วางแผนอย่างไร ?

1.ซ้อมให้ถึงวันปกติปั่น 30-40 กิโล วันหยุดจัดทริปยาว 100 - 150 กิโล

2.นั่งบนเบาะให้ได้นานๆ ปั่นให้ได้ 25 - 30 กิโล ค่อยจอดพักครั้งหนึ่ง

3.หัดปั่นกลางแดด เพราะนักปั่นส่วนใหญ่ออกปั่นตอนเช้า - เย็น อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อน ไม่เหนื่อยมาก ถ้าไม่ซ้อมปั่นกลางแดด ร่างกายจะปรับตัวไม่ทันเพราะสูญเสียน้ำในร่างกายเยอะ อาจจะเป็นลมได้

4.เวลา 24 ชั่วโมงมากไป ระยะทาง 200 กิโล ใช้เวลา 12 ชั่วโมงถือว่าเยอะแล้ว ใช้เวลา 12 ชั่วโมง
ความเร็วเฉลี่ยตั้งไว้ที่ 22 - 23 (ซึ่งต่ำมาก) จะปั่นโดยใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง รวมพักอีก 3 ชั่วโมง เท่ากับ 12 ชั่วโมง

5.แบ่งระยะทางการปั่นและพัก จะ 25 , 30 หรือ 50 กิโล พักครั้งหนึ่ง ก็ขึ้นอยู่กับความฟิตของร่างกาย
สมมุติ 25 กิโลพัก 1 ครั้ง ครั้งละ 10 นาที ตลอดทริป 200 กิโล จะัพักเล็กประมาณ 80 นาที พักใหญ่ตอนกินข้าวเที่ยงอาจจะสัก 1 ชั่วโมง พักช่วงบ่าย ตอนแดดแรงอีกสักครึ่งชั่วโมง
ที่ผมสมมุติขึ้นมานี่พักเยอะแล้วนะครับ

6.สัมภาระ ผมไม่รู้ว่าปั่นไปกลับหรือไปนอนค้าง ถ้าทริปเล็กๆปั่นไปกลับหรือค้าง 1 คืน เป้น้ำ 1 ใบก็พอครับ หรือไม่ต้องสะพายอะไรเลย ใส่กระเป๋าหลังเสื้อเอา

7.ทำไมต้องเป้น้ำ ?
เพราะตัวเป้ ถูกออกแบบมาสำหรับปั่นจักรยาน ตัวเป้จะไม่แกว่งไปแกว่งมาในระหว่างปั่น โครงของเป้ถูกออกแบบมาให้ระบายอากาศ ไม่อับเหงื่อเหมือนเป้ทั่วไป

แถมใส่น้ำได้ด้วยและเวลาใส่น้ำเย็นหรือน้ำแข็งลงไป จะทำให้เย็นหลังในระหว่างปั่น ที่สำคัญเก็บความเย็นได้นานกว่ากระติกน้ำจักรยาน

ใส่สัมภาระได้เล็กน้อย เสื้อผ้า ชุดปะ ยางใน สูบพกพา

8.ออกแต่เช้าตรู่ตี 5 - 5.30 น. ช่วงเช้าอากาศเย็นสบาย (ตี 5 - 9 โมงเช้า) ร่างกายไม่เหนื่อยง่ายอยากให้เก็บสะสมระยะทางให้ได้มาก ค่อยไปพักบ่อยๆเอาช่วงบ่าย

9.อุปกรณ์ที่จำเป็น

ก็อุปกรณ์ทั่วไปครับ สูบพกพา ชุดปะ ยางใน ข้อต่อโซ่ปลดเร็ว ตัวตัดโซ่ (2 อย่างหลัง กรณีโซ่ขาด แต่โอกาสเกิดน้อยมาก)

10.เตรียมใจให้พร้อมครับ และถ้าปั่นทางไกลผมจะไม่ปั่นถนนสายหลักครับ เพราะมันร้อนไม่มีต้นไม้สองข้างทาง รถเยอะ ขับเร็วอันตราย
ผมเลือกถนนสายชนบทครับ มีหลังคาต้นไม้สองข้างทาง ได้เห็นวิวสวยๆ พอเหนื่อยก็จอดนั่งพักในศาลา แวะร้านชำก็คุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกับชาวบ้านแถวนั้น

11.ปั่นเสร็จอย่าลืมมารายงานทริปด้วยนะครับ