เรื่องของเรื่องคือ...
เรานั่งรถตู้จากมาบุญครอง จะกลับบ้าน แล้วมีแขกผิวขาวขึ้นรถจากป้ายประตูน้ำ
เขาถามคนขับกับผู้โดยสารเรื่อง เบอร์รถ กับ วิธีขึ้นรถจากสะพานใหม่ไปประตูน้ำในตอนเช้า (ซึ่งเขาเข้าใจผิดว่าคันที่ขึ้นเป็นรถเมล์สาย 15 แต่จริงๆแล้วเป็นรถตู้สาย 96)
ด้วยความใจดี เลยช่วยอธิบายเรื่องรถให้เขาฟังเป็นภาษาอังกฤษ
พอเคลียร์เรื่องรถกับการเดินทางแล้ว เขาก็เริ่มชักชวนเราพูดคุย เราก็คุยตามน้ำ ได้ความว่า
* เขาเป็นคนลิเบีย มีพี่น้อง 8 คน มาเมืองไทยเป็นครั้งแรก พ่อของเขาทำธุรกิจอยู่เมืองไทยมา 24 ปีแล้ว
เดิมเคยอยู่ที่ประตูน้ำ แล้วย้ายไปซื้อบ้านที่สะพานใหม่ (เป็นสาเหตุให้เขาต้องนั่งรถไปสะพานใหม่)
แต่เหมือนว่าพ่อจะเสียหรือยังไงไม่ทราบ เลยต้องอยู่เมืองไทยคนเดียว ไม่ได้เรียนภาษาไทยก็จริง แต่ก็พูดไทยได้บางคำ
คาดว่าจะอยู่เมืองไทยถาวร และอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวกับการเข้าเมือง หรืออะไรประมาณนั้น
(ไม่รู้เราฟังผิดไปเองรึเปล่านะ แต่จากที่จับใจความได้ น่าจะเป็นธุรกิจทำวีซ่าปลอม หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับการเข้าเมืองผิดกฎหมาย) *
ตอนแรกๆก็คุยด้วยดี ซักพัก เขาก็เริ่มมีทีท่าเข้ามาตีสนิท เริ่มพูดแบบจีบๆ
ประมาณว่าอยากให้เราสอนภาษาไทยเขาหน่อย ไปเที่ยวกับเขาหน่อย อยากรู้จักกันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เราก็เลยกลัว (จริงๆรู้สึกไม่ดีตั้งแต่บอกเรื่องธุรกิจเข้าออกเมืองแล้ว) ก็เลยบอกว่า รู้จักกันแค่ในฐานะเพื่อนก็พอ
(เราพูดว่า Just in the name of friend)
แต่เขาบอกว่า อยากจะเลื่อนขั้นความสัมพันธ์ขึ้นๆไป แบบ Step by step (เขาพูดว่า I mean, now we're friend. But in the future. Things get deeper. It's step by step, you see?) แล้วเขาก็ขอเบอร์เรา...
ด้วยความที่คุยกันมาตลอดทาง ประกอบกับความซวยตรงที่ว่า ช่วงที่ขอเบอร์นั้น รถจอดไม่ได้ เลยหาเรื่องลงไม่ได้
เลยต้องให้เบอร์เขาไปโดยปริยาย และบอกเพียงแค่ชื่อเล่น กับ เบอร์โทรศัพท์เท่านั้นเอง...
เมื่อได้เบอร์เราแล้ว เขาก็ทำการโทรทันทีเลย ประหนึ่งว่าจะเช็คว่าเป็นเบอร์เราจริงๆรึเปล่า
เราเลยต้องยอมโชว์ให้เขาเห็นว่าเป็นเบอร์เราจริงๆ ก่อนจะลงจากรถไป...
(ก่อนลง มีการบอกว่า เดี๋ยวจะโทรมาด้วยนะ แต่ถ้าไม่ว่างรับก็ไม่เป็นไร เพราะดึกแล้ว)
หลังจากให้เบอร์เขาไปแล้ว ก็เริ่มเกิดความวิตกกังวลในใจว่า
ถ้าเขาเป็นมิจฉาชีพ หรือผู้ก่อการร้ายขึ้นมา เขาจะเอาเบอร์โทรศัพท์เราไปทำอะไรรึเปล่า
มีโอกาสที่จะเอาเบอร์โทรศัพท์เราไปโจรกรรม หรือทำเอกสารปลอมแปลง ทำบัตรปลอมให้คนอื่นได้รึเปล่า
กังวลมากๆเลยค่ะ รู้สึกแย่มากที่ให้เบอร์ไป
แต่ทั้งนี้ เราไม่เคยเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ ไม่เคยเปิดธุรกรรมทางการเงินที่ต้องจดทะเบียนผ่านมือถือ
และไม่เคยลงทะเบียนเบอร์มือถือในเฟสเลย (มะกี้ลองค้นเบอร์ตัวเองใน Google ก็ไม่มีข้อมูลตัวตนของเราขึ้น โชคดีจัง)
จะเป็นอันตรายมากไหมคะ กับการที่เราให้เบอร์โทรศัพท์มือถือกับชาวต่างชาติที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ถ้าสมมติ เขาเป็นมิจฉาชีพขึ้นมาจริงๆ และทำผิดโดนตำรวจจับ จะมีโอกาสที่เราโดนร่างแหไปด้วยรึเปล่าคะ กลัวมากเลยค่ะ
ปล. ถึงเขาโทรมา ก็ไม่รับค่ะ สยองกับวิธีจีบของเขาจริงๆ เจอหน้ากันครั้งแรก จีบกันโต้งๆแบบนี้ เงิบเลยทีเดียว
ปล.2 ถ้าแท็กผิด ขออภัยด้วยนะคะ ไม่รู้จะร้องทุกข์กับหมวดไหนดี
ช่วยด้วยค่ะ การให้เบอร์โทรศัพท์กับชาวลิเบียแปลกหน้า จะเป็นอันตรายมากน้อยแค่ไหนคะ
เรานั่งรถตู้จากมาบุญครอง จะกลับบ้าน แล้วมีแขกผิวขาวขึ้นรถจากป้ายประตูน้ำ
เขาถามคนขับกับผู้โดยสารเรื่อง เบอร์รถ กับ วิธีขึ้นรถจากสะพานใหม่ไปประตูน้ำในตอนเช้า (ซึ่งเขาเข้าใจผิดว่าคันที่ขึ้นเป็นรถเมล์สาย 15 แต่จริงๆแล้วเป็นรถตู้สาย 96)
ด้วยความใจดี เลยช่วยอธิบายเรื่องรถให้เขาฟังเป็นภาษาอังกฤษ
พอเคลียร์เรื่องรถกับการเดินทางแล้ว เขาก็เริ่มชักชวนเราพูดคุย เราก็คุยตามน้ำ ได้ความว่า
* เขาเป็นคนลิเบีย มีพี่น้อง 8 คน มาเมืองไทยเป็นครั้งแรก พ่อของเขาทำธุรกิจอยู่เมืองไทยมา 24 ปีแล้ว
เดิมเคยอยู่ที่ประตูน้ำ แล้วย้ายไปซื้อบ้านที่สะพานใหม่ (เป็นสาเหตุให้เขาต้องนั่งรถไปสะพานใหม่)
แต่เหมือนว่าพ่อจะเสียหรือยังไงไม่ทราบ เลยต้องอยู่เมืองไทยคนเดียว ไม่ได้เรียนภาษาไทยก็จริง แต่ก็พูดไทยได้บางคำ
คาดว่าจะอยู่เมืองไทยถาวร และอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวกับการเข้าเมือง หรืออะไรประมาณนั้น
(ไม่รู้เราฟังผิดไปเองรึเปล่านะ แต่จากที่จับใจความได้ น่าจะเป็นธุรกิจทำวีซ่าปลอม หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับการเข้าเมืองผิดกฎหมาย) *
ตอนแรกๆก็คุยด้วยดี ซักพัก เขาก็เริ่มมีทีท่าเข้ามาตีสนิท เริ่มพูดแบบจีบๆ
ประมาณว่าอยากให้เราสอนภาษาไทยเขาหน่อย ไปเที่ยวกับเขาหน่อย อยากรู้จักกันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เราก็เลยกลัว (จริงๆรู้สึกไม่ดีตั้งแต่บอกเรื่องธุรกิจเข้าออกเมืองแล้ว) ก็เลยบอกว่า รู้จักกันแค่ในฐานะเพื่อนก็พอ
(เราพูดว่า Just in the name of friend)
แต่เขาบอกว่า อยากจะเลื่อนขั้นความสัมพันธ์ขึ้นๆไป แบบ Step by step (เขาพูดว่า I mean, now we're friend. But in the future. Things get deeper. It's step by step, you see?) แล้วเขาก็ขอเบอร์เรา...
ด้วยความที่คุยกันมาตลอดทาง ประกอบกับความซวยตรงที่ว่า ช่วงที่ขอเบอร์นั้น รถจอดไม่ได้ เลยหาเรื่องลงไม่ได้
เลยต้องให้เบอร์เขาไปโดยปริยาย และบอกเพียงแค่ชื่อเล่น กับ เบอร์โทรศัพท์เท่านั้นเอง...
เมื่อได้เบอร์เราแล้ว เขาก็ทำการโทรทันทีเลย ประหนึ่งว่าจะเช็คว่าเป็นเบอร์เราจริงๆรึเปล่า
เราเลยต้องยอมโชว์ให้เขาเห็นว่าเป็นเบอร์เราจริงๆ ก่อนจะลงจากรถไป...
(ก่อนลง มีการบอกว่า เดี๋ยวจะโทรมาด้วยนะ แต่ถ้าไม่ว่างรับก็ไม่เป็นไร เพราะดึกแล้ว)
หลังจากให้เบอร์เขาไปแล้ว ก็เริ่มเกิดความวิตกกังวลในใจว่า
ถ้าเขาเป็นมิจฉาชีพ หรือผู้ก่อการร้ายขึ้นมา เขาจะเอาเบอร์โทรศัพท์เราไปทำอะไรรึเปล่า
มีโอกาสที่จะเอาเบอร์โทรศัพท์เราไปโจรกรรม หรือทำเอกสารปลอมแปลง ทำบัตรปลอมให้คนอื่นได้รึเปล่า
กังวลมากๆเลยค่ะ รู้สึกแย่มากที่ให้เบอร์ไป
แต่ทั้งนี้ เราไม่เคยเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ ไม่เคยเปิดธุรกรรมทางการเงินที่ต้องจดทะเบียนผ่านมือถือ
และไม่เคยลงทะเบียนเบอร์มือถือในเฟสเลย (มะกี้ลองค้นเบอร์ตัวเองใน Google ก็ไม่มีข้อมูลตัวตนของเราขึ้น โชคดีจัง)
จะเป็นอันตรายมากไหมคะ กับการที่เราให้เบอร์โทรศัพท์มือถือกับชาวต่างชาติที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ถ้าสมมติ เขาเป็นมิจฉาชีพขึ้นมาจริงๆ และทำผิดโดนตำรวจจับ จะมีโอกาสที่เราโดนร่างแหไปด้วยรึเปล่าคะ กลัวมากเลยค่ะ
ปล. ถึงเขาโทรมา ก็ไม่รับค่ะ สยองกับวิธีจีบของเขาจริงๆ เจอหน้ากันครั้งแรก จีบกันโต้งๆแบบนี้ เงิบเลยทีเดียว
ปล.2 ถ้าแท็กผิด ขออภัยด้วยนะคะ ไม่รู้จะร้องทุกข์กับหมวดไหนดี