เสียงเพ้อ !! ...จากมนุษย์เงินเดือน..ที่รับเงินเดือนมาแล้ว 240 เดือนหรือ...กว่า 20 ปี ห่ะ ๆ

วันนี้เห็นเพื่อนสมาชิกตัดพ้อ เพ้อ บ่นหลายกระทู้เลยเอาวิธีคิดแบบกรรมกร กินง่าย  อยู่ง่ายมาแชร์ครับ..

http://ppantip.com/topic/30928182
ผมเอง มนุษย์เงินเดือนของแท้...
ตอนนี้ผมอายุ 40 ต้นๆนะครับ
ผมเริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 23 จบ ป.ตรี ปี 2536 เริ่มงานเงินเดือน 6,500 บาทที่ลำปาง
สมัยนั้น ตอนเรียนค่าข้าวแกงที่แคนทีน 7-12 บาท
ค่าข้าวแกง/ก๋วยเตี๋ยวตอนเริ่มทำงานจานละ 15 บาท
รายได้ที่ผมได้รับ......  ก็ดำเนินชีวิตได้นะครับ
และชีวิตการใช้เงินของท่านบิดาก็สิ้นสุดลง
เมื่อลูกเสือลูกสิงห์แบบผมต้องพึ่งพาขาของตนเองตามวิถี ลูกอิสาน

ตอนนี้ผ่านไป 20 ปีครับที่ผมทำงานเพียงที่เดียวที่เดิมในสายงานอาชีพกรรมกรโรงงาน  
ตอนนี้  วันนี้ค่าข้าวแกงที่ลำปาง จานละ 30-40 บาทครับ
มันขึ้นไปราว ๆ 1 เท่าตัว รึ 100%
หลายท่านหลายกระทู้บ่นว่าเหนื่อย  อยู่ยาก
แต่ผมกำลังอยากบอกว่าท่าน ๆ ทั้งหลายไม่ได้มองว่ารายได้รายรับของท่าน
มันก็ได้เพิ่มขึ้นสูงตามมาด้วยใช่ป่ะครับ

ลองคิดดูแบบที่ผมว่า อย่างผมตอนนี้ รายได้ก็เพิ่มขึ้นนะ
เพิ่มขึ้นในอัตราส่วนที่มากกว่า  ราคาค่าข้าวแกงเยอะอยู่
ประมาณว่าหลายเท่าตัวของรายได้เมื่อปี 2536 เยอะพอควรครับ

ผมว่าหลาย ๆ ท่านก็เป็นแบบนี้  
คือรายได้แต่ละท่านก็มากขึ้นตามทักษะ  
ตามประสพการณ์ จะสามเท่า ห้าเท่า สิบเท่า..ยึ 20 เท่าก็เป็นได้

เพียงแต่ในยุคสมัยนี้
ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตมันรุมเร้าหลายด้าน  
ที่มันต่างจากสมัยก่อน
สิ่งฟุ้มเฟ้อต่าง ๆ ..มันเยอะ   เครื่องทรง เครื่องใช้  เครื่องอำนวยความสะดวกมันต้องครบออฟชั่น
ผมว่าประเด็นนี้มากกว่า.....นี่คือประเด็นหลักที่ทำให้ค่าครองชีพ  สูง

ถามว่าทำไม ค่าครองชีพมันเพิ่มสูงขึ้น
ก็ตอบว่ามันก็ตามความเจริญของเศรษฐกิจ
ก็สูงขึ้นสัมพันธ์กับรายได้ของเรานั่นแหละครับ
ปี 2339 ผมซื้อรถซิวิค 3 ประตูราคา 3 แสนกว่าบาท ( ซื้อผ่อนครับ ผมมันคนรักรถ )
แต่ตอนนี้รถพิกัด 1500cc ราคาก็ราว ๆ 6 แสน บาท  ราคารถมันก็เพิ่มขึ้นเท่าตัว

แต่ท่านอย่าลืมนะครับ ว่ารายได้เรา ๆ ท่าน ๆ ไม่ได้เพิ่มขึ้นแค่ 100% นะครับ
แต่มันเพิ่มหลายร้อย %
บางท่านรายได้มากขึ้น 300% รึบางท่านเพิ่มเป็น 1000 % รึมากกว่าก็มี

ลองคิดแบบนี้ครับ
แล้วท่านน่าจะเข้าใจว่า มันก็เป็นไปตามยุคสมัยและเศรษฐกิจ
รึ..รายได้ประชาชาตินั่นแหละครับ

ผมเองคิดแบบนี้นะ  สบายใจดี
อะไรจะแพงก็ให้มันแพงไปตราบใดที่เศรษฐกิจดีและมีรายได้ดี
มันก็ยังไปต่อกันได้....
อะไรแพงเราก็เลี่ยงเราก็หาทางลดปัญหา

น้ำมันก็เช่นกัน
สมัยก่อนที่ผมทำงานใหม่ ๆ
ราคาน้ำมันลิตรละ สิบกว่าบาท
รถซิวิคสามประตูยุคนั้น เติม 100 บาท วิ่งได้ 120 กิโลผมยังจำได้
ยุคนี้น้ำมันขึ้นราคามาราว ๆ 3 เท่าตัว รึ 300%
ก็ต้องปรับตัวจากที่เคยใช้รถซดน้ำมัน...ก็หันมาใช้ ECO CAR ก็พอไปต่อกันได้

ลองตรองดูครับ ว่าสมเหตุสมผลรึไม่
ทั้งหมดนี้มันเริ่มตั้งแต่ยุคทักษิณ.....ยุคปฎิรูประบบราชการ ที่ทำให้ข้าราชการยุคนี้
มีรายได้จากค่าตำแหน่ง ค่าวิทยาการชำนาญการต่าง ๆ
ที่ดันให้ข้าราขการจากเงินเดือนไม่ถึง 10,000 บาทในยุคนั้น
โดดไปมีรายได้ 3-50,000 บาทภายในเวลาแค่ 10 ปี นี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ค่าครองชีพมันสูงขึ้น

กระชากขึ้นไปเหอะครับ นายกปู  เรื่องค่าครองชีพน่ะ
กรรมกรแบบผมไม่เคยกลัว  ตราบใดที่มีงานทำ  เศรษฐกิจดี  รายได้สูง
ค่าครองชีพจะสูงก็ไม่ได้แปลกอะไร

จะไปกลัวอะไรกับค่าก๋วยเตี๋ยวชามละ 40-50 บาท
ที่ญี่ปุ่นราเม็งข้างถนน  ชามละ2-300 ร้อยบาทเค้ายังกินกันได้....ก็เพราะเค้ามีรายได้ที่มากพอไงครับ

อยากให้เพื่อนสมาชิกลองตรองดูที่มาที่ไป.......และเพื่อการปรับตัวครับ

ม่ะ...เมื่อวานเงินเดือนออก
มาฉลองเบา ๆ กันกับจิ้นนึ่ง....น้ำพริกข่าครับพี่น้องกรรมกร

++++++++++++++++ จบ +++++++++++++++++++
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่