เรื่องเล่าจากความทรงจำ "ครั้งหนึ่ง ณ โรงพยาบาลทางจิตเวช"

วันนี้ผมได้มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนึงจากดีวีดีครับ เรื่อง"เดอะ ไซเลนซ์ ออฟ เดอะ แลมป์" ก็เลยรำลึกถึงความหลังและอยากจะเล่าให้ทุกท่านฟังครับ

คือก่อนอื่นต้องขออนุญาตแนะนำตัวครับว่า ตอนนี้ผมอยู่ต่างประเทศครับ แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้วครับตั้งแต่สมัยที่ผมยังอยู่เมืองไทย

เริ่มเลยนะครับ

ในช่วงที่ผมยังเรียนอยู่ที่รามคำแหง ผมได้มีโอกาสไปทำงานอาสาในหลายๆที่ในประเทศไทยครับร่วมกับองค์กรต่างๆ ตามแต่เค้าจะเรียก

ครั้งนึง ผมได้มีโอกาสไปทำงานอาสาที่จังหวัดแห่งนึงทางภาคอีสาน 2 เดือนและประจวบเหมาะกับการที่เพื่อนรักผมคนนึงทำงานเป็นลูกจ้างที่โรงพยาบาลทางจิตเวชแห่งหนึ่ง (ขออนุญาตสงวนชื่อนามของโรงพยาบาลครับ)

พอไปถึงวันแรก ผมก็ตรงดิ่งไปหาเพื่อนผมเลย

และผมก็เจอกับประสบการณ์ที่ผม "ไม่มีวันลืม"

เมื่อผมไปถึงที่โรงพยาบาล ผมก็ได้เข้าไปสอบถามตรงเค้าเตอร์บริการของทางโรงพยาบาลกับทางเจ้าหน้าที่ โดยผมต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยติดต่อเพื่อนผมให้หน่อย

"กรุณารอประมาณสักครึ่งชั่วโมงนะคะ เดี๋ยวเพื่อนคุณจะมาหาที่นี่ค่ะ" เสียงเล็กๆ จากเจ้าหน้าที่หญิงพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม

ผมตอบขอบคุณ และเดินไปตรงระเบียงเพื่อชมนกชมไม้ตามประสา ก็เห็นทั้งเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล กับคนไข้ เดินไปมาทั้งในสนามและตัวอาคาร

แต่ทันใดนั้นเองครับ สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นบางสิ่ง

ผมเห็นคนคนนึง ยืนแอบตรงมุมตึกและจ้องมองผมอยู่

ตัวผมกับเค้าอยู่ห่างกันประมาณ 20 เมตรเห็นจะได้

เค้าเป็นผู้ชายครับ อายุประมาณ 40 ปี รูปร่างสันทัด ผิวดำแดง ตัดผมสั้นเกรียน ใส่กางเกงขาสามส่วนคล้ายๆกางเกงแพร ใส่เสื้อยืดสีขาว มีตราสินค้า"ยามาฮ่า" อยู่ตรงกลางเสื้อ และไม่ใส่รองเท้า

"ใครมาจ้องมองตูวะ" ผมพูดกับตัวเองเบาๆ และทำท่าไม่สนใจ

"นักการของที่นี่มั้ง เพราะใส่ชุดไม่เหมือนคนไข้" ผมคิดในใจและก็ชมนกชมไม้ต่อไป

สักพักผมเห็น "เค้าเดินตรงเข้ามาหาผมครับ"

ตอนนั้นผมก็ไม่คิดอะไร แต่ก็ตกใจอยู่นิดนึง

เค้าเดินเข้ามาใกล้ผม

เค้ามองหน้าผมและมองซ้ายมองขวาเหมือนคนมีความลับอะไรซักอย่าง

ทันใดนั้นเองเค้าก็พูดกับผมเบาๆ

ในประโยคที่ผมลืมไม่ลงจนทุกวันนี้

"พี่ ๆ ช่วยผมด้วย" เค้ากระซิบเบาๆ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

พอผมได้ฟังเท่านั้นแหละครับ ผมคิดในใจเบาๆ เช่นกันว่า

" เอาแล้วกรู งานเข้า "

" คนบ้าตัวเป็นๆ เว่ยเฮ้ย "

" ผมเป็นตำรวจอวกาศมาจากดวงอาทิตย์พี่ ผมมาตามหาเกราะเพชรเจ็ดสีที่ถูกขโมยมา" พี่แกบรรยายภารกิจของแกให้ผมฟัง

ผมอยากสารภาพตอนนั้นครับว่า " อยากขำก็ขำ อยากฮาก็ฮา " แต่ต้องระวังตนเองเพราะผมก็ไม่รู้ว่าเค้าจะมาไม้ไหน

ผมคิดในใจ " เออพี่แกเก่งหว่ะ "

" อยู่ดวงอาทิตย์ได้ด้วยเว่ยเฮ้ย "

จากนั้นพี่แกก็บรรยายต่อว่า

" ผมกำลังตามหาอยู่ จู่ๆก็หายานอวกาศของตัวเองไม่เจอ ไม่รู้ไปจอดทิ้งไว้แถวไหน "

"ผมหาจนทั่วแล้วก็หาไม่เจอ หาตามใต้โต๊ะ ใต้เตียงก็หาไม่มี"

" พี่พอจะเห็นยานอวกาศของผมรึเปล่าครับ"

ผมได้ฟังที่แกเล่ามา ผมกลั้นหัวเราะจนเยี่ยวจะเล็ด แต่ก็ต้องฝืนทนไว้พลางคิดว่า

" ไอ้บ้าที่ไหนมันขโมยหยิบยานอวกาศพี่แกไปซ่อนวะ "

" ว่าแต่ยานอวกาศพี่แกมันเล็กไปป่าวเนี่ย "

พี่แกจ้องมองผมตาแป๋ววววววว หน้าตาน่าสงสารมาก ผมเลยแก้ปัญหาโดยบอกไปว่า

" พี่ลองไปหาตรงพุ่มไม้ครงโน้นดูนะครับ ผมเห็นแว่บๆ " (เอาวะ ตามน้ำ)

"กราบขอบพระคุณพี่มากเลยครับ บุญคุณครั้งนี้ผมจะจำไปจนตาย" พี่แกพูดขอบคุณผมอย่างดีใจที่สุด

และพี่แกก็เดินไปตรงพุ่มไม้ที่ผมชี้ ระหว่างทางนั้นพี่แกก็สวนกับนางพยาบาลคนนึง

และนางพยาบาลคนนั้นก็พูดกับพี่แกว่า

" เป็นไงบ้างค้าาาา หายานอวกาศเจอรึย้างงงงงง"

" เจอไม่เจอยังไง กลับมากินยานะค้าาาาาาา"






และนี่ก็คือเรื่องเล่าที่ผมได้พบเจอกับคนไข้วิกลจริตแบบจะๆ ครับ ประมาณว่าพบปะพูดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวทีเดียว

และก็มีเรื่องราวต่อจากนั้นบ้าง ตอนที่ผมมาหาเพื่อนที่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่ได้ตื่นเต้นเท่าเรื่องนี้ครับ

ก่อนจากกันขอทิ้งท้ายอย่างนึงครับว่า " ผู้ป่วยทางจิตต้องการการดูแลเอาใจใส่ และความเข้าใจ อย่าปล่อยปละละเลยและทอดทิ้งพวกเขา"

เพราะเพื่อนผมเล่าให้ฟังว่า " คนไข้บางคนถูกญาติพามาทิ้งที่โรงพยาบาลเหมือนหมาเหมือนแมว ไม่เคยมาพบมาเยี่ยมเลย"

อยากฝากแค่นี้ครับ

ขอบพระคุณทุกท่านครับที่ได้มาเยี่ยมเยียนกระทู้นี้

กราบขอบพระคุณทุกท่านครับ

ปล. ถ้าใครพบเห็นยานอวกาศของพี่แก ก็แจ้งมายังผมได้นะครับ เพราะป่านนี้พี่แกได้กลับไปดวงอาทิตย์หรือยังก็ไม่รู้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่