเดาได้ เวลาเราดูเขาในช่วง FP QP ก็มักจะเกิดคำถามขึ้นมาเสมอว่า “เฮ้ย!!! ขับไปได้ไงวะ Sadddd” เป็นต้น เขาสามารถทำลายสถิติสนามให้แหลกกระจุยไปได้อย่างง่ายดาย ราวกับเขียนเวลาที่อยากได้ลงไปทับยังไงยังงั้น
ก่อนหน้านี้ Marquez อาจจะกล่าววาจาไว้อย่าง เรียบร้อย นอบน้อม อ่อนหวานต่อรุ่นพี่ เช่น การได้ขี่กับนักแข่งชั้นแนวหน้าอย่าง Pedrosa นั้น ถือเป็นความภาคภูมิใจ รวมไปถึงการได้เรียนรู้ไลน์จากรุ่นพี่สเปนทั้งสองเป็นเรื่องที่ดีมากๆ แต่ปัจจุบัน Marquez ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาไม่ต้องเรียนรู้อะไรอีกแล้ว (เชิญรุ่นพี่ทั้งสองมาดมตรูดผมได้ ณ บัดนาว) เขามีศักยภาพที่พร้อมจะก้าวมาเป็นแชมป์โลกคนใหม่ (ยังๆ เสียงกระซิบจากค่ายรถ ข้างๆ)
ล่าสุด Lorenzo ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า Marquez เร็วและมีความกระหายในชัยชนะคล้ายๆกับ Stoner ที่เขาเคยเจอ แต่สิ่งที่ต่างกันคือ Marquez ไม่รู้จักยอมแพ้ (จี้ตรูดอยู่นั่นแหละ)
Marquez นอกจากจะโชคร้ายไหล่หลุดจากการล้มในรอบ WUP ที่สนาม Silverstone ที่ผ่านมาแล้ว เขายังโดนตัดคะแนนไป 2 คะแนน ข้อหาไม่ชะลอรถช่วงธงเหลือง หลังจาก Crutchlow ประสบอุบัติเหตุในโค้งเดียวกันก่อนหน้านั้น จนทำให้เกิดเหตุการณ์เฉียดตายของ Marshal ในสนาม


2.    Dani Pedrosa (Repsol Honda) ยังคงดูเงียบๆ สำหรับพระเอกสุภาพชนของเรา แต่เห็นเงียบๆอย่างนี้ ไม่ใช่ขี้ๆนะครับ (ผมไม่เล็กด้วยครับ) อย่างน้อย เขาก็มีหน้าที่เขี่ยแชมป์เก่าอย่าง Lorenzo ให้ตกไปอยู่อันดับสามได้ จะสังเกตได้ว่า ปีนี้ พี่ Lorenzo เรายังไม่เคยได้อันดับสองเลย เพราะอะไรครับ เพราะทั้ง Dani และ Marquez  ต่างรักษาระยะห่างได้ดี ซึ่งก็ถือว่าเป็นมาตรฐานของทั้งคู่ โดยเฉพาะอีตานี่ (เจ้าของรางวัล ขี่ตามอันดับหนึ่งยอดเยี่ยม ฮิ้วววว) ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ Lorenzo พลาดหลุดมาอันดับสองปุ๊บ เขาก็เป็นอีกคนที่พร้อมจะกระทืบซ้ำเพื่อนเก่าอย่างไม่รีรอครับ ที่จริงช่วงสนามแรกๆ ผมยังแอบลุ้นให้แกทำผลงานดีครับ เพราะเชื่อมั่นว่า ความพยายามในปีที่แล้ว มันยังค้างคามาจนถึงปีนี้ (ปีที่แล้วตอนไกล้จบ แกได้แชมป์ไปถึง 6 สนาม) แต่จุดเปลี่ยนคือการประสบอุบัติเหตุที่ Laguna Seca ทำให้เขาไหปลาร้าซ้ายร้าว และเจ็บอิดๆออดๆมาจนถึงทุกวันนี้ อาจโชคดีที่ไม่ต้องใส่แผ่นไทเทเนี่ยมเหมือนใครบางคน แต่ผมว่าที่โชคร้ายคือ แกยังบ่นมาทุกสนามว่าเจ็บมักๆ (เจ็บกว่าใครบางคนอีกนะ)


3.    Jorge Lorenzo (Yamaha Factory Racing) สำหรับแชมป์เก่าที่พบกับมรสุมชีวิตกระดูกไหปลาร้าหักจนต้องดามด้วยแผ่นไทเทเนี่ยมถึงสองครั้ง ทำให้ชัยชนะ 4 สนามของเขาที่ผ่านมา ไม่อาจช่วยเขาได้มากนัก แต่ถึงอย่างไร ปีนี้ Lorenzo ได้แสดงให้แฟนๆ MotoGP ได้เห็นแล้วว่า พระเอกตัวจริงคือใคร (ไอ๊-ยะ!!) ไม่เชื่อลองถามพวกสาวๆดูได้ อิอิ สถานการณ์ไหล่ซ้ายของเขาตอนนี้ถือว่าดีขึ้นมากครับ จนเราๆลืมไปแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นที่ Assen
แต่อย่างไรก็ตาม มันอาจจะดูหืดจับมากมาย เมื่อปล่อยให้ Marquez มีคะแนนทิ้งห่างไปมาก พร้อมกับมีความมั่นใจได้ขนาดนี้ แต่ช่างเถอะ การแข่งขันมันพลิกกันได้ (พยายามคิดว่าเป็นฟุตบอลนะ) และแชมป์อาจจะไม่ใข่คนที่เราคิดไว้ก็เป็นได้นี่ อันที่จริงปัจจัยในการป้องกันแชมป์ นอกจากมีร่างกายกับจิตใจของ Lorenzo แล้ว เรื่องอื่นก็น่าเป็นห่วงไม่น้อยครับ เดี๋ยวผมจะขอกล่าวรายละเอียดอีกทีละกันนะครับ


4.    Valentino Rossi (Yamaha Factory Racing) ยังคงเรียกความมั่นใจได้ไม่เต็มที่นัก สำหรับแชมป์โลกหลายสมัยเกินไปชาวอิตาเลียนคนนี้ ถึงแม้ว่าปีนี้จะได้แชมป์ไปแล้ว 1 สนามที่ Assen แต่ด้วยข้อจำกัดทางร่างกาย (ชาติ ชรา มรณะ) เลยทำให้คุณลุงคนนี้ได้แต่มองหลานๆชาวสเปนทั้งสามอยู่ห่างๆ ด้วยการคว้าอันดับ 4 มาครองหลายสนามแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้ที่หนึ่ง แต่ Rossi ก็ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆไม่น้อย ด้วยการเริ่มต้นที่ไม่ค่อยดีนัก โดนแซงไปหลายคันในช่วงแรก แต่สุดท้ายจะกลับมาแซงชนพวกนั้นได้เสมอ เหมือนเป็นเพื่อนพระเอกยังไงยังงั้น (พอดีพระเอกมีแล้ว)

ถึงแม้ว่าฝีมือปัจจุบันอาจดูไม่หวือหวาเหมือนนักแข่งดาวรุ่งใหม่ๆแล้ว แต่ถึงกระนั้น Rossi ยังมีส่วนสำคัญมากพอให้Yamaha ยอมจ่ายเพื่อมาประดับไว้ในทีม เพราะเขานี่แหละคือสัญลักษณ์ของ MotoGP ในปัจจุบันและมีฐานแฟนๆอยู่ทั่วโลก (ง่ายๆเลย ช่วยให้รถ ขายได้เยอะ) จึงถือว่ามีส่วนสำคัญต่อการตลาดค่ายซ่อมเสียงเป็นอย่างมาก
หากถามว่าสนามที่เหลือ Rossi จะยังมีลุ้นแชมป์มั้ย ต้องขอบอกว่ามีแต่ยากครับ เพราะตอนนี้ Marquez เกิดแล้ว ส่วน Lorenzo ก็ร่างกายเริ่มสมบูรณ์ แต่ถ้าลุ้นโพเดียมยังพอมีความเป็นไปได้อยู่มากครับ (แต่ต้องส่งคนไปตบไหล่ซ้ายพี่ Pedrosa ทีนึง)


5.    Cal Crutchlow (Monster Yamaha Tech 3) ดูเหมือนจะเริ่มแผ่วไปตั้งแต่เซ็นสัญญาปีหน้ากับทีมโรงงาน Ducati พร้อมค่าเหนื่อยราวสิบเท่าจากของเดิม จริงอยู่ว่านายคนนี้จะมีโชคกับการล้มนิดๆหน่อยๆก่อนแข่ง แต่คงไม่ใช่สำหรับสนาม Silverstone บ้านเกิดเขา ที่โชว์การล้มในรอบ FP QP WUP ไปหลายครั้งจนแทบไม่มีรถจะขี่ สำหรับฟอร์มช่วงนี้ที่หดหายไป แต่ในสนามต่อๆไปผมยังเชื่อว่านักบิดอังกฤษคนนี้คงจะเข้าๆออกๆตำแหน่งโพเด็ยมได้อยู่ ก็คอยตามลุ้นกันต่อไปครับ


6.    Stefan Bradl (LCR Honda) ขอพูดถึงคนนี้นิดส์นึง เพราะช่วงนี้แกกำลัง Hot เอามากๆ หลังจากสนามบ้านเกิดที่ เยอรมันที่ผ่านมา อดีตแชมป์โลก Moto2 คนนี้ทำผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าเลเวลขึ้นเร็วมาก  ถึงแม้ว่าจะพลาด Pole Position ที่นั่น แต่สนามต่อมาอย่าง Laguna Seca เขาก็กลับมาคว้าตำแหน่ง Pole แรกของตนเองได้สมใจ พักหลังในช่วง FP QP นอกจากเราจะเห็น Marquez และ Lorenzo แย่งตำแหน่งหัวแถวกันอย่างเมามันส์แล้ว ก็จะเป็นนายคนนี้ที่โดดเข้ามาแจมเสมอครับ เพราะเราได้ข่าวมาแว่วๆเช่นกันว่ารถ Satellite ของ Honda ก็มาตรฐานไกล้เคียงตัว Repsol อยู่ไม่ใช่น้อยนะ แต่อย่างไรก็ตาม ความสม่ำเสมอในสนามถือว่าสำคัญยิ่ง ซึ่งผมยังมองว่า Bradl ยังไม่สม่ำเสมอมากนัก บวกกับความซวยจากอุบัติเหตุก่อนแข่ง ทำให้เขามักจะดับไปดื้อๆในระหว่างการแข่งขันจริง ใครเป็นแฟนหนุ่มเยอรมันคนนี้ก็ต้องลุ้นกันต่อไปครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่