คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ไม่ได้เพี้ยนต่างกันมากเท่าไหร่หรอกครับ
คนที่ทำเป็นเขาก็ศึกษาเพิ่มเติม เรียนและหาความรู้เพิ่มเติมครับ
หลายคนทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยก็มีทักษะบางอย่าง เพิ่มเข้ามาเยอะกว่า
ก็ไม่แปลกหากทำไม่ได้ แต่ถ้ามีโอกาสมีเวลาก็หาความรู้เพิ่มเติมครับ
บางครั้งการได้งาน ถ้าเรามีมูลค่าในตัวเองด้านอื่นๆ เพิ่มมันก็มีผลต่อคนที่เขาจ้าง
เพราะแต่ละคนมีทักษะที่ต่างกัน แต่มีคนถาม ก็พูดว่าจิบวิศวะคอม หรือซอฟแวร์มา เหมือนกัน
มันเลยทำให้สาขานี้ เหมือนมีองค์ความรู้ที่กว้างกว่าสาขาอื่นๆ และเป็นที่คาดหวังของคนที่ต้องการ
ผมเอง มองตรงนี้เป็นโอกาสครับ เพาะแต่ก่อนก็ไม่ได้เป็นอะไรเยอะแยะ แต่การที่ค่อยๆ หัดและศึกษาไปทีละเรื่อง
ก็ทำให้เรารู้และพัฒนาตนเอง ประยุกต์ความรู้หลายๆ ด้านเข้าด้วยกัน ได้เข้าหาคน ได้งาน ได้องค์ความรู้ใหม่ๆ
บางคนได้งานเพราะ จบวิศวะคอม แต่สามารถซ่อมรถได้
บางคนได้งานเพราะ จบวิศวะกรรมอาหาร แต่สามารถซ่อมเปลี่ยนและลงโปรแกรมวินโดวส์ได้
เพราะบางแห่งไม่ใหญ่มากไม่ต้องการจ้างคนเยอะ หรือจ่ายเพิ่มตามทักษะที่มี ตามแต่ละแห่ง
เคยก็เคยโดนอะไรแบบนี้ ผมก็อธิบายและก็สร้างโอกาสให้ตัวเอง
ถึงวันนี้ก็ยังศึกษาสิ่งใหม่ๆ และไม่เคยน้อยใจ แต่ถือเสียว่าคนเขาให้โอกาสเราแสดงฝีมือต่างหาก
คนที่ทำเป็นเขาก็ศึกษาเพิ่มเติม เรียนและหาความรู้เพิ่มเติมครับ
หลายคนทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยก็มีทักษะบางอย่าง เพิ่มเข้ามาเยอะกว่า
ก็ไม่แปลกหากทำไม่ได้ แต่ถ้ามีโอกาสมีเวลาก็หาความรู้เพิ่มเติมครับ
บางครั้งการได้งาน ถ้าเรามีมูลค่าในตัวเองด้านอื่นๆ เพิ่มมันก็มีผลต่อคนที่เขาจ้าง
เพราะแต่ละคนมีทักษะที่ต่างกัน แต่มีคนถาม ก็พูดว่าจิบวิศวะคอม หรือซอฟแวร์มา เหมือนกัน
มันเลยทำให้สาขานี้ เหมือนมีองค์ความรู้ที่กว้างกว่าสาขาอื่นๆ และเป็นที่คาดหวังของคนที่ต้องการ
ผมเอง มองตรงนี้เป็นโอกาสครับ เพาะแต่ก่อนก็ไม่ได้เป็นอะไรเยอะแยะ แต่การที่ค่อยๆ หัดและศึกษาไปทีละเรื่อง
ก็ทำให้เรารู้และพัฒนาตนเอง ประยุกต์ความรู้หลายๆ ด้านเข้าด้วยกัน ได้เข้าหาคน ได้งาน ได้องค์ความรู้ใหม่ๆ
บางคนได้งานเพราะ จบวิศวะคอม แต่สามารถซ่อมรถได้
บางคนได้งานเพราะ จบวิศวะกรรมอาหาร แต่สามารถซ่อมเปลี่ยนและลงโปรแกรมวินโดวส์ได้
เพราะบางแห่งไม่ใหญ่มากไม่ต้องการจ้างคนเยอะ หรือจ่ายเพิ่มตามทักษะที่มี ตามแต่ละแห่ง
เคยก็เคยโดนอะไรแบบนี้ ผมก็อธิบายและก็สร้างโอกาสให้ตัวเอง
ถึงวันนี้ก็ยังศึกษาสิ่งใหม่ๆ และไม่เคยน้อยใจ แต่ถือเสียว่าคนเขาให้โอกาสเราแสดงฝีมือต่างหาก
แสดงความคิดเห็น
วิศวกรรมซอฟต์แวร์
เราเรียน วิศวกรรมซอฟต์แวร์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ตอนนี่ ศึกษาอยุ่ ปี 4 สาขาวิศวกรรมซอฟต์แวร์ มีคนถามว่าได้เรียนเขียนโปรแกรมอะไรมั้งเราบอกเขาไปว่า เรียน ภาษาC เรียน Java เรียน visual basic แล้วจะได้ทำตอบกลับมาว่า วิศวกรรมเรียนเขียนโปรแกรมแค่นี้หรือ มีเรียนอะไรอีก
เราเลยบอกว่า ส่วนใหญ่จะเรียนเกี่ยวกับทฤษีต่าง ๆ เช่น CMM CMMI TESTTER( ทฤษีล้วน) แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมคนที่ถามถึงทำหน้าเซง ๆ แล้วสายหัวบอกว่า สอนแบบนี้ได้ยังไง คือว่า เรา งงคะ มันไม่ดีหรือว่ายังไง แต่มหาลัยเราก็จัดหลักสูตรเพี้ยน ๆ อยุ่ พี่สาวเราเป็น อ. สอนยุมหาลัยแห่งหนึ่ง(สอนวิศวกรรมซอฟต์แวร์เหมือนกัน) เขาบอกมาว่า มหาลัยเรา จัดหลักสูตรแปลกไปนะ เราก็เข้าใจว่ามันคนละ มหาลัยกัน แต่เมื่อมาฟัง อ. ในมหาลัยตัวเอง ก็บอกว่าหลักสูตรมันเพี้ยนเหมือนกัน เลยอยากทราบว่ามันแปลกไหม
แล้วทำไมทุกคนต้องคิดว่าเรียนวิศวด้านนี้คือเก่ง ทำได้ทุกอย่างเช่น
- ทำไมคอมช้าดูให้หน่อย
- นู้นนี่นั้นเสียดูให้หน่อย
- ลงเกมส์ให้หน่อย
- โปรแกรมนี้เปงอะไรอ่ะเปิดไม่ได้
- Error อ่า แก้ให้หน่อยดิ
- คอมโดนไวรัสแก้ให้หน่อย
- เน็ตเล่นไม่ได้แก้ให้หน่อย
- จอเปิดไม่ติดแก้ให้หน่อย
พอบ้างอันเราบอกแก้ไม่ได้ ก็ว่า ว่า "อะไรเรียนตั้งวิศวแค่นี้แก้ไม่ได้หรอ"
แอบนอยส์นะบางที จะบอกว่า วิศวก็ไม่ได้เก่งไปซะทุกเรื่องนะเนี่ย ไม่งั้น วิศวทางด้านคอมจะมีแบ่งสายเรียนหรอ
น้อยใจมาก ๆ สำหรับคนที่ไม่เข้าใจ