ก่อนอื่นต้องขอโทษที่ชื่อกระทู้อาจจะไม่ถูกต้องนัก
เนื่องจากเมื่อต้นปีได้มีโอกาสกลับไทย แล้วได้ไปเดินซื้อของใช้ตามซุปเปอร์มาเก็ต
คำนวนดู เห็นว่าราคาสินค้าขึ้นสูงมาก ดิฉันมีลูกเล็ก ต้องซื้อผ้าอ้อมและนม
ต้องตกใจว่าราคาพอๆกับที่ออสเตรเลียเลย
ในขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำของไทยนั้นห่างไกลกับออสเตรเลียแบบเทียบไม่ติด
แล้วคนรายได้ต่ำจะอยู่อย่างไร หากมีลูก ลูกของพวกเขาจะมีคุณภาพชีวิตอย่างไร
เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้ค่ะ
ค่าแรงขั้นต่ำออส 450 บาท หรือ $15 ต่อชั่วโมง (เรทแลกเปลี่ยน $1 ต่อ 30 บาท)
ค่าแรงขั้นต่ำไทย 37.5 บาทต่อชั่วโมง
ราคาสินค้าและบริการต่างกันไม่มาก แต่ค่าแรงต่างกันลิบลับ
แล้วคนรายได้น้อยจะอยู่อย่างไร คุณภาพชีวิตเป็นอย่างไร
ลองเช็คราคาสินค้าและบริการในออสเตรเลีย
http://www2.woolworthsonline.com.au/
http://www.kmart.com.au/
http://www.coles.com.au/
http://www.ikea.com/au/en/preindex.html
http://www.gumtree.com.au/
http://www.bigw.com.au/
คนที่มีรายได้น้อยในประเทศไทยดูจะอยู่อย่างลำบากถ้าเทียบกับค่าใช้จ่าย
เป็นการยากหากคนที่มีรายได้ขั้นต่ำจะเป็นเจ้าของอุปกรณ์อีเล็กโทรนิกส์ต่างๆ
มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ทีวี รถยนต์ บ้าน ตู้เย็น อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ
ส่วนมากต้องเป็นหนี้เงินผ่อน
จริงอยู่ที่รายได้ของคนที่อยู่ต่างประเทศมาก และรายจ่ายก็มากตามไปด้วย
แต่เขาสามารถเก็บเงินอันน้อยนิดของเขาเพื่อมาใช้จ่ายในประเทศอย่างเราได้ในเวลาไม่นาน
เริ่มเก็บตั้งแต่ต้นปี ปลายปีก็มาเที่ยวไทยได้แล้ว
แต่คนไทยที่มีค่าแรงขั้นต่ำ จะต้องเก็บเงินอีกนานเท่าไหร่กว่าจะได้ไปเที่ยว(แม้แต่ในเมืองไทย)
ไม่ต้องพูดถึงมีรถมีบ้าน ซึ่งยากเย็นเหลือเกิน
อยากเห็นคุณภาพชีวิตของคนไทยรายได้น้อยมีโอกาสได้ทัดเทียมกับประเทศที่เขาพัฒนาแล้ว
อยากเห็นช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนมันน้อยลงสักที ไม่แตกต่างกันมากจนเกินไป
ไม่รู้ช่วยได้อย่างไร ได้แต่เศร้าใจทุกครั้งที่นึกถึง
รัฐบาลออสเตรเลียให้โอกาสคน ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ สามารถเรียนและเริ่มทำงานได้
ซึ่งทางรัฐส่งเสริมโดยให้เสียค่าเรียนราคาถูกมากในทุกสาขาอาชีพและหางานให้ทำ
เริ่มอาชีพใหม่ได้ หากค้นพบตนเองในวันที่อายุมากแล้ว
จขกท. เจอหมอจบใหม่, พยาบาลจบใหม่ อายุ สี่สิบ+ เขายังมีงานทำ
แต่ที่เมืองไทย อายุเกินสามสิบก็หางานลำบากแล้ว
อยากเห็นสังคมไทยให้โอกาสคนท้องคนอายุเกินสี่สิบมีสิทธิ์ในการทำมาหาเลี้ยงตนเองหรือเริ่มต้นอาชีพใหม่ได้
ไม่งั้นเมืองไทยก็จะมีแต่คนว่างงาน , ขาดการศึกษา เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเป็นภาระให้สังคมอีกด้วย
ในประเทศออสเตรเลีย ดูเหมือนค่าครองชีพจะแพง
แต่หากจะอยู่อย่างประหยัด มันก็มีทางเลือกให้เราอยู่
สินค้าราคาประหยัดที่ทางซุปเปอร์มาเก็ตทำออกมาขายเป็นแบรนด์ตัวเองนั้นราคาถูกมาก คุณภาพก็ไม่ได้เลวร้าย
เสื้อผ้าของใช้ต่างๆ มีลดราคาให้เห็นตลอด
เฟอร์นิเจอร์มือสองราคาถูกมีขายตามอืนเตอร์เน็ต
รถยนต์ราคาถูก หกหมื่นบาทก็เป็นเจ้าของรถราคาสองแสนบาทที่เมืองไทยได้
ที่อยู่อาศัยราคาไม่แพงก็มีให้เลือก และแน่นอนไม่ใช่บ้านมุงสังกะสีบนน้ำเน่า
ส่วนคนที่รายได้ต่ำที่เป็นปชชชาวออสเตรเลีย ก็ไม่จำเป็นต้องทำประกัน
เพราะการรักษาพยาบาลนั้นฟรี และดีอยู่แล้ว
...อ่านทั้งหมด คห.ที่ 46...
ผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วยค่ะ
*ขอลบข้อมูลที่เป็นตัวเลขออกเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจคลาดเคลื่อนและความขัดแย้งค่ะ
เปรียบเทียบ**ค่าครองชีพและค่าแรงขั้นต่ำ**ไทย-ออสเตรเลีย
เนื่องจากเมื่อต้นปีได้มีโอกาสกลับไทย แล้วได้ไปเดินซื้อของใช้ตามซุปเปอร์มาเก็ต
คำนวนดู เห็นว่าราคาสินค้าขึ้นสูงมาก ดิฉันมีลูกเล็ก ต้องซื้อผ้าอ้อมและนม
ต้องตกใจว่าราคาพอๆกับที่ออสเตรเลียเลย
ในขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำของไทยนั้นห่างไกลกับออสเตรเลียแบบเทียบไม่ติด
แล้วคนรายได้ต่ำจะอยู่อย่างไร หากมีลูก ลูกของพวกเขาจะมีคุณภาพชีวิตอย่างไร
เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้ค่ะ
ค่าแรงขั้นต่ำออส 450 บาท หรือ $15 ต่อชั่วโมง (เรทแลกเปลี่ยน $1 ต่อ 30 บาท)
ค่าแรงขั้นต่ำไทย 37.5 บาทต่อชั่วโมง
ราคาสินค้าและบริการต่างกันไม่มาก แต่ค่าแรงต่างกันลิบลับ
แล้วคนรายได้น้อยจะอยู่อย่างไร คุณภาพชีวิตเป็นอย่างไร
ลองเช็คราคาสินค้าและบริการในออสเตรเลีย
http://www2.woolworthsonline.com.au/
http://www.kmart.com.au/
http://www.coles.com.au/
http://www.ikea.com/au/en/preindex.html
http://www.gumtree.com.au/
http://www.bigw.com.au/
คนที่มีรายได้น้อยในประเทศไทยดูจะอยู่อย่างลำบากถ้าเทียบกับค่าใช้จ่าย
เป็นการยากหากคนที่มีรายได้ขั้นต่ำจะเป็นเจ้าของอุปกรณ์อีเล็กโทรนิกส์ต่างๆ
มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ทีวี รถยนต์ บ้าน ตู้เย็น อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ
ส่วนมากต้องเป็นหนี้เงินผ่อน
จริงอยู่ที่รายได้ของคนที่อยู่ต่างประเทศมาก และรายจ่ายก็มากตามไปด้วย
แต่เขาสามารถเก็บเงินอันน้อยนิดของเขาเพื่อมาใช้จ่ายในประเทศอย่างเราได้ในเวลาไม่นาน
เริ่มเก็บตั้งแต่ต้นปี ปลายปีก็มาเที่ยวไทยได้แล้ว
แต่คนไทยที่มีค่าแรงขั้นต่ำ จะต้องเก็บเงินอีกนานเท่าไหร่กว่าจะได้ไปเที่ยว(แม้แต่ในเมืองไทย)
ไม่ต้องพูดถึงมีรถมีบ้าน ซึ่งยากเย็นเหลือเกิน
อยากเห็นคุณภาพชีวิตของคนไทยรายได้น้อยมีโอกาสได้ทัดเทียมกับประเทศที่เขาพัฒนาแล้ว
อยากเห็นช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนมันน้อยลงสักที ไม่แตกต่างกันมากจนเกินไป
ไม่รู้ช่วยได้อย่างไร ได้แต่เศร้าใจทุกครั้งที่นึกถึง
รัฐบาลออสเตรเลียให้โอกาสคน ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ สามารถเรียนและเริ่มทำงานได้
ซึ่งทางรัฐส่งเสริมโดยให้เสียค่าเรียนราคาถูกมากในทุกสาขาอาชีพและหางานให้ทำ
เริ่มอาชีพใหม่ได้ หากค้นพบตนเองในวันที่อายุมากแล้ว
จขกท. เจอหมอจบใหม่, พยาบาลจบใหม่ อายุ สี่สิบ+ เขายังมีงานทำ
แต่ที่เมืองไทย อายุเกินสามสิบก็หางานลำบากแล้ว
อยากเห็นสังคมไทยให้โอกาสคนท้องคนอายุเกินสี่สิบมีสิทธิ์ในการทำมาหาเลี้ยงตนเองหรือเริ่มต้นอาชีพใหม่ได้
ไม่งั้นเมืองไทยก็จะมีแต่คนว่างงาน , ขาดการศึกษา เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเป็นภาระให้สังคมอีกด้วย
ในประเทศออสเตรเลีย ดูเหมือนค่าครองชีพจะแพง
แต่หากจะอยู่อย่างประหยัด มันก็มีทางเลือกให้เราอยู่
สินค้าราคาประหยัดที่ทางซุปเปอร์มาเก็ตทำออกมาขายเป็นแบรนด์ตัวเองนั้นราคาถูกมาก คุณภาพก็ไม่ได้เลวร้าย
เสื้อผ้าของใช้ต่างๆ มีลดราคาให้เห็นตลอด
เฟอร์นิเจอร์มือสองราคาถูกมีขายตามอืนเตอร์เน็ต
รถยนต์ราคาถูก หกหมื่นบาทก็เป็นเจ้าของรถราคาสองแสนบาทที่เมืองไทยได้
ที่อยู่อาศัยราคาไม่แพงก็มีให้เลือก และแน่นอนไม่ใช่บ้านมุงสังกะสีบนน้ำเน่า
ส่วนคนที่รายได้ต่ำที่เป็นปชชชาวออสเตรเลีย ก็ไม่จำเป็นต้องทำประกัน
เพราะการรักษาพยาบาลนั้นฟรี และดีอยู่แล้ว
...อ่านทั้งหมด คห.ที่ 46...
ผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วยค่ะ
*ขอลบข้อมูลที่เป็นตัวเลขออกเพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจคลาดเคลื่อนและความขัดแย้งค่ะ