“ ซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ ” เอสซีจี เมืองทอง vs ฉลามชล ชลบุรี เอฟซี คู่รักคู่แค้นเบอร์1ของเมืองไทย



  การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ประจำวันเสาร์ที่ 7 ก.ย. 56  ที่บิ๊กแมตช์ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เวลา 18.30 น. "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมรองจ่าฝูง มีอยู่ 55 แต้ม เปิดบ้านทำศึกใหญ่พบกับ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 3 มีอยู่ 49 แต้ม โดยผลการพบกันเลกแรก เอสซีจี เมืองทองบุกไปชนะมาก่อน 2-0 ถ่ายทอดสดทางทรูสปอร์ต 2 และทรูสปอร์ต เอชดี


        ทั้งสองทีมยังมีลุ้นแชมป์ โดยเจ้าถิ่นมีแต้มตามหลังจ่าฝูง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 3 คะแนน ส่วนทีมเยือนมีแต้มตามหลังจ่าฝูง 9 คะแนน ซึ่งเกมนี้ชลบุรีต้องการชัยชนะเพื่อลุ้นแชมป์ต่อไป แต่หากแพ้แทบจะหมดลุ้นแชมป์ทันที


        ความพร้อม เอสซีจี เมืองทองจะไม่มี ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่ติดโทษแบนเพียงคนเดียว แต่ข่าวดี ปิยพล บรรเทา จะพ้นโทษกลับมาลงสนามพอดี ขณะที่ผู้รักษาประตู วิศณุศักดิ์ แก้วเรือง จะหายเจ็บกลับมาเฝ้าเสาตามปกติ ส่วนคนอื่นๆ พร้อมลงสนามทั้งหมด นำโดย ดักโน่ เซียก้า, ดัสกร ทองเหลา, มาริโอ ยูรอฟสกี้, เอดิวัลโด้ เฮอร์โมซ่า และ ธีรศิลป์ แดงดา


        ด้านชลบุรีหมดสิทธิ์ใช้งาน ณัฐพงษ์ สมณะ ที่ติดโทษแบนเช่นเดียวกัน แถม อนุชา กิจพงษ์ศรี มีอาการบาดเจ็บต้องเช็กความฟิตนาทีสุดท้าย หากลงไม่ได้จะถ่าง แจ็คกี้ ดิยากิเต้ มาเล่นแบ็กซ้ายแทน และส่ง สุทธินันท์ พุกหอม ที่ได้พักมา 2 เกมติด ยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ ชลทิตย์ จันทคาม ขณะที่ คาซูโตะ คูชิดะ กับ อดุล หละโสะ คุมเกมแดนกลาง และกองหน้า เลอันโดร อัสซัมป์เกา ล่าตาข่าย โดยมี ติอาโก้ คุนญ่า ที่หายเจ็บกลับมามีลุ้นเป็นตัวจริงเช่นกัน


        สำหรับเกมนี้มีรายงานว่าบัตรเข้าชมที่จำหน่ายทางไทยทิคเก็ต เมเจอร์ ได้ถูกจำหน่ายหมดลงเป็นที่เรียบร้อย เช่นเดียวกับการจำหน่ายล่วงหน้าของทางสโมสรเอสซีจี เมืองทองจำนวนกว่า 12,000 ใบ ได้ถูกจำหน่ายหมดลงเช่นกัน

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกแห่งศักดิ์ศรีที่แฟนบอลทั้ง2ทีมไม่สนว่าทีมจะอยู่ที่อันดับที่เท่าไหร่สิ่งที่แฟนบอลต้องการคือ ชัยขนะ เท่านั้น
เพราะมันคือศักดิ์ศรีของทั้งสองทีม




ศึกโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก ประจำนัดที่ 27 ของฤดูกาล 2013 กิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2 เตรียมเปิดรังเอสซีจี สเตเดี้ยมรับการมาเยือนของทัพฉลามชล ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 3

ความพร้อมของเจ้าถิ่น เรเน่ เด ซาเยียร์ มีปัญหาการจัดทัพเล็กน้อยหลัง เจอร์ราร์ดเมืองไทยอย่างฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ดันติดโทษแบนในเกมนี้ แต่ยังมีข่าวดีหลังกวิน ธัมมสัจจานันท์ นายทวารมือหนึ่งอาจจะฟิตทันกลับมาเฝ้าเสาในเกมนี้

ไปต่อกันที่แนวรุกนักเตะทุกคนต่างอยู่ในช่วงฟอร์มที่ดีทั้งในรายของดัสกร ทองเหลา ที่เพิ่งคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคมของโตโยต้า ที่พร้อมจะลงมาผนึกกำลังกับเอ็ดดิวัลโด้, มาริโอ ยูร็อฟสกี้และธีรศิลป์ แดงดาในการพังตาข่ายของทีมเยือน

ด้านทีมเยือนของโค้ชเฮง วิทยา เลาหกุล ประสบปัญหาอย่างหนัก โดยเฉพาะฝั่งซ้ายของทีม เนื่องจากณัฐพงศ์ สมณะที่ได้รับใบเหลืองในเกมก่อนจะไม่สามารถลงเล่นในเกมนี้ได้รวมถึงติดโทษแบน และอนุชา กิจพงษ์ศรีก็ยังไม่แน่ว่าจะฟิตสมบูรณ์สำหรับเกมนี้หรือไม่ ทำให้เฮงซัง อาจจะต้องใช้ อาทิตย์ สุนทรพิธ ทำเกมร่วมกับ ฆวน เกวโร

ส่วนผู้เล่นรายอื่นๆอย่างเจ้าเอ็ม สุทธินันท์ พุกหอม น่าจะได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้ หลังอันแดร์สัน ดอส ซานโตสป่วยและไม่น่าจะมีชื่อในเกมนี้ แต่ข่าวดีของทางฉลามชลก็คือ การได้ตัวติอาโก้ คุนญา ที่สลัดอาการบาดเจ็บกลับมาลงสนามอีกครั้ง และอาจจะได้จับคู่กับเลอันโดร อัสซัมเซาในการหยุดสถิติการคุมที่ยังไม่แพ้ใครเลยของเรเน่ เดอ ซาเยียร์ลงได้สำเร็จ

รู้หรือไม่

ทั้งสองทีมพบกันในลีก 9 ครั้ง เป็นเมืองทองฯ ที่มีภาษีดีกว่า เพราะสามารถเอาชนะได้ถึง 4 ครั้ง เสมอ 4 และแพ้เพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น

นักเตะที่ทำประตูให้มากที่สุดในการพบกันของทั้งสองทีม ได้แก่ดานโญ่ เซียก้า โดยเขาสามารถยิงได้ถึง 4 ประตู

นักเตะที่เคยลงเล่นให้กับทั้งสองสโมสรมาแล้วคือ ปิยะพล บรรเทาและมงคล นามนวด

ปี 2011 นักเตะที่ยิงประตูชัยให้ชลบุรี เอฟซี สามารถเอาชนะเมืองทองฯ ได้ถึงถิ่นเอสซีจี สเตเดี้ยม (ยามาฮ่า สเตเดี้ยมในขณะนั้น) คือ นูรูล ศรียานเก็ม กองหน้าวอนเดอร์คิดส์ของทีม "ฉลามชล" ที่ตอนนี้ถูกปล่อยให้ เชียงราย ยูไนเต็ด ยืมตัว

การพบกันของสองทีมนี้ 9 ครั้งที่ผ่านมา มีการทำประตูเกิดขึ้นทุกนัด โดยนัดเดียวที่ไม่มีประตู
เกิดขึ้นในฤดูกาล 2010 ที่ชลบุรีฯ เปิดบ้านเสมอเมืองทองฯ ไป 0-0

ส่วนเกมที่มีการยิงประตูใส่กันมากที่สุดเกิดขึ้นในปี 2009 ที่เมืองทองบุกไปถล่ม ชลบุรี 5-2

ผลการพบกันในเกมแรกที่ชลบุรี สเตเดี้ยม เป็นทีมกิเลนผยองที่บุกไปเอาชนะมาก่อน 2-0 จากการเหมายิงคนเดียวสองประตูของมาริโอ ยูร็อฟสกี้

http://www.goal.com/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่