ตุ๋ย มนฤดี ยมาภัย นางเอกเบอร์ 1 ของช่อง 7 ได้รับความนิยมมากจากภาพยนตร์โทรทัศน์ของดาราฟิลม์ (สมัยนั้นยังถ่ายทำในระบบภาพยนตร์โทรทัศน์คือถ่ายด้วยฟิล์มและใช้เสียงพากย์ ) เช่นเรื่อง ทะโมนไพร ดาวพระศุกร์ ดอกโศก อุบัติเหตุ และต่อมาดาราฟิลม์เปลี่ยนเป็นดาราวีดีโอได้ถ่ายทำในระบบละครโทรทัศน์คือใช้ระบบโอบีนำวีดีโอมาบันทึกภาพแทนฟิล์ม และใช้เสียงจริงแทน มนฤดีก็ยังโด่งดังคับฟ้าจากเรื่อง นางแมวป่า พลับพลึงสีชมพู มัสยา นํ้าผึ้งขม บ้านทรายทอง สกาวเดือน สวรรค์เบี่ยง
เมื่อปี2531 ช่อง3ได้ขยายเครื่อข่ายทั่วประเทศ จึงเกิดศึกแย่งตัวมนฤดี ยมาภัยนางเอกยอดนิยมมาจากช่อง7 มนฤดีออกจากช่อง7 ไปอยู่ช่อง3 โดยที่ไม่บอกคุณสุรางค์สักคำ มนฤดีเธอให้สัมภาษณ์ว่า
"ที่ตุ๋ยมาอยู่ช่อง3โดยเซนสัญญาสองปี ก็เพราะมีละครให้สามเรื่องคือมนต์รักอสูร ใครกำหนด และละครตลกอีกเรื่องหนึ่ง(มัจจุราชฮอลิเดย์)ชอบบทประพันธ์เรื่องใครกำหนดมาก จึงยอมทำสัญญา"
ซึ่งพิศาลก็ให้สัมภาษณ์ว่าจะนำละคร"มนต์รักอสูร"มาทำอีกครั้ง และเห็นว่าไม่มีใครเหมาะกับบทของนางเอกเท่ามนฤดี ยมาภัย
มนฤดีทำสัญญากับช่อง3มา4ปี ได้รับเงินเดือนๆล่ะ5หมื่น และค่าตัวละครต่อตอนต่างหาก มีละครให้เล่น5เรื่อง
คือ
1.มนต์รักอสูร
2.มัจจุราชฮอลิเดย์
3.ใครกำหนด
4.แม่หมดแจ๋วแหวว
5.หนี้รัก
และต่อมามนฤดีก็ถูกวางตัวให้เล่นเป็นแม่พลอยใน"สี่แผ่นดิน"
แต่ตอนนั้น(ปี2534)ได้เกิดเหตุแข่งเกมส์ทางธุรกิจทีวีอย่างรุนแรงเพราะทีวีอนุญาตให้แพร่ภาพได้24ชั่วโมง ช่อง7และช่อง3บี้กันสนั่น ช่อง7จึงทาบทามจินหรา สุขพัฒน์ จากบริษัทไฟว์สตาร์โปรดักชั่น ซึ่งขณะนั้นจินตหราเป็นนางเอกหนังใหญ่คนเดียวที่โด่งดังที่สุดมาลงละครทีวีเรื่อง"เชลยศักดิ์"ได้สำเร็จ ช่อง3ซึ่งเป็นพันธมิตรกับไฟว์สตาร์มาตลอดเพราะหนังใหญ่ทุกเรื่องของไฟว์สตาร์จะต้องมาฉายที่ช่อง3(จินตหราจะเซนสัญญากับไฟว์สตาร์เพียงค่ายเดียว หนังที่จินตหราแสดงจึงเป็นของไฟว์สตาร์เท่านั้น ดังนั้นหนังใหญ่ที่แพร่ภาพทางช่อง3 ย่อมมีจินตราเป็นนางเอกทั้งนั้น) ช่อง3ก็รู้สึกเสียหน้า จึงติดต่อกับทางไฟว์สตาร์เพื่อขอจินตรามาเล่นละครด้วย โดยจะให้เล่นละครฟอร์มยักษ์เรื่อง"สี่แผ่นดิน " จึงเกิดการเปลี่ยนตัวแม่พลอยในสี่แผ่นดินขึ้นมาจากมนฤดีมาเป็นจินตหรา
มนฤดีก็เกิดความไม่พอใจขึ้นมา ว่าอะไรฉันอุตส่าห์มาร่วมจมหัวจมท้ายด้วยแต่กลับไปเห็นคนอื่นดีกว่า เธอจึงไม่รับละครช่อง3อีกเลยตั้งแต่บัดนั้น
แม้ว่ามยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช จะทาบเธอเล่นละครเรื่อง"บ้านสาวโสด" แต่เธอก็ปฏิเสธ
และยังมีการวางตัวให้เล่นละครเรื่อง ไฟรักอสูร และสิ้นสวาท แต่เธอไม่รับแสดง และขอกลับมาอยู่กับช่อง7ทั้งที่ยังไม่หมดสัญญากับช่อง3
"ตุ๋ยอยากกลับมาอยู่ช่อง7ค่ะ จะให้เล่นบทอะไรก็ยอม ตัวรองก็ได้ ยินดีนับ1ใหม่ค่ะ จะให้ไปเล่นจักรๆวงศ์ๆก็ได้เพราะตัวเองก็เกิดมาจากตรงนั้น"
"ตุ๋ยหลงทางเดินทางผิดไปค่ะ"
ผมว่าเธอก็พูดไปงั้นแหล่ะ เพราะคิดว่ายังไงก็คงจะได้มายืนอยู่ที่เดิม คือนางเอกเบอร์1ของฃ่อง7เหมือนเดิม แต่ผิดคาด เพราะพอไปๆมาๆ เธอมาอยู่ช่อง7เธอกลับได้บทไม่ดี เช่นภาพอาถรรพณ์ และพรพรหมอลเวง และยังเล่นละครเช้าคู่กับภาณุเดชอีก
"มีคนถามตุ๋ยว่าเล่นละครหลังข่าวของช่อง3ดีๆกลับไม่ชอบ คิดยังไงมาเล่นละครกลางวัน"
แม้เธอจะบอกว่าไม่แคร์ แต่คำพูดเหล่านี้ก็คงทำให้มนฤดีคิดหนัก กระทั่งข่าวบันเทิงไทยรัฐได้ลงข่าวบทสัมภาษณ์ของเธอว่า
ช่วงนี้หลังจบพรพรมอลเวง เธอก็ว่างงาน ตอนนั้นโอเปร์เรเตอรช่อง3ก็ได้รับโทรศัพท์ของมนฤดีถึงประวิทย์ มาลีนนท์
"ถึงตุ๋ยไม่ทำงานกับช่อง3แล้ว แต่ยังไม่หมดสัญญา ข่อง3ก็ยังจ่ายเงินเดือนให้ตลอด เดือนล่ะ5หมื่น เกรงใจก็เลยว่าจะรับละครช่อง3อีกเรื่องคือสิ้นสวาท"
แสดงให้เห็นว่าเธอยังต้องการเป็นนางเอก ไม่ได้ขอบทรอง แต่เพราะความโลเล หรือเพราะเธอไปเล่นบทรองๆในพรพรหมอลเวงหรือไงไม่ทราบ ช่อง3จึงไม่รับนางรองของช่อง7มาเป็นนางเอก นางเอกเรื่องสิ้นสวาทจึงกลายเป็น จริยา สรณคมน์
คุณแดงคงเห็นว่าเธอจงรักภักดีกับช่อง 7 (มั้ง) ถึงได้ให้กลับมาเป็นนางเอกละครฟอร์มใหญ่อีกคือเรื่อง "นางทาส" และนางทาสก็ประสบความสำเร็จสุด ๆ มนฤดีกู้ชื่อเสียงกลับมาอีกครั้ง ทำให้เธอได้รางวัลเมขลาดารานำฝ่ายหญิงมาครอง ต่อมาเธอก็ได้เล่นเป็นนางเอกละครหลังข่าวอีกเรื่องคือ "สารวัตรใหญ่"
ทั้งที่กำลังโด่งดังมากสุด ๆ จาก "นางทาส" และด้วยวัยแค่ 32 แต่แปลกมากที่คุณแดงป้อนบทละครเรื่องต่อมาให้เธอเป็นแม่ใน "กระสือ" และที่น่าเจ็บใจสุด ๆ ก็คือคุณแดงป้อนบทให้เธอใน"ปราสาทสีขาว" เมื่อปี2538 ด้วยบทที่ไม่น่าจะให้มนฤดีแสดง เพราะแทบไม่มีความสำคัญในเรื่องเลย เรียกว่าเป็นตัวประกอบเลยก็ได้ ครั้นต่อมาปี 2538 เธอก็ถูกทาบทามให้แสดงบทแม่อีกใน "ดอกแก้ว" แต่มนฤดีปฏิเสธบทนี้ไป
ด้วยบทที่ทางช่อง 7 เสนอให้มีแต่บทแม่ เธอเลยเลิกรับละครตั้งแต่บัดนั้น ในวัยเพียง32
และต่อมาพอายุ35ก็ก้าวมาเป็นผู้จัดละครฃ่อง7 แรกๆละครของเธอก็ได้ออกอากาศหลังข่าว ไปมาก็มาก่อนข่าว และในที่สุดก็ดองเอาไว้ เธอเลยเลิกจัดละครไปในที่สุด
ผมอยากทราบว่า
ถ้าคุณเป็นมนฤดี ยมาภัย ในช่วงปี2534ที่มีปัญหากับช่อง3 ในเรื่องสี่แผ่นดิน
1.คุณจะอยู่ช่องไหนระหว่างช่อง3 ที่ยังมีงานให้แสดงละครตั้ง3เรื่องคือ
ไฟรักอสูร
สิ้นสวาท
บ้านสาวโสด และอีกหลายเรื่องที่เป็นละครหลังข่าว
กับช่อง7
พรพรมอลเวง บทเป็นตัวรอง
ละครเช้า
กระสือ เป็นแม่
ปราสาทสีขาว เป้นตัวประกอบ
สารวัตรใหญ่ นางเอกแต่บทไม่เด่นเลย
ดีหน่อยก็นางทาส
*******ถ้าเป็นผมจะเป็นดาราอิสระเล่นทุกช่องเลย เพราะมนฤดีเคยให้สัมภาษณ์ว่า
"ช่องอื่นก็มีติดด่อมาเหมือนกัน แต่ไม่อยากไปเพราะอยากทำงานกับช่อง7"
ตอนนั้นช่อง5ก็เปิดละครหลังข่าวนะครับ ไม่ง้อช่อง7 ทำเหมือนดาราทุกวันนี้ไง บางคนดังแล้วปีกกล้าแล้วเล่นทุกช่องเลย เช่นคุณสินจัย เป็นต้น
2. คุณว่าใครฆ่าเธอในช่วงหลัง ตอนนั้นมีคนบอกว่าช่อง3เขี่ยมนฤดีทิ้ง ,แต่ผมว่าไม่จริงเลย เพราะมีงานให้ตลอดเป็นนางเอกละครหลังข่าวด้วย แต่ช่อง7ซิให้เล่นบทอะไรก็ไม่รู้
*********ผมว่าคนฆ่าเธอและทำชื่อเสียงเธอป่นปี้คือช่อง7ต่างหาก ทั้งๆที่ตอนที่เธอกลับ,kช่อง7เธอก็อายุแค่ 29 น่าจะมีฌอกาสดังไปอีก5ปีเป็นอย่างน้อย แต่เธอพินาศหมด และมาพินาศสุดก็ในวัยแค่32ในเรื่อง ปราสาทสีขาวเมื่อปี2538
ไม่ทราบว่าคุณสุรางค์มองเธอยังไง ทั้งที่เธอก็ไม่ใช่ว่าสิ้นหนทาง ช่อง3ก็ยังมีละครให้เล่นหลังข่าวด้วย ช่องอื่นก็ทาบทามเธอ
ผมว่าถ้าเธอยังเป็นดาราช่อง3หรือรับทุกช่อง อาจจะเป็นนางเอกถึงอายุ37 แบบหมิว ลลิตา หรือรับบทเด่นแบบจริยา และเป็นดาราอมตะ ประมาณสินจัย หงส์ไทย (เปล่งพาณิช)
ถ้ามนฤดียังอยู่ช่อง3ต่อก็อาจจะได้ เป้นผู้จัดละครอยู่กระทั่งทุกวันนี้
เพราะช่อง3ค่อนข้างจะรักลูกน้องมากกว่านะ เพราะคุณประวิทย์ เป็นผู้ชายดูๆจะไม่ใส่ใจเรื่องหยุมหยิมนัก
|
|
|
ผมไม่ขอบอกว่าเธอคิดผิดหรือไม่ ที่กลับมาอยู่ช่อง7 เมื่อปี2535 โดยที่มองข้ามช่อง3และช่องอื่น โดยอ้างความภักดี แล้วช่อง7ให้อะไรกับเธอบ้าง ให้โอกาสเธอไหม ที่เธอสำนึกผิด ยอมกลับมาช่อง7ช่องเดียว ทั้งที่เธอยังมีช่องอื่นอ้าแขนรับมากมาย ช่อง7 ให้บทอะไรกับเธอ ไม่สมกับที่เธอจงรักภักดีเลย ดีแค่เรื่อง"นางทาส" เหมือนจะบอกว่าเธอคือนางทาสของช่อง7
เวลามีดาราไปขอคุณสุรางค์ไปเล่นละครช่องอื่น(คุณสุรางค์เจ็บปวดแค่ไหน อุตส่าห์ปั้นมากลับมือ) แต่คุณสุรางค์ ก็ให้ เพราะกล้าขอก็กล้าให้ แต่ขอบอกว่าไปแล้วไปลับอย่ากลับมา ถ้ากลับมาก็จะเป็นไงคงรู้
มนฤดี ยมาภัย, สถาพร นาควิลัย (สำหรับสถาพรนี้ เขาเป็นโดมอนแมน ถูกช่อง7ปั้นจนดัง แต่กลับไปอยู่ช่อง3 พอมีครั้งหนั้งในงานประกวดครบรอบ10ปีโดมอนแมน สถาพร ถูกเชิญมาร่วมงานด้วย และเทปการประกวดโดมอนถูกแพร่ภาพทางช่อง7 รู้ไหมว่าเล่นเกิดอะไรขึ้นกับสถาพร ภาพที่เขากำลังเดินบนเวที ถูกเซนเซอร์หมด ดำปื้ดเลย 5555 เล่นอะไรไม่เล่น ดันมาเล่นกับเจ้าแม่ช่อง7
(ย้อนอดีต) มนฤดี ยมาภัย ดาราย้ายสังกัดจากช่อง 7 มาช่อง 3 ถ้าแพ้อย่ากลับมาที่เก่า ไปตายดาบหน้าดีกว่า
ตุ๋ย มนฤดี ยมาภัย นางเอกเบอร์ 1 ของช่อง 7 ได้รับความนิยมมากจากภาพยนตร์โทรทัศน์ของดาราฟิลม์ (สมัยนั้นยังถ่ายทำในระบบภาพยนตร์โทรทัศน์คือถ่ายด้วยฟิล์มและใช้เสียงพากย์ ) เช่นเรื่อง ทะโมนไพร ดาวพระศุกร์ ดอกโศก อุบัติเหตุ และต่อมาดาราฟิลม์เปลี่ยนเป็นดาราวีดีโอได้ถ่ายทำในระบบละครโทรทัศน์คือใช้ระบบโอบีนำวีดีโอมาบันทึกภาพแทนฟิล์ม และใช้เสียงจริงแทน มนฤดีก็ยังโด่งดังคับฟ้าจากเรื่อง นางแมวป่า พลับพลึงสีชมพู มัสยา นํ้าผึ้งขม บ้านทรายทอง สกาวเดือน สวรรค์เบี่ยง
เมื่อปี2531 ช่อง3ได้ขยายเครื่อข่ายทั่วประเทศ จึงเกิดศึกแย่งตัวมนฤดี ยมาภัยนางเอกยอดนิยมมาจากช่อง7 มนฤดีออกจากช่อง7 ไปอยู่ช่อง3 โดยที่ไม่บอกคุณสุรางค์สักคำ มนฤดีเธอให้สัมภาษณ์ว่า
"ที่ตุ๋ยมาอยู่ช่อง3โดยเซนสัญญาสองปี ก็เพราะมีละครให้สามเรื่องคือมนต์รักอสูร ใครกำหนด และละครตลกอีกเรื่องหนึ่ง(มัจจุราชฮอลิเดย์)ชอบบทประพันธ์เรื่องใครกำหนดมาก จึงยอมทำสัญญา"
ซึ่งพิศาลก็ให้สัมภาษณ์ว่าจะนำละคร"มนต์รักอสูร"มาทำอีกครั้ง และเห็นว่าไม่มีใครเหมาะกับบทของนางเอกเท่ามนฤดี ยมาภัย
มนฤดีทำสัญญากับช่อง3มา4ปี ได้รับเงินเดือนๆล่ะ5หมื่น และค่าตัวละครต่อตอนต่างหาก มีละครให้เล่น5เรื่อง
คือ
1.มนต์รักอสูร
2.มัจจุราชฮอลิเดย์
3.ใครกำหนด
4.แม่หมดแจ๋วแหวว
5.หนี้รัก
และต่อมามนฤดีก็ถูกวางตัวให้เล่นเป็นแม่พลอยใน"สี่แผ่นดิน"
แต่ตอนนั้น(ปี2534)ได้เกิดเหตุแข่งเกมส์ทางธุรกิจทีวีอย่างรุนแรงเพราะทีวีอนุญาตให้แพร่ภาพได้24ชั่วโมง ช่อง7และช่อง3บี้กันสนั่น ช่อง7จึงทาบทามจินหรา สุขพัฒน์ จากบริษัทไฟว์สตาร์โปรดักชั่น ซึ่งขณะนั้นจินตหราเป็นนางเอกหนังใหญ่คนเดียวที่โด่งดังที่สุดมาลงละครทีวีเรื่อง"เชลยศักดิ์"ได้สำเร็จ ช่อง3ซึ่งเป็นพันธมิตรกับไฟว์สตาร์มาตลอดเพราะหนังใหญ่ทุกเรื่องของไฟว์สตาร์จะต้องมาฉายที่ช่อง3(จินตหราจะเซนสัญญากับไฟว์สตาร์เพียงค่ายเดียว หนังที่จินตหราแสดงจึงเป็นของไฟว์สตาร์เท่านั้น ดังนั้นหนังใหญ่ที่แพร่ภาพทางช่อง3 ย่อมมีจินตราเป็นนางเอกทั้งนั้น) ช่อง3ก็รู้สึกเสียหน้า จึงติดต่อกับทางไฟว์สตาร์เพื่อขอจินตรามาเล่นละครด้วย โดยจะให้เล่นละครฟอร์มยักษ์เรื่อง"สี่แผ่นดิน " จึงเกิดการเปลี่ยนตัวแม่พลอยในสี่แผ่นดินขึ้นมาจากมนฤดีมาเป็นจินตหรา
มนฤดีก็เกิดความไม่พอใจขึ้นมา ว่าอะไรฉันอุตส่าห์มาร่วมจมหัวจมท้ายด้วยแต่กลับไปเห็นคนอื่นดีกว่า เธอจึงไม่รับละครช่อง3อีกเลยตั้งแต่บัดนั้น
แม้ว่ามยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช จะทาบเธอเล่นละครเรื่อง"บ้านสาวโสด" แต่เธอก็ปฏิเสธ
และยังมีการวางตัวให้เล่นละครเรื่อง ไฟรักอสูร และสิ้นสวาท แต่เธอไม่รับแสดง และขอกลับมาอยู่กับช่อง7ทั้งที่ยังไม่หมดสัญญากับช่อง3
"ตุ๋ยอยากกลับมาอยู่ช่อง7ค่ะ จะให้เล่นบทอะไรก็ยอม ตัวรองก็ได้ ยินดีนับ1ใหม่ค่ะ จะให้ไปเล่นจักรๆวงศ์ๆก็ได้เพราะตัวเองก็เกิดมาจากตรงนั้น"
"ตุ๋ยหลงทางเดินทางผิดไปค่ะ"
ผมว่าเธอก็พูดไปงั้นแหล่ะ เพราะคิดว่ายังไงก็คงจะได้มายืนอยู่ที่เดิม คือนางเอกเบอร์1ของฃ่อง7เหมือนเดิม แต่ผิดคาด เพราะพอไปๆมาๆ เธอมาอยู่ช่อง7เธอกลับได้บทไม่ดี เช่นภาพอาถรรพณ์ และพรพรหมอลเวง และยังเล่นละครเช้าคู่กับภาณุเดชอีก
"มีคนถามตุ๋ยว่าเล่นละครหลังข่าวของช่อง3ดีๆกลับไม่ชอบ คิดยังไงมาเล่นละครกลางวัน"
แม้เธอจะบอกว่าไม่แคร์ แต่คำพูดเหล่านี้ก็คงทำให้มนฤดีคิดหนัก กระทั่งข่าวบันเทิงไทยรัฐได้ลงข่าวบทสัมภาษณ์ของเธอว่า
ช่วงนี้หลังจบพรพรมอลเวง เธอก็ว่างงาน ตอนนั้นโอเปร์เรเตอรช่อง3ก็ได้รับโทรศัพท์ของมนฤดีถึงประวิทย์ มาลีนนท์
"ถึงตุ๋ยไม่ทำงานกับช่อง3แล้ว แต่ยังไม่หมดสัญญา ข่อง3ก็ยังจ่ายเงินเดือนให้ตลอด เดือนล่ะ5หมื่น เกรงใจก็เลยว่าจะรับละครช่อง3อีกเรื่องคือสิ้นสวาท"
แสดงให้เห็นว่าเธอยังต้องการเป็นนางเอก ไม่ได้ขอบทรอง แต่เพราะความโลเล หรือเพราะเธอไปเล่นบทรองๆในพรพรหมอลเวงหรือไงไม่ทราบ ช่อง3จึงไม่รับนางรองของช่อง7มาเป็นนางเอก นางเอกเรื่องสิ้นสวาทจึงกลายเป็น จริยา สรณคมน์
คุณแดงคงเห็นว่าเธอจงรักภักดีกับช่อง 7 (มั้ง) ถึงได้ให้กลับมาเป็นนางเอกละครฟอร์มใหญ่อีกคือเรื่อง "นางทาส" และนางทาสก็ประสบความสำเร็จสุด ๆ มนฤดีกู้ชื่อเสียงกลับมาอีกครั้ง ทำให้เธอได้รางวัลเมขลาดารานำฝ่ายหญิงมาครอง ต่อมาเธอก็ได้เล่นเป็นนางเอกละครหลังข่าวอีกเรื่องคือ "สารวัตรใหญ่"
ทั้งที่กำลังโด่งดังมากสุด ๆ จาก "นางทาส" และด้วยวัยแค่ 32 แต่แปลกมากที่คุณแดงป้อนบทละครเรื่องต่อมาให้เธอเป็นแม่ใน "กระสือ" และที่น่าเจ็บใจสุด ๆ ก็คือคุณแดงป้อนบทให้เธอใน"ปราสาทสีขาว" เมื่อปี2538 ด้วยบทที่ไม่น่าจะให้มนฤดีแสดง เพราะแทบไม่มีความสำคัญในเรื่องเลย เรียกว่าเป็นตัวประกอบเลยก็ได้ ครั้นต่อมาปี 2538 เธอก็ถูกทาบทามให้แสดงบทแม่อีกใน "ดอกแก้ว" แต่มนฤดีปฏิเสธบทนี้ไป
ด้วยบทที่ทางช่อง 7 เสนอให้มีแต่บทแม่ เธอเลยเลิกรับละครตั้งแต่บัดนั้น ในวัยเพียง32
และต่อมาพอายุ35ก็ก้าวมาเป็นผู้จัดละครฃ่อง7 แรกๆละครของเธอก็ได้ออกอากาศหลังข่าว ไปมาก็มาก่อนข่าว และในที่สุดก็ดองเอาไว้ เธอเลยเลิกจัดละครไปในที่สุด
ผมอยากทราบว่า
ถ้าคุณเป็นมนฤดี ยมาภัย ในช่วงปี2534ที่มีปัญหากับช่อง3 ในเรื่องสี่แผ่นดิน
1.คุณจะอยู่ช่องไหนระหว่างช่อง3 ที่ยังมีงานให้แสดงละครตั้ง3เรื่องคือ
ไฟรักอสูร
สิ้นสวาท
บ้านสาวโสด และอีกหลายเรื่องที่เป็นละครหลังข่าว
กับช่อง7
พรพรมอลเวง บทเป็นตัวรอง
ละครเช้า
กระสือ เป็นแม่
ปราสาทสีขาว เป้นตัวประกอบ
สารวัตรใหญ่ นางเอกแต่บทไม่เด่นเลย
ดีหน่อยก็นางทาส
*******ถ้าเป็นผมจะเป็นดาราอิสระเล่นทุกช่องเลย เพราะมนฤดีเคยให้สัมภาษณ์ว่า
"ช่องอื่นก็มีติดด่อมาเหมือนกัน แต่ไม่อยากไปเพราะอยากทำงานกับช่อง7"
ตอนนั้นช่อง5ก็เปิดละครหลังข่าวนะครับ ไม่ง้อช่อง7 ทำเหมือนดาราทุกวันนี้ไง บางคนดังแล้วปีกกล้าแล้วเล่นทุกช่องเลย เช่นคุณสินจัย เป็นต้น
2. คุณว่าใครฆ่าเธอในช่วงหลัง ตอนนั้นมีคนบอกว่าช่อง3เขี่ยมนฤดีทิ้ง ,แต่ผมว่าไม่จริงเลย เพราะมีงานให้ตลอดเป็นนางเอกละครหลังข่าวด้วย แต่ช่อง7ซิให้เล่นบทอะไรก็ไม่รู้
*********ผมว่าคนฆ่าเธอและทำชื่อเสียงเธอป่นปี้คือช่อง7ต่างหาก ทั้งๆที่ตอนที่เธอกลับ,kช่อง7เธอก็อายุแค่ 29 น่าจะมีฌอกาสดังไปอีก5ปีเป็นอย่างน้อย แต่เธอพินาศหมด และมาพินาศสุดก็ในวัยแค่32ในเรื่อง ปราสาทสีขาวเมื่อปี2538
ไม่ทราบว่าคุณสุรางค์มองเธอยังไง ทั้งที่เธอก็ไม่ใช่ว่าสิ้นหนทาง ช่อง3ก็ยังมีละครให้เล่นหลังข่าวด้วย ช่องอื่นก็ทาบทามเธอ
ผมว่าถ้าเธอยังเป็นดาราช่อง3หรือรับทุกช่อง อาจจะเป็นนางเอกถึงอายุ37 แบบหมิว ลลิตา หรือรับบทเด่นแบบจริยา และเป็นดาราอมตะ ประมาณสินจัย หงส์ไทย (เปล่งพาณิช)
ถ้ามนฤดียังอยู่ช่อง3ต่อก็อาจจะได้ เป้นผู้จัดละครอยู่กระทั่งทุกวันนี้
เพราะช่อง3ค่อนข้างจะรักลูกน้องมากกว่านะ เพราะคุณประวิทย์ เป็นผู้ชายดูๆจะไม่ใส่ใจเรื่องหยุมหยิมนัก
|
|
|
ผมไม่ขอบอกว่าเธอคิดผิดหรือไม่ ที่กลับมาอยู่ช่อง7 เมื่อปี2535 โดยที่มองข้ามช่อง3และช่องอื่น โดยอ้างความภักดี แล้วช่อง7ให้อะไรกับเธอบ้าง ให้โอกาสเธอไหม ที่เธอสำนึกผิด ยอมกลับมาช่อง7ช่องเดียว ทั้งที่เธอยังมีช่องอื่นอ้าแขนรับมากมาย ช่อง7 ให้บทอะไรกับเธอ ไม่สมกับที่เธอจงรักภักดีเลย ดีแค่เรื่อง"นางทาส" เหมือนจะบอกว่าเธอคือนางทาสของช่อง7
เวลามีดาราไปขอคุณสุรางค์ไปเล่นละครช่องอื่น(คุณสุรางค์เจ็บปวดแค่ไหน อุตส่าห์ปั้นมากลับมือ) แต่คุณสุรางค์ ก็ให้ เพราะกล้าขอก็กล้าให้ แต่ขอบอกว่าไปแล้วไปลับอย่ากลับมา ถ้ากลับมาก็จะเป็นไงคงรู้
มนฤดี ยมาภัย, สถาพร นาควิลัย (สำหรับสถาพรนี้ เขาเป็นโดมอนแมน ถูกช่อง7ปั้นจนดัง แต่กลับไปอยู่ช่อง3 พอมีครั้งหนั้งในงานประกวดครบรอบ10ปีโดมอนแมน สถาพร ถูกเชิญมาร่วมงานด้วย และเทปการประกวดโดมอนถูกแพร่ภาพทางช่อง7 รู้ไหมว่าเล่นเกิดอะไรขึ้นกับสถาพร ภาพที่เขากำลังเดินบนเวที ถูกเซนเซอร์หมด ดำปื้ดเลย 5555 เล่นอะไรไม่เล่น ดันมาเล่นกับเจ้าแม่ช่อง7