เมื่อเร็วๆ นี้ผมได้มีโอกาสดูอนิเมที่ชอบมากเรื่องนึงในตอนที่ผมยังเด็กๆ ตั้งแต่ต้นจนจบอีกครั้ง นั่นก็ คือ เรื่อง ผจญภัยไขปริศนาแห่งเซรูลีน (Secret of Cerulean Sand [ENG] , Patapata Hikousen no Bouken [JAP]) (ผมเกิด พ.ศ. 2532 ใครที่เกิดปีใกล้ๆ กันน่าจะเคยดูผ่านตามาบ้าง) ดูจบแล้วถึงกับฟิน + มีเวลาว่าง เลยเขียนรีวิวขึ้นมาเพื่อให้แฟนๆอนิเมรุ่นใหม่ๆ ได้รู้จักเรื่องดีๆ เรื่องนี้
ข้อมูลทั่วไป
ผจญภัยไขปริศนาแห่งเซรูลีน เป็นผลงานร่วมมือระหว่าง สตูดิโอของญี่ปุ่นและเกาหลี โดยได้ออกฉายในญี่ปุ่นและเกาหลี พร้อมๆกันในช่วงวันที่ 5 มกราคม– 29 มิถุนายน พ.ศ. 2545 ส่วนในไทยนั้น ทางช่อง ทรู สปาร์ค เคยเอามาฉายในปี พ.ศ.2546 แต่เรื่องนี้ไม่มี LC ในไทย
เนื้อเรื่องของ ผจญภัยไขปริศนาแห่งเซรูลีน เอาเค้าโครงคร่าวๆ มาจาก นิยาย 2 เล่ม คือ "Facing the Flag" (Face au drapeau) และ "City in the Sahara" (L'Étonnante aventure de la mission Barsac) ซึ่งเขียนโดยชาวฝรั่งเศสชื่อ Jules Vernes
(เรื่องที่บรรยากาศคล้ายๆ กันอย่างเรื่อง
Nadia: The Secret of Blue Water ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากนิยายของ Jules Vernes เช่นกัน)
Review
เนื้อเรื่อง
เรื่องนี้เป็นเรื่องแนว ผจญภัย กล่าวถึงการเดินทางของ เจน บักซ์ตัน เด็กสาวชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นลูกสาวคนสุดท้องของตระกูล บักซ์ตัน ในการออกเดินทางตามหาพี่ชายของเธอที่หายตัวไปหลังจากเข้าร่วมภารกิจสำรวจเพื่อตามหา ของเหลวที่สามารถทำให้วัตถุลอยได้ (Floating Liquid) ในดินแดนตะวันออก หลังจากที่ได้เบาะแส คือ จดหมายที่มีลายเซ็นของพี่ชายของเธอ และทรายสีฟ้าที่ถูกส่งมาพร้อมกับจดหมานั้น ซึ่งในการผจญภัยครั้งนี้เธอก็ได้พบผู้คนใหม่ๆ มากมาย ที่งมิตร-ศัตรู และพบเจอกับเรื่องราวทั้งเรื่องที่สนุกสนาน และเรื่องน่าเศร้า รวมไปถึงสิ่งต่างๆที่ไม่คาดฝัน
Floating Liquid / Cerulean Sand
ด้วยความยาวที่มากถึง 26 ตอน ทำให้การดำเนินเรื่องเป็นไปแบบค่อยเป็นค่อยไป ในช่วง 3 ตอนแรกอาจจะดูน่าเบื่ออยู่บ้างแต่ก็เป็นส่วนสำคัญที่สุดเพราะการปูพื้นให้กับตัวละครหลักๆ ที่สำคัญ คือนางเอก เจน และพี่ชายทั้งสองของเธอ โดยหลังจากตอนที่ 4 เป็นต้นไปจนถึงตอนจบจะเริ่มเข้าสู่ช่วงการผจญภัยของจริงในโลกกว้างซึ่งมีฉากหลังเป็นศตวรรษที่ 19 นี้นางเอกจะได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวและบุคคลต่างๆ มากมาย และได้เพื่อนใหม่ๆร่วมทาง จุดนี้เองที่เนิ้อเรื่องจะเริ่มหลีกหนีจากประวัติศาสตร์จริง โดยเราจะเริ่มเห็นยานพาหนะแปลกๆ มากมาย เช่น เรือที่ใช้แล่นบนทะเลทรายได้ ไปจนถึงอะไรที่มันล้ำยุคอย่างเคริ่องจักรปริศนาที่สามารถบินบนฟ้าได้ ส่วนช่วงตอนท้ายๆ เนื้อหาจะเป็นประเด็นหลักของเรื่อง โดยโทนเรื่องจะซีเรียสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ยานพาหนะหลุดยุค
ความรุนแรงในเรื่องนี้ค่อนข้างต่ำ (เว้นแต่ช่วงตอนท้ายๆ แอบโหดเล็กน้อย) เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของเรื่องนี้ คือเด็ก มีการใช้ปืนหรือดาบสู้กัน แต่ก็ไม่เห็นใครตายตรงๆ ไม่มีเลือดไหล ไม่มีเซอร์วิส และไม่มีฉากโรแมนติก แต่ถ้าคุณโตแล้วก็อาจจะมีส่วนที่พอจิ้นได้ก็คือความสนิทสนมระหว่างเจนและพี่ๆ ของเธอ ที่ชวนให้คิดว่า นี่มันเข้าขั้น บราค่อน หรือ ซิสค่อน รึเปล่าในบางฉาก
ตัวละคร
ด้วยความที่เป็นอนิเมความยาว 26 ตอน เรื่องนี้จึงอุดมไปด้วยตัวละครมากหน้าหลายตา ทั้งตัวดี และตัวร้าย ที่พวกนางเอกได้พบเจอตลอดการเดินทาง สำหรับตัวละครที่เด่นที่สุดก็คงหนีไม่พ้น เจน ที่เป็นนางเอกของเรื่อง
เจน นางเอกของเรื่อง ถูกเลี้ยงมาในตระกูลที่ร่ำรวย เธอเป็นเด็กสาวที่ฉลาด มีนิสัยร่าเริง เป็นมิตร กล้าหาญ และสามารถปรับตัวในสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นสาวเพอร์เฟค เพราะเธอไม่มีฝีมือในด้านงานบ้านงานเรือนเอาเสียเลย แต่เธอกลับมีความเชี่ยวชาญในเรื่องเครื่องจักร และกลไลต่างๆ เป็นอย่างมาก เธอมีความฝัน คือ การสร้างสิ่งที่สามารถทำให้มนุษย์บินไปบนฟ้าได้ (ช่วงเวลาในเนื้อเรื่องยังไม่มีเครื่องบิน) ทว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอ ก็คือ ครอบครัว โดยเจนเป็นคนที่ให้ความสำคัญครอบครัวมากๆ โดยเฉพาะ จอร์จ และ วิลเลี่ยม พี่ชายทั้งสองของเธอ โดยการที่เธอสนใจสร้างเครื่องบินนั้นส่วนนึงก็เป็นเพราะเพื่อให้ตัวเธอสามารถบินไปหาแม่ของเธอบนสวรรค์ได้ สำหรับผมที่ชอบเรื่องนี้มากหลักๆก็เป็นเพราะนางเอก เจน นี่ล่ะครับ เป็นนางเอกที่นิสัยโดนใจมาก และที่สำคัญยังเป็นตัวละครสายน้องสาวอีก! การนั่งดูเธอผจญภัยตั้งแต่ต้นจนจบนี่มันฟินสุดๆ
เจนในวัยต่างๆ
แน่นอนว่าเจนไม่ได้เดินทางเพียงคนเดียว ตัวละครอื่นๆ ที่เดินไปทางไปพร้อมกับเจนก็มีบทบาทที่สำคัญและเพิ่มสีสันให้กับเนื้อเรื่องได้ไม่แพ้กัน อย่างเช่น เบอเรน พ่อบ้านประจำตระกูลที่แข็งแรงเกินวัย ซึ่งคอยตามดูแลเจนตลอดการเดินทาง และมักปวดหัวกับการกระทำของเจนอยู่บ่อยๆ ซาบริ เด็กสลัมนิสัยสุนกวนคนนึงที่ร่วมเดินทางไปด้วยในฐานะไกด์ บาร์แซก หัวหน้ากองทหาร-กองสำรวจที่ออกเดินทางตามหา Floating Liquid หรือแม้แต่ตัวร้ายบอสใหญ่ของเรื่องนี้เอง ซึ่งแม้ดูเภายนอกเหมือนจะเป็นตัวร้ายตามสูตรสำเร็จ แต่พอได้รู้จักตัวะละครนี้ ก็พบป็นตัวละครที่น่าสนใจ คือ มันเป็นตัวร้ายที่ทั้งเลว และก็น่าเห็นใจ ไปพร้อมๆ กัน (เค้าเรียกว่า Tragic Villain ใช่มะ??)
ตัวละครอื่นๆ
จุดด้อย
เรื่องนี้มีจุดด้อยเล็กน้อยก็คือ ตัวละครส่วนใหญ่ในเรื่องขาดการพัฒนา หรือคือ ตอนแรกโผล่มานิสัย การกระทำเ แนวคิด เป็นยังไง ตอนจบก็เป็นอย่างนั้น และการกระทำของตัวละคร ในบางจุดก็ดูไม่สมเหตุสมผล เช่น ทำไมพวกตัวร้ายมันโง่จริง ทำไมตรงนี้คนนี้ไม่ทำอย่างนั้น เนื้อเรื่องเองสามารถคาดเดาได้ง่าย (แม้จะมีจุดหักมุมอยู่บ้างช่วงท้ายๆก็เถอะ) แต่จุดเสียเหล่านี้ นี้ก็สามารถทดแทนด้วยการดำเนินเรื่องที่สนุกและน่าติดตาม และถ้ามองว่ากลุ่มเป้าหมายของเรื่องนี้คือ เด็ก ไม่ใช่วัยรุ่น ข้อเสียที่กล่าวมาก็พอจะอนุโลมได้
อนิเมชั่น
พูดถึงงานภาพ เรื่องนี้ลายเส้นและการลงสีค่อนข้างสดใส ถ้าคนสมัยนี้มาเห็นอาจจะบอกว่าให้อารมณ์คล้ายๆ กับงานภาพของ Ghibli ในเรื่องพวกยานพาหนะหรือเครื่องจักรบางอย่าง จะทำขึ้นโดยใช้ CG ซึ่งบางครั้งดูแล้วค่อนข้างขัดตาอยู่บ้าง คุณภาพของงานโดยรวมก็ถือว่าโอเคสำหรับเป็นอนิเมทำออกมาสมัยปี 2002
เพลง OP "Naked Story" ร้องโดย Garnet Crow เพลง ED แรก "What Can I Do" ร้องโดย Michael Africk กับ Mai-K เพลง ED2 "This is your life" ร้องโดย Aiko Ohno ทั้งสามเพลงสามารถฟังได้เพลินๆ สำหรับ OST ในเรื่องนั้น ไม่ค่อยเด่นและใช้ซ้ำบ่อยไปหน่อย
OP (หลังจากช่วงกลางเรื่องจะมีการเปลี่ยนภาพใน OP แต่ยังใช้เพลงเดิม)
.....................................................................................
จบการรีวิว
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจนจบครับ (จะมีใครเข้ามาอ่านมั้ยนี่ 55+ Comments คาดว่าคงมีไม่เกิน 3 reply...)
ผมเองก็ไม่ค่อยได้เีขียนรีวิวอะไรเท่าไหร่ ขออภัยถ้าภาษาบางจุดอ่านฟังดูแปลกๆ ครับ
อะไรนะ? จะหาดูจากไหน? เอ่อ....ลองเอาชื่อเรื่องภาษาอังกฤษไป search หาดูครับ (หาไม่ยาก)
แถม
OP version ภาษาอื่นๆ
ฝรั่งเศส
http://www.youtube.com/watch?v=H4BLWOa4GiE
อาราบิก
http://www.youtube.com/watch?v=-snl3SmYR8k
[Review แนะนำอนิเมเก่า] Secret of Cerulean Sand – ผจญภัยไขปริศนาแห่งเซรูลีน
ข้อมูลทั่วไป
ผจญภัยไขปริศนาแห่งเซรูลีน เป็นผลงานร่วมมือระหว่าง สตูดิโอของญี่ปุ่นและเกาหลี โดยได้ออกฉายในญี่ปุ่นและเกาหลี พร้อมๆกันในช่วงวันที่ 5 มกราคม– 29 มิถุนายน พ.ศ. 2545 ส่วนในไทยนั้น ทางช่อง ทรู สปาร์ค เคยเอามาฉายในปี พ.ศ.2546 แต่เรื่องนี้ไม่มี LC ในไทย
เนื้อเรื่องของ ผจญภัยไขปริศนาแห่งเซรูลีน เอาเค้าโครงคร่าวๆ มาจาก นิยาย 2 เล่ม คือ "Facing the Flag" (Face au drapeau) และ "City in the Sahara" (L'Étonnante aventure de la mission Barsac) ซึ่งเขียนโดยชาวฝรั่งเศสชื่อ Jules Vernes
(เรื่องที่บรรยากาศคล้ายๆ กันอย่างเรื่อง Nadia: The Secret of Blue Water ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากนิยายของ Jules Vernes เช่นกัน)
Review
เนื้อเรื่อง
เรื่องนี้เป็นเรื่องแนว ผจญภัย กล่าวถึงการเดินทางของ เจน บักซ์ตัน เด็กสาวชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นลูกสาวคนสุดท้องของตระกูล บักซ์ตัน ในการออกเดินทางตามหาพี่ชายของเธอที่หายตัวไปหลังจากเข้าร่วมภารกิจสำรวจเพื่อตามหา ของเหลวที่สามารถทำให้วัตถุลอยได้ (Floating Liquid) ในดินแดนตะวันออก หลังจากที่ได้เบาะแส คือ จดหมายที่มีลายเซ็นของพี่ชายของเธอ และทรายสีฟ้าที่ถูกส่งมาพร้อมกับจดหมานั้น ซึ่งในการผจญภัยครั้งนี้เธอก็ได้พบผู้คนใหม่ๆ มากมาย ที่งมิตร-ศัตรู และพบเจอกับเรื่องราวทั้งเรื่องที่สนุกสนาน และเรื่องน่าเศร้า รวมไปถึงสิ่งต่างๆที่ไม่คาดฝัน
Floating Liquid / Cerulean Sand
ด้วยความยาวที่มากถึง 26 ตอน ทำให้การดำเนินเรื่องเป็นไปแบบค่อยเป็นค่อยไป ในช่วง 3 ตอนแรกอาจจะดูน่าเบื่ออยู่บ้างแต่ก็เป็นส่วนสำคัญที่สุดเพราะการปูพื้นให้กับตัวละครหลักๆ ที่สำคัญ คือนางเอก เจน และพี่ชายทั้งสองของเธอ โดยหลังจากตอนที่ 4 เป็นต้นไปจนถึงตอนจบจะเริ่มเข้าสู่ช่วงการผจญภัยของจริงในโลกกว้างซึ่งมีฉากหลังเป็นศตวรรษที่ 19 นี้นางเอกจะได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวและบุคคลต่างๆ มากมาย และได้เพื่อนใหม่ๆร่วมทาง จุดนี้เองที่เนิ้อเรื่องจะเริ่มหลีกหนีจากประวัติศาสตร์จริง โดยเราจะเริ่มเห็นยานพาหนะแปลกๆ มากมาย เช่น เรือที่ใช้แล่นบนทะเลทรายได้ ไปจนถึงอะไรที่มันล้ำยุคอย่างเคริ่องจักรปริศนาที่สามารถบินบนฟ้าได้ ส่วนช่วงตอนท้ายๆ เนื้อหาจะเป็นประเด็นหลักของเรื่อง โดยโทนเรื่องจะซีเรียสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ยานพาหนะหลุดยุค
ความรุนแรงในเรื่องนี้ค่อนข้างต่ำ (เว้นแต่ช่วงตอนท้ายๆ แอบโหดเล็กน้อย) เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของเรื่องนี้ คือเด็ก มีการใช้ปืนหรือดาบสู้กัน แต่ก็ไม่เห็นใครตายตรงๆ ไม่มีเลือดไหล ไม่มีเซอร์วิส และไม่มีฉากโรแมนติก แต่ถ้าคุณโตแล้วก็อาจจะมีส่วนที่พอจิ้นได้ก็คือความสนิทสนมระหว่างเจนและพี่ๆ ของเธอ ที่ชวนให้คิดว่า นี่มันเข้าขั้น บราค่อน หรือ ซิสค่อน รึเปล่าในบางฉาก
ตัวละคร
ด้วยความที่เป็นอนิเมความยาว 26 ตอน เรื่องนี้จึงอุดมไปด้วยตัวละครมากหน้าหลายตา ทั้งตัวดี และตัวร้าย ที่พวกนางเอกได้พบเจอตลอดการเดินทาง สำหรับตัวละครที่เด่นที่สุดก็คงหนีไม่พ้น เจน ที่เป็นนางเอกของเรื่อง
เจน นางเอกของเรื่อง ถูกเลี้ยงมาในตระกูลที่ร่ำรวย เธอเป็นเด็กสาวที่ฉลาด มีนิสัยร่าเริง เป็นมิตร กล้าหาญ และสามารถปรับตัวในสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นสาวเพอร์เฟค เพราะเธอไม่มีฝีมือในด้านงานบ้านงานเรือนเอาเสียเลย แต่เธอกลับมีความเชี่ยวชาญในเรื่องเครื่องจักร และกลไลต่างๆ เป็นอย่างมาก เธอมีความฝัน คือ การสร้างสิ่งที่สามารถทำให้มนุษย์บินไปบนฟ้าได้ (ช่วงเวลาในเนื้อเรื่องยังไม่มีเครื่องบิน) ทว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอ ก็คือ ครอบครัว โดยเจนเป็นคนที่ให้ความสำคัญครอบครัวมากๆ โดยเฉพาะ จอร์จ และ วิลเลี่ยม พี่ชายทั้งสองของเธอ โดยการที่เธอสนใจสร้างเครื่องบินนั้นส่วนนึงก็เป็นเพราะเพื่อให้ตัวเธอสามารถบินไปหาแม่ของเธอบนสวรรค์ได้ สำหรับผมที่ชอบเรื่องนี้มากหลักๆก็เป็นเพราะนางเอก เจน นี่ล่ะครับ เป็นนางเอกที่นิสัยโดนใจมาก และที่สำคัญยังเป็นตัวละครสายน้องสาวอีก! การนั่งดูเธอผจญภัยตั้งแต่ต้นจนจบนี่มันฟินสุดๆ
เจนในวัยต่างๆ
แน่นอนว่าเจนไม่ได้เดินทางเพียงคนเดียว ตัวละครอื่นๆ ที่เดินไปทางไปพร้อมกับเจนก็มีบทบาทที่สำคัญและเพิ่มสีสันให้กับเนื้อเรื่องได้ไม่แพ้กัน อย่างเช่น เบอเรน พ่อบ้านประจำตระกูลที่แข็งแรงเกินวัย ซึ่งคอยตามดูแลเจนตลอดการเดินทาง และมักปวดหัวกับการกระทำของเจนอยู่บ่อยๆ ซาบริ เด็กสลัมนิสัยสุนกวนคนนึงที่ร่วมเดินทางไปด้วยในฐานะไกด์ บาร์แซก หัวหน้ากองทหาร-กองสำรวจที่ออกเดินทางตามหา Floating Liquid หรือแม้แต่ตัวร้ายบอสใหญ่ของเรื่องนี้เอง ซึ่งแม้ดูเภายนอกเหมือนจะเป็นตัวร้ายตามสูตรสำเร็จ แต่พอได้รู้จักตัวะละครนี้ ก็พบป็นตัวละครที่น่าสนใจ คือ มันเป็นตัวร้ายที่ทั้งเลว และก็น่าเห็นใจ ไปพร้อมๆ กัน (เค้าเรียกว่า Tragic Villain ใช่มะ??)
ตัวละครอื่นๆ
จุดด้อย
เรื่องนี้มีจุดด้อยเล็กน้อยก็คือ ตัวละครส่วนใหญ่ในเรื่องขาดการพัฒนา หรือคือ ตอนแรกโผล่มานิสัย การกระทำเ แนวคิด เป็นยังไง ตอนจบก็เป็นอย่างนั้น และการกระทำของตัวละคร ในบางจุดก็ดูไม่สมเหตุสมผล เช่น ทำไมพวกตัวร้ายมันโง่จริง ทำไมตรงนี้คนนี้ไม่ทำอย่างนั้น เนื้อเรื่องเองสามารถคาดเดาได้ง่าย (แม้จะมีจุดหักมุมอยู่บ้างช่วงท้ายๆก็เถอะ) แต่จุดเสียเหล่านี้ นี้ก็สามารถทดแทนด้วยการดำเนินเรื่องที่สนุกและน่าติดตาม และถ้ามองว่ากลุ่มเป้าหมายของเรื่องนี้คือ เด็ก ไม่ใช่วัยรุ่น ข้อเสียที่กล่าวมาก็พอจะอนุโลมได้
อนิเมชั่น
พูดถึงงานภาพ เรื่องนี้ลายเส้นและการลงสีค่อนข้างสดใส ถ้าคนสมัยนี้มาเห็นอาจจะบอกว่าให้อารมณ์คล้ายๆ กับงานภาพของ Ghibli ในเรื่องพวกยานพาหนะหรือเครื่องจักรบางอย่าง จะทำขึ้นโดยใช้ CG ซึ่งบางครั้งดูแล้วค่อนข้างขัดตาอยู่บ้าง คุณภาพของงานโดยรวมก็ถือว่าโอเคสำหรับเป็นอนิเมทำออกมาสมัยปี 2002
เพลง OP "Naked Story" ร้องโดย Garnet Crow เพลง ED แรก "What Can I Do" ร้องโดย Michael Africk กับ Mai-K เพลง ED2 "This is your life" ร้องโดย Aiko Ohno ทั้งสามเพลงสามารถฟังได้เพลินๆ สำหรับ OST ในเรื่องนั้น ไม่ค่อยเด่นและใช้ซ้ำบ่อยไปหน่อย
OP (หลังจากช่วงกลางเรื่องจะมีการเปลี่ยนภาพใน OP แต่ยังใช้เพลงเดิม)
.....................................................................................
จบการรีวิว
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจนจบครับ (จะมีใครเข้ามาอ่านมั้ยนี่ 55+ Comments คาดว่าคงมีไม่เกิน 3 reply...)
ผมเองก็ไม่ค่อยได้เีขียนรีวิวอะไรเท่าไหร่ ขออภัยถ้าภาษาบางจุดอ่านฟังดูแปลกๆ ครับ
อะไรนะ? จะหาดูจากไหน? เอ่อ....ลองเอาชื่อเรื่องภาษาอังกฤษไป search หาดูครับ (หาไม่ยาก)
แถม
OP version ภาษาอื่นๆ
ฝรั่งเศส
http://www.youtube.com/watch?v=H4BLWOa4GiE
อาราบิก
http://www.youtube.com/watch?v=-snl3SmYR8k