ในโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ ที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากเรื่องราวที่เราเกี่ยวข้องกันทางการค้า การเดินทางท่องเที่ยว การเมือง สังคม สงคราม และอื่นๆ อีกมากมาย แนะล่ะ...การแข่งขันในด้านอื่นๆ ไม่สนุกและเป็นเรื่องเครียด ไม่ว่าจะเป็นการค้า หรือสงครามการแย่งชิง แต่เรื่องสนุกๆ ก็พอมี เช่น เรื่องเซ็กส์ น่าจะรู้กันไปเลยว่า...เซ็กส์ประเทศใดที่ดีที่สุด(ยังไม่มีบทสรุปตายตัวในเรื่องนี้)

อังกฤษ



ชาวอังกฤษ มีเพศสัมพันธ์เฉลี่ยสัปดาห์ละ 4 ครั้ง ท่าร่วมเพศที่เป็นที่นิยมและใช้กันแพร่หลาย คือ ท่าที่ผู้หญิงอยู่เบื้องบน แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ดูแปลกๆ อยู่ แต่ก็เป็นของชอบของชาวอังกฤษจริงๆ

ชายอังกฤษมีคู่นอนโดยเฉลี่ยตลอดชีวิตความเป็นหนุ่ม 7 คน และพวกเขามักเสียหนุ่มกับเรื่องเพศสัมพันธ์ครั้งแรก เมื่ออายุ 16 ปี นอกจากนี้ เซ็กส์รุนแรงที่เป็นที่ชื่นชอบของชาวอังกฤษคือ การตีก้นผู้หญิงอย่างรุนแรงเวลาเกิดมีอารมณ์เพศ แต่วัยรุ่นชายของเมืองผู้ดี ชอบการผูกมัดโยงผู้หญิงไว้กับเตียงถึง 48 เปอร์เซ็นต์ ส่วนพวกที่ชอบใช้ Sex Toys ก็มีจำนวนมากพอๆ กัน

เรื่องเล่าของชาวผู้ดี

แต่เดิมชาวอังกฤษ เป็นผู้นำเรื่องเชิงสร้างสรรค์หรือประดิษฐ์สิ่งต่างๆ แต่ก็มีเรื่องเล่าของชายวัยเกษียณอายุคนหนึ่ง ซึ่งนอนตายอยู่ในแฟลต และมีผ้าห่มคลุมตัวอยู่ถึง 14 ชั้น ด้วยความสงสัยว่าเขาจะถูกฆาตกรรม แต่เมื่อตำรวจแกะผ้าห่มที่ห่อหุ้มตัวเขาออก กับพบว่า เขาตายจากสาเหตุการทำมาสเตอร์เบทให้ตัวเอง

เรื่องราวความเชี่ยวชาญทางเพศสัมพันธ์ เห็นจะไม่มีใครเกิน Lord Byron กวีผู้มีชื่อเสียงของอังกฤษ ผู้นำในเรื่องความเป็นนักรัก ด้วยเขาเป็นตำนานของการเริ่มต้นเซ็กส์หมู่ที่นั่น บางคืนไบรอนใช้ชีวิตบนเตียงกับโสเภณีครั้งละ 2 คน ไม่นับรวมชู้รัก ที่มีผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาให้เขาเชยชม ครั้งละมากกว่า 1 คนเสมอ

สหรัฐอเมริกา



ชาวอเมริกัน ได้ชื่อว่าใช้ชีวิตค่อนข้างสะอาด พวกเขามีเซ็กส์สัปดาห์ละ 3 ครั้งโดยเฉลี่ย ชายหนุ่มเริ่มชีวิตทางเพศโดยเฉลี่ยเมื่ออายุ 16 ปีเช่นเดียวกัน คู่แต่งงานส่วนใหญ่มีลูกกับครอบครัวละ 2 คน และมีเพศสัมพันธ์กับคู่ของตนอย่างสม่ำเสมอต่อไป

ท่าร่วมเพศยอดนิยมของชาวอเมริกันไม่ได้หวือหวานัก ยังคงเป็นท่า Missionary นอกจากนี้ชายอเมริกัน 1 ใน 12 คน ยอมรับว่ารสนิยมแปลกๆ ที่พวกเขาชอบคือ การร่วมเพศกับสัตว์

เรื่องเล่ายอดนิยมของชาวอเมริกัน

หนุ่มอเมริกันชื่อ Kenneth Cohen มีตำแหน่งเป็นถึงประธานบริษัท ที่เปิดดำเนินการทางด้านการตลาดแห่งหนึ่ง ทำทีเป็นจิตแพทย์ของสามีผู้หญิงที่เขารู้จักและโทรศัพท์คุยกับเธอ เขาสร้างเรื่องว่า คนรักเก่าของสามีผู้หญิงคนนั้นฆ่าตัวตายไป สามีเขาต้องการให้เธอมีชายอื่น เพื่อเพิ่มเติมเต็มจินตนาการทางเพศของตน แล้วเขาก็จะได้รับการติดต่อกลับจากสตรีพวกนี้ เพื่อให้เธอมีเพศสัมพันธ์ด้วย เพราะสตรีส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะช่วยสามีให้เป็นสุข

สำหรับประธานาธิบดีอเมริกัน ซึ่งถือเป็นบุคคลที่เป็นผู้นำ เขาเป็นผู้นำทางเพศด้วย เรื่องเล่าเกี่ยวกับ จอห์น เอฟ เคเนดี้ คือเขาเข้าไปมั่วในซ่องตั้งแต่อายุ 14 และไม่เคยปล่อยผ่านสาวคนไหนที่ได้ร่วมหลับนอนกับเขา หากไม่ได้ร่วมรักกับหล่อนครบทั้ง 3 ทาง เคยใช้เวลากับสาวเต้นเปลือยในตู้อยู่ 20 นาที และเคยมีนัดสาวร้อน มารีลีน มอนโร ด้วย

ฝรั่งเศส



เป็นอีกชาติหนึ่งที่ได้ชื่อว่า เป็นนักรักสุดยอดของแถบยุโรป อายุที่เริ่มต้นทางเพศของเด็กหนุ่ม ช้ากว่าคนชาติอื่นนิดหน่อย คือ 18 ปี แต่มีเวลาเพื่อเสพสมมากเมื่อโตขึ้น ครอบครัวฝรั่งเศส มีบุตรโดยเฉลี่ยครอบครัวละ 1.8 คน และมักร่วมรักกันสัปดาห์ละ 4 ครั้ง แต่ละครั้งกินเวลานานเพียง 15 นาที และ 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่ชอบความคิดเรื่องการใช้ Sex Toys ในฝรั่งเศสค่อนข้างยอมรับเรื่องสามีมีผู้หญิงอื่น แถมบรรดาภรรยาผู้จงรักภักดีถึง 87 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าไม่เคยคิดนอกใจเป็นการแก้แค้น

เรื่องเล่าชาวเมืองน้ำหอม

เนื่องจากเป็นชาติที่ให้ความสำคัญกับความสุขทางเพศเหนือสิ่งอื่นใด จึงมีเรื่องเล่าว่า ในปี ค.ศ.1899 ประธานาธิบดี Felix Faure ป่วยด้วยโรคในเส้นเลือด แต่เขาสามารถมีเซ็กส์ได้โดยการสั่งทำเก้าอี้แบบพิเศษ มีกระแสไฟฟ้าอย่างอ่อนคอยกระตุ้นให้เขามีกิจกรรมทางเพศได้

ส่วน Victor Hugo เคยคุยว่า เขาสามารถเมคเลิฟตั้ง 9 ครั้งในคืนวันวิวาห์ นอกจากนี้ยังเริงสวาทกับชู้รักอีก 3 สาวในช่วงบ่าย แถมยังเดินเข้าออกสถานบริการทางเพศของปาริเชียนเป็นว่าเล่น คงเป็นชื่อเสียงประเภทนี้กระมัง ที่ทำให้ฝรั่งเศสโด่งดังมากในฐานะเมืองโลกีย์

รัสเซีย

อายุของหนุ่มน้อยที่เสียพรหมจรรย์ไปในการร่วมเพศครั้งแรกของชีวิต คือ 18 ปี ชนชาวหมีขาว มีเพศสัมพันธ์สัปดาห์ละ 3 ครั้ง และเซ็กส์ในแต่ละครั้ง ได้คะแนนรวมเพียงแค่พอใจ ไม่ถึงระดับยอดเยี่ยมหรือถูกใจมาก ตลอดชีวิตความเป็นหนุ่มอาจเปลี่ยนคู่นอนได้ถึง 10 คน

ท่าร่วมเพศที่พอใจที่สุด คือท่า Missionary หรือผู้ชายอยู่เบื้องบน และท่าร่วมรักที่สอดใส่ทางด้านหลัง แต่เรื่องการเป็นชู้และการเที่ยวโสเภณี เป็นเรื่องผิดกฏหมาย 3 ใน 5 คนของชายรัสเซีย ชอบการร่วมเพศแบบพิสดารออกไป และร้อยละ 49 ชอบการร่วมเพศทางทวารหนัก และยังชอบดูการเริงรักระหว่างผู้หญิงแบบ

เลสเบี้ยนด้วย

เรื่องเล่าบนเตียงของชาวหมีขาว

หญิงสาวชาวเมืองวินนัสต้า ผู้ได้รับอิทธิพลจากการร่วมรักแบบชาวตะวันตก ก็เลยทดลองเทคนิคนี้กับสามี กล่าวคือ หล่อนตะปบอัณฑะของสามีอย่างรุนแรง ขณะที่เขากำลังถึงจุดไคลแม็กซ์ ผลปรากฏว่าเขาช๊อคและพูดไม่ได้ไป 2 วัน

ตำนานเรื่องรักใคร่ของรัสปูติน ก็เป็นอีเรื่องหนึ่งที่โลกไม่ลืม เขามีอวัยวะเพศยาวถึง 13 นิ้ว ตั้งแต่อายุ 16 ปี เขาก็เชยชมและเด็ดพรมจรรย์จากผู้หญิงรวดเดียว 7 คน เขาเข้าไปในสถานที่เริงโลกีย์แบบ Orgies ของชาวบุคคาเนียน และกลายเป็นขวัญใจของสาวๆ ที่เข้ามาห้อมล้อม และเกือบได้เผด็จสวาทองค์มเหสีของซาร์ ในที่สุดก็ถูกฆ่าตายจากพวกริษยา และถูกทำร้ายที่อวัยวะเพศด้วย

ญี่ปุ่น

คนญี่ปุ่นเริ่มกรำศึกสวาทตั้งแต่อายุ 14 ปี และมีความวิตกว่าจะลดลงไปเหลือ 12 ปี และแม้จะเริ่มต้นบทรักตั้งแต่อายุยังน้อย พอโตขึ้นกลับมีกิจกรรมทางเพศสัปดาห์ละ 2 ครั้งเท่านั้น

ผู้หญิงญี่ปุ่นถึงร้อยละ 50 บอกว่า พวกเธอไม่เคยถึงจุดสุดยอดจากการร่วมเพศ ร้อยละ 92 บอกว่าเคยทำมาสเตอร์เบท ในขณะที่อีกร้อยละ 92 เช่นกัน ที่ใช้ปากกับอวัยวะเพศของฝ่ายชาย

ชายญี่ปุ่นมีรสนิยมชอบเอ๊าะๆ ตู้ขายของแบบกดปุ่มจึงเต็มไปด้วยกางเกงชั้นใน และขวดบรรจุเหงื่อและนำลายของสาวรุ่น แถมยังมีกางเกงชนิดที่เป็นไวท์เบรเตอร์ด้วย

เรื่องเล่าของชาวอาทิตย์อุทัย

ชาวญี่ปุ่นจัดทำเอกสาร Kokigami เป็นแผ่นพับโชว์ขนาดอวัยวะเพศชาย แม้ว่าจะไม่ค่อยได้ประโยชน์หรือสาระอะไร แต่ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสนใจอย่างมาก ต่ออวัยวะเพศและการปรับปรุงให้มันมีขนาดใหญ่ขึ้น

มิชิมา เป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นไบเซ็กส์ชวลผู้เผด็จการ เขากักขังผู้หญิงไว้เป็นทาส แม้ว่าตัวเขาเองจะมีรูปร่างเตี้ยแคระ ความหลงใหลเรื่องเพศของเขา แสดงออกโดยการมีอารมณ์ความสุขทางเพศเมื่อเห็นภาพ St.Sebastian ถูกยิงด้วยศร รวมทั้งภาพไมเคิล แจ็คสัน ผู้ชุ่มเหงื่อด้วยถุงมือขาว ความวิปริตของเขาแสดงออกในทางแปลกๆ โดยเฉพาะเรื่องมีสัมพันธ์ทางเพศกับมารดาตนเอง

ซาอุดิอาราเบีย

อายุของการทางเพศของเด็กหนุ่มชาวซาอุฯ เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาพร้อม ในประเทศนี้มีเรื่องต้องห้ามทางเพศที่ถือว่าผิดกฏหมายอยู่หลายเรื่อง เช่น การเที่ยวโสเภณี การคบชู้ การมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน เซ็กส์ทางทวารหนัก และออรัลเซ็กส์

ผู้คนแถบตะวันออกกลาง ยังขลิบอวัยวะเพศหญิง เพื่อไม่ให้พวกหล่อนหลงใหลในกามมากเกินไป และผู้หญิงไม่ค่อยได้รับอนุญาตให้สนุกกับเซ็กส์ การมีภรรยา 2 คนได้รับอนุญาติให้ทำได้ในบางเขต เช่น หากภรรยาคนหนึ่งไม่สามารถให้ความสุขแก่สามีได้ เขาก็จะได้รับอนุญาตให้นำสาวอื่นมาเป็นภรรยาน้อยได้

เรื่องเล่าสำหรับชาวอาหรับ

กษัตริย์ IBN SAUDO แห่งซาอุดิอาราเบีย เคยเล่าอย่างทรงภาคภูมิใจ ว่าพระองค์มีพระชายาถึง 400 คน แต่ไม่เคยเห็นหน้าพวกหล่อนเลย เพราะทุกคนต้องสวมผ้าคลุมใบหน้า การกระทำดังกล่าวเกิดได้เฉพาะกับบุคคลที่เป็นประมุขของประเทศเท่านั้น แต่ชายธรรมดามีได้เพียงภรรยาเดียว แต่ตอนจบของเรื่องเล่า ก็บอกว่าบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ก็มีสภาพไม่ต่างจากขันทีที่เฝ้าฮาเร็ม เพราะน้ำอสุจิถูกใช้จนหมด